รู้จักโบท็อกซ์อเมริกา Botox allergan ดีไหม? ผลลัพธ์อยู่ได้กี่เดือน? เหมาะกับใคร

โบท็อกซ์ Allergan ดีจริงไหม

ในยุคนี้เชื่อว่าใครก็คงจะเคยได้ยินหรือคุ้นหูคำว่า โบท็อกซ์อเมริกาหรือโบท็อกซ์ Allergan ถือเป็นยี่ห้อโบท็อกซ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลก แต่ทว่าหลายคนก็สงสัยว่าฉีดแล้วดีจริงไหม ช่วยลดกราม ปรับหน้าวีเชฟได้จริงหรือไม่ ในบทความนี้เราได้รวบรวมคำตอบมาไว้ให้แล้ว

รู้จักกับโบท็อกซ์ Allergan คืออะไร

โบท็อกซ์ Allergan คืออะไร

เป็นหนึ่งในยี่ห้อโบท็อกซ์หรือสารโบทูลินิมท็อกซินเอ (Botulinum toxin A) ที่เป็นสารพิษที่ถูกสกัดมาจากแบคทีเรียคลอสตริเดียมโบทูลินัม (Clostridium botulinum) ที่จะเข้าไปช่วยในการปรับแก้ปัญหาผิวอย่างการช่วยลดริ้วรอย ร่องลึก แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย รวมไปถึงช่วยปรับรูปหน้าให้มีความเรียววีเชฟมากยิ่งขึ้น

โบท็อกซ์ Allergan ของประเทศอะไร

โบท็อกซ์ Allergan ถือเป็นยี่ห้อโบท็อกซ์จากประเทศอเมริกาที่ถูกผลิตขึ้นโดยบริษัทอัลเลอร์แกน (Allergan) บริษัทเดียวกับฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm และเครื่อง Coolsculpting ซึ่งถือเป็นโบท็อกซ์ยี่ห้อแรกของโลกและเป็นยี่ห้อแรกที่ได้รับการรับรองจาก US FDA ที่ถูกผลิตขึ้นมา และได้รับการยอมรับจากแพทย์หลายล้านคนทั่วโลก

หลักการทำงานของโบท็อกซ์ Allergan

เนื่องจากสารโบท็อกซ์นั้นถูกสกัดมาจากแบคทีเรียจึงทำให้หลักการทำงานคือ การเข้ารบกวนระบบประสาทส่วนที่ทำหน้าที่ในการควบคุมกล้ามเนื้อในจุดที่ฉีด ทำให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นเกิดการหยุดทำงานและหดเกร็งตัวขึ้นแบบชั่วคราวจนทำให้ริ้วรอย ร่องลึกจางหายไป รวมไปถึงการทำให้กรามเกิดการหดตัวจนทำให้ใบหน้าเรียวเล็กขึ้นนั่นเอง

จุดเด่นของโบท็อกซ์ Allergan

จุดเด่นของโบท็อกซ์ Allergan
  • ตัวยามีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% ทำให้ตัวยากระจายตัวได้ดี
  • ฉีดแล้วเห็นผลไว และสามารถเห็นผลได้นานกว่าโบท็อกซ์จากฝั่งเกาหลี
  • มีงานวิจัยเข้ามารองรับถึงความปลอดภัยและการเห็นผลอย่างมากมายทั่วโลก
  • ตัวยามีโมเลกุลใหญ่ทำให้แพทย์สามารถฉีดได้ง่ายและแม่นยำมากขึ้น

โบท็อกซ์ Allergan ฉีดส่วนไหนได้บ้าง

จริงๆ แล้วโบท็อกซ์ Allergan นั้นสามารถใช้ฉีดแก้ปัญหาผิวได้หลายจุดเหมือนกับยี่ห้ออื่นๆ ซึ่งจุดที่นิยมจะมีดังนี้

  • บริเวณหัวคิ้ว หน้าผาก เพื่อลดริ้วรอย ร่องลึก
  • บริเวณแก้ม เพื่อแก้ร่องลึก ร่องน้ำหมากและช่วยกระชับรูขุมขน
  • บริเวณปีกจมูก เพื่อลดขนาดปีกจมูก แก้ทรงจมูกใหญ่ จมูกชมพู่
  • บริเวณกราม เพื่อปรับขนาดรูปหน้ามีความเรียววีเชฟมากขึ้น
  • บริเวณแขน เพื่อลดขนาดต้นแขน แก้ปัญหาแขนใหญ่
  • บริเวณขา เพื่อปรับขาเรียวเหมาะมากกับคนขาใหญ่จากกล้ามเนื้อ
  • บริเวณรักแร้ เพื่อช่วยลดเหงื่อ

ฉีดโบท็อกซ์ Allergan ต้องใช้กี่ยูนิต

ฉีดโบท็อกซ์ Allergan ต้องใช้กี่ยูนิต

โดยส่วนใหญ่แล้วการฉีดโบท็อกซ์จะเริ่มฉีดในปริมาณ 50 ยูนิตเพื่อช่วยลดปัญหาริ้วรอย ร่องลึกตามจุดต่างๆ แต่หากจะฉีดเพื่อแก้ริ้วรอยทั่วใบหน้าและต้องการปรับรูปหน้าร่วมด้วยจะต้องใช้ปริมาณโบท็อกซ์อยู่ที่ 100 ยูนิตขึ้นไป แต่ทั้งนี้ก่อนฉีดควรจะต้องเข้าปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดเพื่อให้แพทย์ทำการประเมินและช่วยคำนวณปริมาณโบท็อกซ์ก่อน

ใครเหมาะและไม่เหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์ Allergan

ผู้ที่เหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์ Allergan

  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึก ตามจุดต่างๆของใบหน้าไม่ว่าจะเป็นหน้าผาก แก้ม หรือรอบๆ ดวงตา
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับเต่งตึง
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้มีความเรียวเข้ารูป หรือต้องการปรับรูปหน้าทรงวีเชฟ

ผู้ที่ไม่เหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์ Allergan

  • สตรีที่กำลังอยู่ในช่วงระหว่างตั้งครรภ์หรืออยู่ระหว่างช่วงให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีความปกติของระบบกล้ามเนื้อในร่างกาย เช่น เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • ผู้ที่มีรอยแผล ผื่นคัน รอยแดง เกิดขึ้นในบริเวณที่จะฉีด ควรเลื่อนการฉีดออกไปและรักษาอาการดังกล่าวให้หายเสียก่อน

Botox Allergan กี่วันเห็นผลและอยู่ได้นานไหม

สำหรับการเห็นผลหลังฉีดนั้นก็ต้องบอกว่าถือเป็นยี่ห้อโบท็อกซ์ที่สามารถเห็นผลได้ภายใน 3-5 วันหลังฉีด โดยจะเริ่มรู้สึกเลยว่าริ้วรอยต่างๆ จะค่อยๆ จางลง ส่วนหากเรื่องการฉีดเพื่อปรับรูปหน้านั้นจะสามารถเห็นผลได้แบบชัดเจนประมาณ 1 เดือนหลังฉีด ซึ่งจะสามารถอยู่ได้นาน 6-8 เดือน

โบท็อกซ์ Allergan ฉีดแล้วปลอดภัยไหม

หลายคนอาจเกิดความสงสัยว่าหลังจากฉีดโบท็อกซ์ Allergan จะมีความอันตรายหรือส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวหรือไม่ คำตอบคือไม่อันตรายเลยเนื่องจากตัว โบท็อกซ์ Allergan ได้ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากอย. ไทย และอย.อเมริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งได้มีงานวิจัยเข้ามารองรับมากถึง 3,000 กว่าวิจัยถือเป็นสิ่งที่การันตีได้ถึงความปลอดภัย

วิธีเช็คโบท็อกซ์ Allergan ของแท้

หากใครที่กำลังสนใจหรืออยากเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ Allergan นั้นข้อสำคัญเลยก็คือควรฉีดกับตัวยาของแท้ ซึ่งมีวิธีการตรวจเช็ค ดังนี้

  • โบท็อกซ์ยี่ห้อ Allergan จะประกอบไปด้วย 2 ขนาดก็คือ แบบ 100 ยูนิตและแบบ 50 ยูนิต
  • ในกล่องจะมีฉลากภาษาไทยกำกับ รวมไปถึงการระบุเลขทะเบียนอย.
  • รูปแบบของกล่องคือจะมีลักษณะที่เปิดออกด้านข้างกล่อง
  • ที่ตัวขวดจะมีสติกเกอร์โฮโลแกรมเขียนคำว่า Allergan อยู่
  • ที่ตัวกล่องบรรจุภัณฑ์และที่ขวดยาจะมีการระบุเลขลอตที่ผลิต ซึ่งตัวเลขทั้ง 2 จุดจะต้องเป็นตัวเลขเดียวกัน

ข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อย. ของโบท็อกซ์ Allergan ในไทย

นอกจากโบท็อกซ์ Allergan แล้วยังมียี่ห้อไหนอีก

จริงๆ แล้ว ณ ตอนนี้ที่ประเทศไทยได้มียี่ห้อโบท็อกซ์ที่ผ่านการรับรองจากอย. แล้วถึง 8 ยี่ห้อด้วยกันคือ Allergan, Dysport, XEOMIN, CLODEW, BTXA, NABOTA, Aestox และ HUGEL ซึ่งยี่ห้อที่กังนัมคลินิกขอแนะนำเพิ่มอีก 4 ยี่ห้อคือ

  • Dysport
    เป็นยี่ห้อโบท็อกซ์จากประเทศอังกฤษ ถือเป็นอีกยี่ห้อที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากตัวยาของโบท็อกซ์จะมีโมเลกุลที่เล็กกว่า โบท็อกซ์ยี่ห้อ Allergan จากอเมริกาและโบท็อกซ์จากประเทศเกาหลี ทำให้ฉีดแล้วสามารถเห็นผลได้ไว และเห็นผลอย่างเป็นธรรมชาติ ฉีดแล้วหน้าไม่แข็งตึง
  • XEOMIN
    เป็นยี่ห้อโบท็อกซ์จากประเทศเยอรมันถือเป็นโบท็อกซ์เข้มข้นที่มีความบริสุทธิ์ปปราศจากสิ่งแปลกปลอม ทำให้สามารถเห็นผลไว เห็นผลนานและมีโอกาสดื้อโบท็อกซ์ได้น้อยกว่ายี่ห้ออื่นๆ จึงทำให้ยี่ห้อนี้เป็นอีกยี่ห้อมาแรงในประเทศไทย
  • Aestox
    เป็นยี่ห้อโบท็อกซ์จากประเทศเกาหลีถือเป็นอีกยี่ห้อที่ได้รับคาวมนิยมในไทยเนื่องจากถือเป็นยี่ห้อโบท็อกซ์ที่ได้ทำงานวิจัยร่วมกับรพ.ศิริราช ทำให้สามารถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและการเห็นผลลัพธ์หลังฉีด แต่มีข้อเสียคือจะมีอายุการเห็นผลที่น้อยกว่า โบท็อกซ์ Allergan และโบท็อกซ์ XEOMIN
  • NABOTA
    เป็นยี่ห้อโบท็อกซ์จากประเทศเกาหลีอีกหนึ่งยี่ห้อที่หลายๆ คนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดี เพราะถือเป็นโบท็อกที่มีประสิทธิภาพไม่น้อยหน้ายี่ห้ออื่นๆ เนื่องจากมีตัวยาที่เป็นโปรตีนแบบบริสุทธิ์ ทำให้เห็นผลได้ไว เห็นผลได้นาน 4-5 เดือน ที่สำคัญฉีดแล้วจะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติอย่างมาก ใครที่อยากสวยแบบสาวเกาหลีแนะนำยี่ห้อนี้เลย

ฉีดโบท็อกซ์ Allergan เจ็บไหม

ต้องแจ้งเลยว่าในส่วนของขั้นตอนการฉีดโบท็อกซ์นั้นก่อนฉีดจะทำการทายาชาหรือใช้การประคบเย็นเข้าช่วยเพื่อทำให้ผิวส่วนนั้นเกิดอาการชาก่อนแล้วจึงเริ่มฉีด ซึ่งในคนไข้บางรายอาจจะไม่รู้สึกเจ็บเลยหรือรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ เพียงเล็กน้อย เหมือนกำลังถูกมดกัดซึ่งถือเป็นความเจ็บที่สามารถทนได้

ผลข้างเคียงหลังฉีดโบท็อกซ์ Allergan มีอะไรบ้าง

ผลข้างเคียงหลังฉีดโบท็อกซ์ Allergan

อาการหลังฉีดโบท็อกซ์ Allergan นั้นจะมีอาการผลข้างเคียงที่หลายคลึงกับผลข้างเคียงของโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่นๆ เช่น มีอาการปวด บวม หรือตึงผิว ซึ่งถือเป็นอาการชั่วคราวที่จะสามารถหายไปได้เองภายใน 7-14 วัน โดยคนไข้เองสามารถใช้การประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการดังกล่าวได้เบื้องต้น

การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์ Allergan

หลังจากที่ทราบข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโบท็อกซ์ Allergan ไปแล้ว ต่อเรามาดูกันบ้างว่าการเตรียมตัวก่อนฉีดนั้นมีอะไรบ้าง

  • งดการขัดผิว สครับผิว หรือใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิวอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนฉีดเพราะจะทำให้เกิดรอยแดง รอยเข็มหลังฉีดได้ง่าย
  • งดการใช้ยาบางกลุ่มที่จะส่งผลต่อการหยุดไหลของเลือดหรือยากลุ่มที่จะทำให้เกิดผิวช้ำได้ง่ายกว่าปกติ เช่น กลุ่มยาแก้ปวด, ยาแอสไพริน, สารสกัดใบแปะก๊วย, วิตามินอี และน้ำมันปลา เป็นต้น
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการทานอาหารแสลงอย่าง อาหารทะเล ของหมักดอง ซึ่งจะไปกระตุ้นทำให้ผิวเกิดการบวมช้ำ หรือกระตุ้นอาการอักเสบระคายเคืองได้มากยิ่งขึ้น

ขั้นตอนการฉีดโบท็อกซ์ Allergan

ในพาร์ทของขั้นตอนก่อนฉีดโบท็อกซ์นั้นไม่ได้มีขึ้นตอนที่ยุ่งยากมากนัก และจะใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 30-60 นาทีเท่านั้น

  1. เข้าปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์ทำการอธิบายวิธีและเทคนิคการฉีด รวมไปถึงพูดคุยถึงผลลัพธ์ที่ต้องการหลังฉีด
  2. เริ่มทำความสะอาดผิว
  3. ทายาชาหรือใช้การประคบเย็นเพื่อทำให้จุดที่ฉีดเกิดความรู้สึกชา
  4. เริ่มทำการฉีดตัวยาลงสู่ชั้นผิวทีละจุดจนครบ
  5. ทายาแก้อักเสบและฟังคำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังฉีด

การดูแลหลังฉีดโบท็อกซ์ Allergan

อีกหนึ่งส่วนสำคัญในการฉีดโบท็อกซ์ให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีนั้นก็คือการดูแลตัวเองหลังฉีด ซึ่งจะต้องมีข้อปฏิบัติ ดังนี้

  • งดนอนราบหลังฉีดในเวลา 4 ชั่วโมงแรก
  • งดนวดผิว หรือสครับผิวหลังฉีดเป็นเวลา 1 เดือนเพื่อป้องกันอาการระคายเคือง
  • หลังฉีดใน 1 ชั่วโมงแรกควรทำการขยับผิวหรือแสดงสีหน้าเยอะๆ เพื่อให้ตัวยาโบท็อกซ์สามารถกระจายตัวได้ดี
  • งดทำหัตถการผิวที่ต้องใช้ความร้อนเช่น เลเซอร์ ทรีตเม้นท์ หรือเครื่องยกกระชับผิวเป็นเวลา 1 เดือนหลังฉีดเพื่อให้ตัวยาโบท็อกซ์เข้าที่ในร่างกายก่อน
  • งดอยู่ในที่อากาศร้อนเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์หลังฉีด เช่น อาบแดด ซาวน่า ออกกำลังกายในที่แจ้ง เป็นต้น
  • งดใส่หมวกหรืออุปกรณ์ที่จะรัดผิวหลังฉีดเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์

ราคาค่าฉีดโบท็อกซ์ Allergan

ที่กังนัมคลินิกเรามีบริการฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อ Allergan ในปริมาณขวดละ 100 ยูนิตในราคา 18,000 บาท ซึ่งคนไข้เองสามารถเลือกแบ่งฉีดเป็น 2 ครั้ง ครั้งละ 50 ยูนิตได้หรือจะฉีดทีเดียวจำนวน 100 ยูนิตก็ได้เช่นกัน ซึ่งทั้งนี้ควรเข้ารับการประเมินจากแพทย์ผู้ฉีดเสียก่อนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจแบบสูงสุด

เลือกฉีดโบท็อกซ์ Allergan ที่ไหนดี

สำหรับใครที่กำลังมองหาคลินิกที่จะฉีดโบท็อกซ์ Allergan นั้น เราขอแนะนำที่กังนัมคลินิก คลินิกที่เหล่าดาราและเน็ตไอดอลหลายๆ คนแนะนำ ซึ่งมีจุดเด่นดังนี้

  • เราใช้โบท็อกซ์ของแท้ที่นำเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย และผ่านอย.แล้วทุกขวด
  • เรามีผู้เชี่ยวชาญเป็นผู่ทำการฉีดให้แก่คนไข้ทุกราย ทุกเคส
  • เรามีสาขาและเลือกอย่างมากมาย และทุกสาขาจะมีผู้เชี่ยวชาญประจำสาขาอยู่ให้บริการ
  • เรามีการตั้งราคาที่คนไทยสามารถเอื้อมถึงได้
  • เรามีช่องทางการติดต่อที่สะดวกทั้งเบอร์แต่ละสาขา ไลน์แอดและเฟซบุ๊ก

สรุป

โบท็อกซ์ Allergan นั้นถือเป็นโบท็อกซ์สัญชาติอเมริกาที่เป็นโบท็อกซ์ยี่ห้อแรกของโลก ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางเนื่องจากตัวยามีความบริสุทธิ์ถึง 99.5% ทำให้ตัวยาสามารถกระจายตัวในผิวและเห็นผลได้ไว เห็นผลได้ดี และเห็นผลนานถึง 6-8 เดือน ถือเป็นยี่ห้อโบท็อกซ์ที่แพทย์หลายๆ คนแนะนำ สำหรับใครที่กำลังมองหาคลินิกหรืออยากสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์เพิ่มเติมนั้นสามารถติดต่อได้ที่ Line : @gangnamclinic

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง