แนะนำ 4 ตัวท็อป ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ปลอดภัยผ่าน อย. ไทย 2023

หลายๆ คนที่อยากฉีดฟิลเลอร์น่าจะเคยหาข้อมูลฟิลเลอร์กันมาบ้างแล้ว ว่ามี ฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี แต่ก็ยังลังเลไม่รู้จะฉีดตัวไหนดี? ตัวไหนเหมาะกับฉีดตรงไหนบ้าง? ทความนี้มาตีแผ่ฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อและทุกรุ่นที่ใช้กันในประเทศไทยผ่านการรับรอง อย.และ FDA ให้ดูกันทุกตัว เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจและเสริมความมั่นใจก่อนฉีด ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ในประเทศไทย ถูกผลิตใน 4 ประเทศหลัก คือ สวีเดน อเมริกา สวิตเซอร์แลนด์และฝรั่งเศส เราจะมาดูทุกแบรนด์และทุกรุ่นอย่างละเอียดกันค่ะ
สนใจบริการฉีดฟิลเลอร์ ของแท้และปลอดภัยได้มาตรฐาน โดยกังนัมคลินิก ปรึกษาเรา
1. ฟิลเลอร์ Restylane

ฟิลเลอร์ Restylane เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวีดเดน เป็นฟิลเลอร์ที่แพทย์เลือกใช้อย่างกว้างขวางทั่วโลก ได้รับมาตรฐานทั้ง FDA ไทยและFDA อเมริกา โดยใช้ 2 เทคโนโลยีหลักในการผลิตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง กังนัมคลินิกใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ในการฉีดให้คนไข้ ที่ต้องเติมเต็มร่องลึกและแก้ไขริ้วรอย
- เทคโนโลยี NASHA techology : เน้นการผลิตเพื่อดึงคุณสมบัติอุ้มน้ำ มีโมเลกุลหลากหลายเหมาะกับการฉีดบริเวณที่แตกต่างกัน ผลลัพธ์จะยาวนานและช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื้น
- เทคโนโลยี OBT technology : เน้นเรื่องความยืดหยุ่น เนื้อบางเบา ไหลไปตามจุดที่มีการเคลื่อนไหว ไม่จับตัวเป็นก้อนแต่ยังมีความคงตัว
โดยรุ่นที่ได้รับการยอมรับและถูกใช้ในไทย ได้มาตรฐานผ่าน อย. ไทยในปัจจุบันมีดังนี้
รุ่น
ระยะเวลา (คงอยู่)
เหมาะกับใคร
Restylane Perlane Lyft
12 เดือน
- เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา ความคงตัวสูง เนื้อไม่ฟูหลังฉีด สามารถฉีดเติมได้เรื่อยๆ
Restylane Lyft Lidocaine
12 เดือน
- เหมาะสำหรับเติมคาง ร่องแก้ม ริมฝีปาก มีความคงตัวสูงอยู่ได้นาน
Restylane Lidocaine
12 เดือน
- เหมาะสำหรับเติมริมฝีปาก ใต้ตา ร่องแก้ม
Restylane Defyne
18 เดือน
- เหมาะสำหรับริ้วรอยร่องลึก เช่น ร่องน้ำหมาก ร่องแก้ม และบริเวณที่กระดูกยุบตัวลง เช่นขมับ หน้าโหนกแก้ม ฉีดเสริมแก้มลูกส้ม เนื้อนิ่มปานกลางเน้นความยืดหยุ่นสูง
Restylane Vital Light
6-12 เดือน
- เหมาะสำหรับจุดเล็กๆที่ต้องเน้นความละเอียด เช่น ร่องใต้ตา ริมฝีปาก ในบรรดาฟิลเลอร์ทุกรุ่น ฟิลเลอร์รุ่นนี้จะอนุภาคเล็กที่สุด
Restylane Volyme
18 เดือน
- เหมาะสำหรับฉีดขมับ โหนกแก้มที่ตอบ เนื้อฟิลเลอร์มีความฟู เน้นการเติมวอลลุ่มใบหน้า
Restylane Refyne
12 เดือน
- เหมาะสำหรับเติมริ้วรอยเล็กๆที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น ริ้วรอยใต้ตา
Restylane Classic
12 เดือน
- เหมาะสำหรับเติมร่องลึก เช่น ร่องลึกหน้าผาก ร่องลึกระหว่างคิ้ว รุ่นนี้เป็นรุ่นเดียวที่ไม่มียาชาค่ะ
2. ฟิลเลอร์ Juvederm

ฟิลเลอร์ Juvederm เป็นฟิลเลอร์จากอเมริกา เป็นบริษัทเก่าแก่ที่ผลิตฟิลเลอร์ให้ทั่วโลกมานานกว่า 36 ปี จุดเด่นที่สุดของฟิลเลอร์จูวีเดิร์ม คือ มีความยืดหยุ่นสูง ไม่ค่อยมีปัญหาฉีดแล้วผิวไม่เรียบเนียน หลังฉีดผิวจะเรียบดูเป็นธรรมชาติมาก กังนัมคลินิกจะเลือกใช้ฟิลเลอร์นี้ในคนไข้ที่ต้องการให้ผิวดูฉ่ำน้ำ โดยมีรุ่นย่อยทั้งหมด 5 รุ่นดังนี้
รุ่น
ระยะเวลา (คงอยู่)
เหมาะกับใคร
Juvederm Ultra Plus
12 เดือน
- เหมาะสำหรับริมฝีปากและร่องแก้ม
Juvederm Voluma
18 เดือน
- เหมาะสำหรับเติมคาง ใต้ตาและร่องแก้ม
Juvederm Volift
12 เดือน
- เหมาะกับคนไข้ผิวบาง เติมใต้ตา ร่องลึกระหว่างคิ้ว ริมฝีปาก หรือร่องน้ำหมากที่ไม่ลึกมาก
Juvederm Volbella
12 เดือน
- เหมาะสำหรับเติมน้ำผาก เนื้อกระจายตัวได้ดี โมเลกุลขนาดเล็ก ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน
Juvederm Volite
12 เดือน
- เหมาะสำหรับคนผิวบาง ต้องการฉีดให้ผิวดูอุ้มน้ำ มีความชุ่มชื้น ฉีดได้หลายจุด ทั้งริมฝีปาก ใต้ตา ผิวชั้นตื้น ร่องที่ไม่ลึกมาก
3. ฟิลเลอร์ Perfectha

Perfectha ฟิลเลอร์สัญชาติฝรั่งเศส ฟิลเลอร์น้องใหม่ แต่เป็นที่นิยม ใช้มากในแถบเอเชีย สำหรับกังนัมคลินิกยังไม่นำยี่ห้อนี้มาใช้เพราะยี่ห้อจากฝั่งสวีเดนและอเมริกาให้ผลดีและคนไข้พึงพอใจกับผลลัพธ์หลังฉีดมากที่สุด
- Perfectha Subskin อยู่ได้นาน 12 เดือน เป็นที่นิยมในประเทศเกาหลี นิยมฉีดที่คางและขมับ
4. ฟิลเลอร์ Belotero

Belotero ฟิลเลอร์สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ทุกรุ่นจะอยู่ได้นาน 18 เดือน มีค่าความคงตัวสูง
- Belotero Volume เหมาะสำหรับฉีดร่องลึกใต้ตา ขมับ คาง ปรับรูปคาง เติมแก้มลูกส้ม
- Belotero Intense เหมาะสำหรับร่องแก้ม แก้มตอบ
- Belotero Balance เหมาะสำหรับฉีดบริเวณใต้ตา ริมฝีปาก ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และแก้ปัญหาริ้วรอยเล็กน้อย
- Belotero Soft เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา แก้รอยตีนกา ฉีดแก้ร่องปาก รวมไปถึงฉีดเติมหลุมสิว
ฟิลเลอร์ของจริงและของปลอม ดูอย่างไร?
เบื้องต้นที่คนไข้ควรรู้และสามารถสังเกตได้ด้วยตัวเอง ในการเช็คฟิลเลอร์ก่อนฉีด ควรดูดังนี้
- มีปีที่ผลิต ปีที่หมดอายุชัดเจน
- มีภาษาไทยกำกับเสมอ เพราะได้รับการรับรองมาตรฐานจาก อย. ไทย
- มีเลขล็อต
- สภาพกล่องไม่ถูกแกะหรือมีรอยแกะมาก่อน
- มีเลข Reference number ซึ่งคนไข้สามารถนำเลขไปเช็คกับทางบริษัทผู้ผลิตได้เลย
สำหรับคนไข้กังนัมคลินิก คุณหมอจะโชว์กล่องให้คนไข้ดูทุกครั้งก่อนฉีด โดยคนไข้สามารถนำกล่องฟิลเลอร์ลับบ้านได้เลยค่ะ อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : 10 จุดสังเกตฟิลเลอร์ปลอม ของแท้ดูยังไง ต้องเช็คอะไรบ้าง?
ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ เหมาะกับฉีดบริเวณใด? กังนัมคลินิกจะแนะนำคนไข้ฉีดดังนี้ค่ะ
บริเวณที่ฉีด
คุณสมบัติ
ยี่ห้อที่แนะนำ
บริเวณใต้ตา
จำเป็นต้องใช้ฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่น เนื้อไม่ฟู หลังฉีดผิวจะเรียบ
- Restylane vital light
- Restylane Lyft Lidocaine
- Restylane Lidocaine
- Juvederm Volbella
บริเวณคาง
จำเป็นต้องใช้ฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง
- Juvederm Voluma
บริเวณร่องแก้ม
ต้องยืดหยุ่นได้ดีตามการเคลื่อนไหว
- Restylane vital light
- Restylane Lyft Lidocaine
- Restylane Lidocaine
- Juvederm Volbella
บริเวณปาก
ต้องยืดหยุ่นได้ดีตามการเคลื่อนไหว
- Restylane vital light
- Restylane Lyft Lidocaine
- Restylane Lidocaine
- Juvederm Volbella
บริเวณขมับ
ต้องยืดหยุ่นได้ดีตามการเคลื่อนไหว
- Restylane vital light
- Restylane Lyft Lidocaine
- Restylane Lidocaine
- Juvederm Volbella
บริเวณหน้าผาก
ต้องยืดหยุ่นได้ดีตามการเคลื่อนไหว
- Restylane vital light
- Restylane Lyft Lidocaine
- Restylane Lidocaine
- Juvederm Volbella
ส่วนบริเวณแก้มลูกส้ม จะใช้เทคนิคการฉีดโดยใช้ที่มีความหนาร่วมกับฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูงร่วมกัน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติ โดยจะพิจารณาความหนาของผิวก่อนฉีดอีกครั้ง
ในการฉีดฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อให้คนไข้แต่ละเคส มีหลายปัจจัยที่คุณหมอจำเป็นต้องพิจารณา เช่น ลักษณะผิวคนไข้เป็นผิวบางหรือผิวหนา ตลอดจนพิจารณาความลึกของร่องลึกนั้นๆที่คนไข้ต้องการเติมด้วย การเลือกยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์จึงเป็นไปตามดุลพินิจของคุณหมอเป็นสำคัญ และฟิลเลอร์รุ่นเดียวกันไม่สามารถฉีดได้ทุกจุดบนใบหน้า เนื่องจากฟิลเลอร์แต่ละรุ่นถูกผลิตด้วยเทคโนโลยีให้มีลักษณะกายภาพ เนื้อสัมผัส ความยืดหยุ่น ความคงตัวที่แตกต่างกันเพื่อให้ฉีดบริเวณผิวที่แตกต่างกันนั่นเอง