ฉีดเมโสแฟต Meso Fat คือ? ช่วยสลายไขมันจุดไหนได้บ้าง ปลอดภัยจริงไหม

เคยไหมมีปัญหาไขมันส่วนเกินเกาะติดไม่ยอมไปไหน ไม่ว่าจะออกกำลังกาย คุมอาหาร หรือแม้กระทั่งทานยาลดน้ำหนัก แต่เซลลูไลท์เหล่านั้นก็ยังคงอยู่ที่เดิม แต่จะให้ไปดูดไขมันก็กลัวเจ็บ ไหนจะไม่มีเวลาให้พักฟื้นอีก จนเริ่มท้อใจ แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ ที่กังนัมคลินิกของเรายังมีอีกหนึ่งวิธีดีๆที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และไม่ต้องทนต่อความเจ็บปวด แถมยังเห็นผลลดไขมันแบบเฉพาะจุดได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย นั่นคือ การฉีดเมโสแฟต สลายไขมัน นั่นเอง


เมโสแฟต คืออะไร ?
เมโสแฟต (Meso Fat) ถูกคิดค้นมาอย่างยาวนานมากกว่า 15 ปี เพื่อแก้ไขปัญหาไขมันส่วนเกินในจุดต่างๆของร่างกาย โดยชาวฝรั่งเศส ซึ่งมีส่วนประกอบของตัวยาหลักดังนี้
- L-carnitine มีหน้าที่ช่วยสลายไขมันตามจุดต่าง ๆ ของร่างกายแล้วเปลี่ยนไขมันมาเป็นพลังงาน
- Mesostabyl ทำหน้าที่ยับยั้งการเกิดไขมันใหม่ หรือ คลอเรสตอรอลในชั้นเนื้อเยื่อต่างๆของร่างกาย
- Tyrosine ทำหน้าที่ช่วยในการเร่งระบบเผาผลาญ ทำให้ระบบการเผาผลาญของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินต่างๆได้มากขึ้น และ เร็วขึ้น
- Artichoke extract มีหน้าที่ลดการสร้างกรดไขมัน และ ช่วยลดไขมันเฉพาะจุดได้ ดังนั้นเมโสแฟตจึงได้รับความนิยมจากสถาบันความงามต่างๆ ในการนำมาฉีดลดไขมันส่วนเกินในจุดที่ต้องการ เช่น การฉีดโสแฟตลดแก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา เป็นต้น
ซึ่งนอกจากตัวยาเหล่านี้แล้ว แพทย์ยังนิยมใช้ในกลุ่มของตัวยา Phosphatidylcholine, Deoxycholate, Dexpanthenol, L-carnitine, Amino acid หรือ Minerals ซึ่งสารเหล่านี้เป็นสารสกัดจากถั่วเหลืองหรือไข่แดงและวิตามินอีกหลายชนิด ซึ่งเป็นสารสกัดที่จากธรรมชาติ จึงทำให้ไม่ส่งผลที่เป็นอันตรายกับร่างกาย มาเพื่อฉีดลดไขมันส่วนเกินแบบเฉพาะจุดอีกด้วย
เมโสแฟต เหมาะกับใครบ้าง ?
- เหมาะกับคนที่มีไขมันส่วนเกินสะสมแบบเฉพาะจุด
- ไขมันสะสมอยู่ในจุดที่ไม่สามารถกำจัดได้ด้วยการออกกำลังกาย
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันแบบเร่งด่วนในงบที่ไม่สูงมาก
- เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการผ่าตัด ดูดไขมัน
- เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาพัหฟื้น และ กังวลต่อการเจ็บปวด


ข้อดีของการฉีดเมโสแฟต
- ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับการดูดไขมัน
- ไม่ต้องเจ็บตัวจากการผ่าตัด
- สามารถลดไขมันได้อย่างตรงจุด
- เห็นผลที่ชัดเจน และ ที่รวดเร็วภายใน 1-3 สัปดาห์หลังฉีด และสามารถคงอยู่ได้นานถึง 3 เดือน
- สามารถช่วยลด คอเลสเตอรอล และไขมันในเส้นเลือดได้
- ทำให้ได้สัดส่วนที่เล็กลงและกระชับขึ้นจากการฉีดเมโสแฟต
- มีความปลอดภัยสูงไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายกับร่างกาย
- ใช้เวลาฉีดไม่นาน
ข้อเสียของการฉีดเมโสแฟต
- ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนั้น จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดี
- ต้องใชัตัวยาแท้ ผ่านการรับรองจาก อ.ย.เท่านั้นเพื่อความปลอดภัย
- เนื่องจากเป็นการสลายไขมันที่ได้รับความนิยมมาก จึงมีการลอกเรียนแบบตัวยาและฉีดโดยผู้ที่ขาดความเชี่ยวชาญ ในราคาที่ถูกกว่าคลิกนิก ทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้บริการ
- ผู้หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตรไม่สามารถทำได้
- ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ได้อยู่ถาวรแต่จะต้องมีการมาฉีดซ้ำเพื่อให้เห็นผลที่ดีที่สุด
- อาจมีอาการบวมประมาณ 1-2 วันหลังฉีด
เมโสแฟต มีกี่ประเภท อะไรบ้าง
- เมโสแฟตสำหรับฉีดบริเวณใบหน้าหน้า เหนียง
- เมโสแฟตสำหรับฉีดบริเวณลำตัว เช่น ต้นแขน ต้นขา สะโพก เป็นต้น
การฉีดเมโสแฟตจะต้องเลือกใช้ตัวยาแต่ละประเภทให้เหมาะสมกับบริเวณที่จะฉีด เพราะความหนาของชั้นไขมันในบริเวณมีความแตกต่างกันเพื่อให้เห็นผลชัดเจนที่สุด
บริเวณไหนบ้างที่นิยมฉีดเมโสแฟต
บริเวณที่นิยมฉีดสลายไขมันเฉพาะจุดบนร่างการได้แก่
- บริเวณแก้ม เพื่อให้ใบหน้าเรียวขึ้น และ ดูเล็กลง
- บริเณเหนียง หรือใต้คาง เพื่อทำให้เห็นกรอบหน้าชัดขึ้น
- บริเวณต้นแขน เพื่อช่วยให้ต้นแขนดูเล็กลงและดูกระชับตึงขึ้นอย่างรวดเร็ว
- บริเวณต้นขา เพื่อปัญหาผิวเปลือกส้ม และ ไขมันมันที่สะสมอยู่บริเวณต้นขา ทำให้ต้นขากระชับ และเล็กลง
- บริเวณสะโพก เพื่อลดขนาดสัดส่วนของสะโพกให้ได้สัดส่วนมากขึ้น


ฉีดเมโสแฟต ที่ไหนดี
- เลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน ใช้ยาแท้ และฉีดโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
- คลินิกที่มีข้อมูลแพทย์ หรือ ตัวยาที่ให้ให้สามารถตรวจสอบได้
- ได้รับความพึงพอใจจากผู้ที่เข้าใช้บริการ
- มีการให้บริการที่ดี ใส่ใจลูกค้า
- สามารถให้คำแนะนำได้อย่างถูกต้องครบถ้วน โดยไม่เน้นการขายที่เกินความจำเป็นให้แก่ลูกค้า
ทำไมควรฉีดเมโสแฟต ที่กังนัมคลินิก
- กังนัมคลินิกเราใช้ยาแท้ ที่ผ่าน อย. ทุกตัวเพื่อความปลอดภัยของลูกค้า
- เรามีเทคนิกในการฉีดเมโสแฟตแบบเฉพาะที่ให้ผลลัพธ์ได้ดีกว่า
- การฉีดเมโสแฟตที่กังนัมคลินิกทำโดยผู้เชี่ยวชาญทุกเคส
- แพทย์จะเป็นผู้ประเมินปริมาณการใช้ยาให้เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้แบบเคสต่อเคส
- เรามีสาขามาก ถึง 10 สาขา ที่เลือกเปิดให้บริการในสถานที่ต่างๆที่ลูกค้าสามารถเดินทางมาใช้บริการได้อย่างสะดวกสบาย
- ฉีดเมโสแฟตที่กังนัมคลินิก ในราคาที่สามารถจับต้องได้ และได้ผลที่คุ้มค้าเกินราคา
- กังนัมคลินิกเราให้บริการแบบจริงใจ ไม่มีการกั๊กตัวยาอย่างแน่นอน
- พนักงานจะคอยให้บริการลูกค้าเป็นอย่างดีตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาใช้บริการ
ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟต
- นัดหมายเพื่อระบุวัน เวลา ที่ลูกค้าสะดวก กับทางคลินิก
- เข้ามาพบคุณหมอตามเวลาที่นัดหมาย เพื่อให้คุณหมอทราบถึงปัญหาของคนไข้ และประเมินปริมาณยาที่ใช้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับปัญหา
- เตรียมยาที่จะใช้สำหรับคนไข้ (ปริมาณยาที่ใช้จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันและบริเวณที่ต้องการกำจัดไขมัน)
- คุณหมอฉีดเมโสแฟตในบริเวณที่กำหนด ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีเท่านั้น เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ
- สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ปกติโดยไม่ต้องพักฟื้นใดๆ

ฉีดเมโสแฟต เจ็บไหม?
เมโสแฟตจะฉีดบริเวณกรอบหน้า เนื้อใต้คาง ซึ่งเป็นบริเวณผิวหนังที่หนาอยู่แล้ว คนไข้จะรู้สึกเหมือนมดกัดขณะฉีด แต่ไม่มีความเจ็บเลย สามารถทนได้แน่นอนไม่จำเป็นต้องแปะยาชา แต่พยาบาลจะประคบน้ำแข็งเพื่อบรรเทาความเจ็บและทำให้ผิวบริเวณนั้นมีความชาก็จะคลายความรู้สึกลงได้ ใช้เวลาในการฉีดสลายแฟตเพียง 5-10 นาทีเท่านั้น ผลลัพธ์จะค่อยๆชัดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป 1-2 สัปดาห์
ฉีดเมโสแฟต vs โบท็อกลดกราม vs ดูดไขมันหน้า
ทั้ง 3 หัตถการอย่าง เมโสแฟต ฉีดโบท็อกลดกราม การดูดไขมันหน้า หรือแม้แต่การใช้เครื่อง Hifu ต่างก็มีจุดเด่นและหลักการทำงานที่แตกต่างกันออกไปรวมไปถึงตัวราคาค่าใช้จ่าย แต่แน่นอนว่าทั้ง 3 หัตถการสามารถทำร่วมกันได้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจมากยิ่งขึ้น
เมโสแฟต | โบท็อกลดกราม | ดูดไขมันหน้า | Hifu | |
---|---|---|---|---|
หลักการทำงาน | ตัวยาที่ฉีดเข้าไปจะไปทำการสลายไขมันให้เกิดการแตกตัวและค่อยๆ สลายจนถูกขับออกจากร่างกายทางเหงื่อและปัสสาวะ และเมื่อไขมันถูกขับออกไปแล้วจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ร่างกายเริ่มมีขนาดที่เล็กลงเรื่อยๆ | ตัวยาที่ฉีดเข้าไปจะไปส่งผลต่อระบบประสาททำให้กล้ามเนื้อเกิดการหยุดทำงานและค่อยๆ หดตัวลงเรื่อยๆ ทำให้รูปร่างภายนอกดูเรียวเล็กขึ้น | เป็นการใช้เครื่องมือดูดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายทีละส่วน โดยหลังทำจะต้องสวมใส่ชุดรัดรูปเพื่อทำให้รูปร่างกระชับเข้าส่วน | ไฮฟูจะใช้คลื่นลงไปสลายไขมันพร้อมช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้เกิดการเรียงตัวจนนำไปสู่การแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย |
ระยะเวลาเห็นผล | 2-3 เดือน | 6-12 เดือน | ถาวร (ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง) | 6-12 เดือน |
การพักฟื้น | ไม่ต้องพักฟื้น | ไม่ต้องพักฟื้น | ปกติจะไม่ต้องพักฟื้น แต่ในบางรายที่มีการดูดไขมันออกเยอะอาจทำให้ร่างกายอ่อนเพลียได้ | ไม่ต้องฟักฟื้น |
ราคา | 2,000-10,000 บาท | 7,000-10,000 บาท | 30,000-100,000 บาท | 5,000-15,000 บาท |
เมโสแฟต ยี่ห้อไหนดี แตกต่างกันอย่างไร
การเลือกฉีดเมโสแฟต ควรเลือกตัวยาให้เหมาะสมกับบริเวณที่จะฉีดและฉัดในปริมาณที่เหมาะสม โดยผู้เชี่ยวชาญ นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด เมโสแฟตที่แพทย์นำมาใช้กับวงการความงามได้แก่
- ยี่ห้อ fnc30 ที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมบริเวณแก้มเยอะ ซึ่งจะช่วยยกกระชับและกำจัดไขมันออกไปอย่างได้ผลที่ชัดเจน ช่วยทำให้ใบหน้าดูเล็กเรียวขึ้น
- ยี่ห้อ babi-lone ซึ่งนำเข้ามาจากประเทศเกาหลี มีเลขจดแจ้ง อย. มันใจได้เลยว่ามีความปลอดภัย 100% เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาแก้มห้อย หย่อยคล้อย โดยตัวยาจะช่วยลดไขมันบริเวณแก้ม และ ช่วยยกกระชับให้แก้มดูยกตึงขึ้นอีกด้วย
- ยี่ห้อ Mesoestetic ซึ่งเป็นตัวยาที่นำเข้ามาจากสเปน สามารถช่วยในการแก้ไขปัญหาไขมันสะสมบริเวณ เหนียง ต้นแขน ต้นขา สะโพก น่อง ให้เล็กลงด้วยกระบวนการเผาผลาญไขมัน จึงให้สัดส่วนดูเฟิร์มกระชับขึ้นได้
เมโสแฟต อยู่ได้นานกี่เดือน
ฉีดเมโสแฟตช่วยสลายไขมันส่วนเกินตามส่วนต่างๆของร่างกายอย่างธรรมชาติ ไขมันจะสลายไปราวๆ 20-30% หลังฉีดเมื่อผ่านไป 1 เดือน และคงผลลัพธ์อยู่ได้ราวๆ 3-4 เดือน จึงแนะนำทำต่อเนื่องทุกๆ 3-4 เดือนเพื่อคงสภาพผลลัพธ์ หากต้องการผลลัพธ์ถาวรมากขึ้นแนะนำควบคุมอาหารลดน้ำหนักร่วมด้วย กรณีมีไขมันส่วนเกินมากแนะนำดูดไขมันจะได้ผลมากกว่าการฉีดเมโสแฟต
เมโสแฟต ทำให้ไขมันหายไปได้อย่างไร
การฉีดเมโสแฟต ตัวยาจะเข้าไปทำการสลายไขมันส่วนเกินที่จับตัวกันเป็นก้อน ทำให้ไขมันละลาย กลายเป็นของเหลว กำจัดออกด้วยระบบการเผาผลาญของร่างกาย โดยระบบการระบายของเสียต่างๆ เช่น ปัสสาวะ หรือ เหงื่อ เป็นต้น
ฉีดเมโสแฟต อันตรายไหม

เมโสแฟตเป็นการฉีดตัวยาที่กระตุ้นโคเอมไซม์ ช่วยลดเนื้อเยื่อไขมันให้ขับออกมาเองโดยธรรมชาติ ตัวยาที่ดีจะสลายไขมันได้โดยไม่ทิ้งความเจ็บปวด หรืออาการบวมหลังการฉีด ในกรณีที่มีอการบวมจะบวมน้อยมากๆ และต้องได้รับการฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและได้รับตัวยาต้องได้รับการรับรองมาตรฐานอย. เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้ารับบริการ หากเลือกฉีดในสถานพยาบาลคลินิกมาตรฐาน ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอันตรายเลย เพราะตัวยาแท้ ฉีดโดยแพทย์เชี่ยวชาญ เมโสแฟตแท้จึงแทบไม่มีอันตรายต่อผู้รับบริการเลย เพราะเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง
ผลข้างเคียงโดยปกติของเมโสแฟต
- หลังฉีดใหม่ๆ อาจมีอาการบวม แสบเล็กน้อย แต่หากแสบแดงร้อนบวม อาจหมายถึงอาการแพ้ ซึ่งเกิดขึ้นได้น้อยมากๆ
- อาจฉีดแล้วไม่เห็นผลเลย หากคนไข้มีไขมันปริมาณมากๆที่ใบหน้า ในเคสที่ต้องการหวังผลให้ใบหน้าเรียว ควรทำร่วมกับการฉีดโบท็อกลดกราม หรือร้อยไหมร่วมด้วย
- หากเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้คุณภาพและมีมาตรฐาน โดยใช้ตัวยาของแท้ในการฉีด ผลข้างเคียงที่ทำให้เป็นอันตรายเช่น เกิดการติดเชื้อหรืออักเสบ แทบจะไม่มีเลย
การเตรียมตัวก่อนฉีดเมโสแฟต เพื่อสลายไขมัน
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- งดการทานยากลุ่มแอสไพริน และ วิตมิน ทีมีผลกับเลือดเช่น น้ำมันปลา พิมโรส แปะก๊วย เป็นเวลาอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
- ไม่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- หากมีอาการแพ้ หรือ โรคประจำตัว ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
การปฏิบัติหลังฉีดเมโสแฟต

- ดื่มน้ำสะอาดในปริมาณมากๆ เพื่อช่วยในการขับไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายได้ไวขึ้น
- ออกกำลังกายเบาๆ เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้นในกรณีที่ฉีดเมโสแฟต บริวาณต้นแขน ต้นขา สะโพก น่อง และหน้าท้อง
- หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น อบซาวน่าและการทำทรีทเม้นท์ต่างๆ รวมไปถึง งดการนวดตัว 1 สัปดาห์ หลังการฉีดเมโสแฟต เพื่อลดการฟกช้ำ
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ และ การสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลง และเสื่อมไวขึ้น
รีวิว Before / After หลังฉีดเมโสแฟต

