ทำความรู้จักกับสาเหตุของ สิวอุดตัน เกิดจากอะไร? มีวิธีรักษาและป้องกันได้หรือไม่

หลายคนคงจะเคยรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจกับปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียนจากสิวอุดตัน ที่เป็นเม็ดเล็กๆขึ้นอยู่บริเวณใบหน้า และมักพบบริเวณหน้าผากและคาง ซึ่งหากไม่รีบทำการรักษาก็อาจจะทำให้พัฒนากลายเป็นสิวอักเสบได้ ในบทความนี้จึงพามารู้จักกับสาเหตุของการเกิดสิวอุดตัน และวิธีรักษาสิวอุดตันอย่างถูกต้องมาแนะนำ ซึ่งจะมีวิธีอะไรบ้างมาอ่านกันเลย
สิวอุดตัน คืออะไร เกิดจากอะไร?
สิวอุดตัน (Comedones) เกิดจากต่อมไขมันที่เชื่อมติดกับรูขุมขนมีการผลิตน้ำมันมากผิดปกติ ทำให้มีไขมันส่วนเกินใต้ชั้นผิวรวมตัวกับเซลล์ผิวและสิ่งสกปรกที่ตกค้างในรูขุมขน ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นควัน ฝุ่นละออง เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว การล้างเครื่องสำอางไม่หมดจนเกิดการอุดตันขึ้น และนอกจากนี้ยังมีปัจจัยมาจากสาเหตุอื่นๆร่วมด้วย เช่น การทานของทอดของมัน แป้ง และน้ำตาลเป็นประจำนั่นเอง
ลักษณะของสิวอุดตัน
สิวอุดตันเป็นสิวที่มีลักษณะเป็นหัวสิวนูนออกมาจากผิวหนัง แข็งเป็นไต หรืออาจมีลักษณะเป็นเม็ดเล็ก ๆ เมื่อจับไปจะรู้สึกว่าผิวไม่เรียบ และทำให้ผิวมีอาการระคายเคืองหรือบวมแดงได้ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้ไม่รีบรักษา อาจพัฒนากลายเป็นสิวอักเสบได้
ประเภทของสิวอุดตันมี 2 ประเภท
สิวอุดตันหัวปิด(Closed Comedone)
เป็นสิวอุดตันที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็กๆ มองเห็นเป็นจุดสีขาวและไม่มีรูเปิด เนื่องจากรากสิวประเภทนี้จะอยู่ลึกกว่าสอวหัวดำหรือสิวอุดตันหัวเปิด ทำให้สามารถรักษาได้ยากกว่า หากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานนานโดยไม่รีบรักษาสิวอุดตันนี้ก็จะมีการพัฒนาเป็นสิวอุดตันที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และมีโอกาสเกิดการติดเชื้อกลายเป็นสิวอักเสบได้
สิวอุดตันหัวเปิด (Open Comedone)
เป็นสิวอุดตันที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูน และมีหัวสีดำอยู่ตรงกลาง ที่สามารถบีบหรือกดออกจากใต้ผิวหนังได้ง่ายกว่าสิวอุดตันหัวปิด แต่อาจทำให้เกิดการอักเสบและเป็นรอยสิวได้ ซึ่
สาเหตุของการเกิดสิวอุดตัน
สิวอุดตันเกิดจากไขมันส่วนเกินใต้ชั้นผิวและสิ่งสกปรกที่ตกค้างในรูขุมขน รวมถึงเซลล์เยื่อบุผิวหนังที่ตายแล้วจับรวมตัวจนเกิดการอุดตัน ซึ่งจะเกิดภายในรูขุมขนใต้ผิวหนัง และเป็นตุ่มนูนบนผิวหนัง โดยปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดสิวอุดตัน ได้แก่
- เกิดจากการที่ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไป (Sebum production) ทำให้การผลัดเซลล์ผิวทำงานผิดปกติ จนเกิดการอักเสบ
- เกิดจากการอักเสบและการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน (Inflammation and Immune response) ทำให้มีจำนวนเซลล์ผิวเพิ่มขึ้นเร็วกว่าปกติ จนเกิดเป็นสิวอุดตันและสิวอักเสบได้
- เกิดจากเซลล์ผิวหนัง (Keratinocytes) มีการเพิ่มจำนวนมากเกินไป และผลัดเซลล์ผิวเก่าได้ช้าผิดปกติ จนทำให้เกิดการอุดตันที่รูขุมขนได้ง่าย (Follicular epidermal hyperproliferation)
- เกิดจากการทำงานของแบคทีเรียที่มีชื่อว่า C.acnes เหนี่ยวนำให้เกิดการอักเสบ ทำให้จุลินทรีย์ที่อยู่บนผิวหนังเสียความสมดุล (Microbial dysbiosis) จนเซลล์ผิวหนังเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดการอักเสบได้ง่ายขึ้น
สิวอุดตัน มักเกิดบริเวณไหนบ้าง?
- สิวอุดตันที่แก้ม
- สิวอุดตันที่หน้าผาก
- สิวอุดตันที่คาง
- สิวอุดตันที่จมูก
- สิวอุดตันที่หลัง
- สิวอุดตันใต้ผิวหนัง
สิวอุดตันสามารถป้องกันได้หรือไม่?
วิธีลดสิวอุดตันด้วยการป้องกันถือเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ ถึงแม้ว่าจะมีบางปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น อย่างฮอร์โมน และพันธุกรรม แต่เราก็สามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยอื่นๆ เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดสิวอุดตันได้ดังนี้
วิธีกำจัดสิวอุดตัน ด้วยวิธีธรรมชาติ
การป้องกันสิวอุดตันถือเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ ถึงแม้ว่าจะมีบางปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น อย่างฮอร์โมน และพันธุกรรม แต่เราก็สามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยอื่นๆ เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดสิวอุดตันได้ดังนี้
ล้างหน้าให้สะอาดอยุ่เสมอ
การล้างหน้าให้สะอาดอยู่เสมอโดยเวลาหลังการแต่งหน้า แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์Makeup Remover เพื่อช่วยล้างคราบสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่บนผิวได้หมดจดมากขึ้น (ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดสิวอุดตัน) นอกจากนี้ควรเลือกเครื่องสำอางประเภท (non-comedogenic) ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
พักผ่อนให้เพียงพอ
การพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง โดยเฉพาะการนอนในเวลา 4 ทุ่ม จะช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นผลดีที่จะช่วยทำให้ผิวแข็งแรง และเป็นส่วนช่วยลดการเกิดสิวได้อีกหนึ่งวิธี
ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 2-3 ลิตรต่อวัน
การดื่มน้ำมากๆจะช่วยให้ร่างกายสามารถกำจัดของเสียได้มากขึ้น ช่วยทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น และกระตุ้นการทำงานของผิวให้ดีขึ้น จึงทำให้ผิวแข็งแรงและช่วยลดปัจจัยของการเกิดสิวอุดตันที่กวนใจ
ทายาและรักษาสิวโดยแพทย์ผิวหนัง
การรักษาสิวอุดตันด้วยการทายาที่มีการออกฤทธิ์ลดการอุดตัน ลดการอักเสบ และฆ่าเชื้อสิว เช่นคลินดามัยซิน หรือฮีรีโทรมัยซิน จะทำให้สิวอุดตันลดลงได้ แต่หากใช้ยาแล้วไม่ผลแนะนำให้พบแพทย์เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัย และได้รับยารักษาที่ถููกต้อง
การรักษาสิวอุดตัน แบบเร่งด่วน ด้วยวิธีทางการแพทย์

Pora cooling
ผลักวิตามินเข้าสู่ผิวอย่างล้ำลึกเพื่อให้ได้ผิวที่สม่ำเสมอ พร้อมฆ่าเชื้อสิวด้วย Pora cooling เป็นวิธีที่จะช่วยกำจัดสิ่งสกปรก ลดความมัน ควบคุมจำนวนแบคทีเรีย และผลัดเซลล์ผิวที่ตายออกไปเพื่อป้องกันการอุดตัวบนผิว และผลักวิตามินให้ซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้ดีกว่าการทาครีมบำรุง
Made Collagen
เป็นสารวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นไปบนผิวหน้า 16 จุด ตามการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลือง เพื่อให้เกิดการบำบัดและฟื้นฟูสภาพผิวได้ลึกถึงระดับเซลล์ ทำให้ผิวกลับมาแข็งแรง และทนต่อมลภาวะต่างๆโดยไม่ถูกทำร้ายได้ง่ายๆ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ข้อควรรู้ก่อนฉีดมาเด้คอลลาเจน made 16 จุด คือะไร มีความเสี่ยงอะไรบ้าง
ฉีดผิววิตามิน
ฉีดวิตามินผิวเป็นการบำรุงผิวโดยรวม ด้วยการเติมสารอาหารที่จำเป็นผ่านทางเส้นเลือด ซึ่งสามารถช่วยในการกระตุ้นการทำงานของผิวให้กลับมาแข็งแรง สดชื่น กระจ่างใส ควบคุมความมัน และลดช่วยลดโอกาสของการเกิดสิวอุดตันได้อีกด้วย
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ฉีดวิตามินผิว ดีไหม ก่อนฉีดผิวขาวครั้งแรก ควรรู้อะไรบ้าง เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายหลังฉีด
รักษาสิวอุดตันด้วยเลเซอร์ Dual Yellow
เป็นเลเซอร์บำรุงผิวหน้าที่มีการผสมผสานระหว่างความยาวคลื่น 2 ประเภท คือแสงสีเขียวและแสงสีเหลือง ซึ่งประสิทธิภาพในการบำรุงผิวด้วย Dual yellow 1 ครั้ง เทียบเท่าการทำเลเซอร์ทั่วไปถึง 4 ครั้ง ซึ่งจะช่วยในการขับสิ่งสกปรกที่อยู่บนผิว และกระตุ้นให้ผิวแข็งแรงขึ้น และช่วยลดโอกาสการเกิดสิวอักเสบในอนาคตได้อีกด้วย
การดูแลตัวเองเมื่อเป็นสิวอุดตัน
เมื่อพบว่าเป็นสิวอุดตันควรมีการดูแลตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบหรือทิ้งรอยสิวหลังการรักษา ดังนี้
- ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยนสำหรับการรักษาสิวโดยเฉพาะ และไม่ควรล้างหรือถูหน้าแรง ๆ
- ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และหลีกเลี่ยง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพื่อไม่ก่อให้เกิดการอุดตันฝ
- พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่นอนดึก ลดความเครียดและดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ ให้เพียงพอต่อร่างกายในแต่ละวันเพื่อให้เซลล์ผิวได้ฟื้นฟู
- ลดการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาล แป้ง และไขมัน เพื่อลดการความมันและลดโอกาสการเกิดสิวอุดตัน
- ไม่แกะ ไม่บีบสิว หรือไม่สัมผัสบริเวณใบหน้าบ่อย ๆ เพราะผิวอาจเกิดการติดเชื้อจากสิ่งสกปรกที่มือได้
- เช็ดเครื่องสำอางให้หมดจดครั้งและล้างหน้าให้สะอาด
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์กับผิว เช่นผัก ผลไม้ วิตามิน อาหารเสริมต่างๆ
- ทำทรีตเม้นท์บำรุงผิวหน้า หรือทำเลเซอร์หน้าใสเป็นประจำ เพื่อให้ผิวมีการฟื้นฟูได้ไวขึ้น (อ่านเพิ่มเติม : เลเซอร์หน้าใส ช่วยอะไร? เหมาะกับใคร ราคาเท่าไหร่ ทำที่ไหนดี 2022 )
สิวอุดตันหายเองได้หรือไม่?
สิวอุดตันบางส่วนสามารถหายได้เอง โดยการใช้ยาละลายหัวสิวแต้ม แต่อาจจะต้องใช้ระยะเวลา1-2 สัปดาห์ แต่สิวอุดตันบางประเภทก็จำเป็นต้องกดหรือบีบออก แต่ถ้าเป็นสิวอุดตันจำนวนมากแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาแนวทางการรักษาแบบเร่งด่วน
ถ้าเป็นสิวอุดตันจำเป็นต้องหาหมอหรือไม่?
การเป็นสิวอุดตันหากปล่อยทิ้งไว้นานๆ หรือหากได้รับการรักษาที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้สิวอุดตัวนั้นมีการอักเสบหรือทิ้งรอยจากสิวได้ (ซึ่งรอยสิวจะทำการรักษาได้ยากและใช้เวลาค่อนข้างนานกว่า) ดังนั้นหากใครที่มีปัญหาสิวอุดตัน และต้องการได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีโดยไม่ทิ้งรอย การพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการรักษาจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น
สิวอุดตันทำให้เกิดสิวอักเสบได้หรือไม่?
สิวอุดตันอาจจะไม่ได้ส่งผลทำให้เกิดเป็นสิวอักเสบทันที แต่หากปล่อยไว้นานๆโดยไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี เมื่อมีการติดเชื้อหรือมีการกระตุ้นก็สามารถพัฒนาความรุนแรงไปเป็นสิวอักเสบได้เช่นกัน
หากรู้สึกมีสิวอุดตัน สามารถบีบหรือแกะได้หรือไม่?
สิวอุดตันสามารถกดหรือบีบได้ หากรู้วิธีที่ถูกต้องและใช้เครื่องมือที่สะอาด แต่สำหรับคนที่กดหรือบีบสิวไม่เป็นก็จะทำให้ดันหัวสิวลึกลงไปกว่าเดิม หรือทำให้เกิดการอักเสบ จนเกิดเป็นรอยสิวตามมา ดังนั้นจึงขอแนะนำให้กดสิวอย่างถูกวิธีกับผู้เชี่ยวชาญ โดยเครื่องมือเฉพาะ มีความสะอาด เพื่อไม่ทำให้เนื้อเยื่อช้ำ ไม่เกิดรอยดำ รอยแดงจากสิวตามมา
สรุป
การรักษาสิวอุดตันสามารถทำได้ด้วยตัวเอง แต่อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาค่อนข้างนาน และเสี่ยงต่อการเกิดรอยแผลเป็นได้ ดังนั้นหากใคร ที่ต้องการรักษาสิวอุดตันอย่างเร่งด่วนโดยไม่ทิ้งรอยแผลใดๆ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้รับการรักษาอน่างถูกวิธี