ฉีดฟิลเลอร์จมูก เหมาะกับใครบ้างและปลอดภัยไหม

ฟิลเลอร์จมูก แบบไหนดี เหมาะกับใคร

ฟิลเลอร์จมูกคืออะไร

อะไรคือฟิลเลอร์จมูก

การฉีดสารเติมเต็มอย่างสารไฮยาลูรอนิค เอซิด (hyaluronic acid) เข้าไปช่วยปรับแก้รูปจมูกเติมให้มีความสวยงามเข้ารูปมากยิ่งขึ้น เนื้องจากเนื้อฟิลเลอร์นั้นจะสารที่มีความบริสุทธิ์ที่ใกล้เคียงกับสารไฮยาลูรอนิค เอซิดที่มนุษย์สร้างขึ้นเอง จึงทำให้วิธีการฉีดฟิลเลอร์นั้นมีความเสี่ยงต่อการอักเสบ ระคายเคืองได้ต่ำมากๆ

ฉีดฟิลเลอร์จมูกเหมาะกับใคร

สำหรับฟิลเลอร์จมูกแล้ว หากไม่จำเป็นจริงๆ แพทย์จะไม่แนะนำให้ทำเลย เพราะการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและสวยกว่า เว้นแต่คนไข้กลัวการผ่าตัดจริงๆ ไม่อยากผ่าตัดจมูก มีอาการแพ้ยานอนหลับหรือยาสลบก็สามารถเลือกฉีดฟิลเลอร์จมูกได้ โดยข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์จมูกมีอยู่ค่อนข้างมาก ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่เป็นอย่างที่ต้องการ แพทย์จะแนะนำแบบเคสบายเคส

จมูกลักษณะแบบไหน เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์จมูกบ้าง

จมูกแบบไหนเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์จมูกเหมาะกับเคสคนไข้ที่จมูกมีความสูงสันและความกว้างของสันจมูกพอดีแล้ว ต้องการแค่เพิ่มความสูงสันจมูกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น กรณีนี้คุณหมออาจพิจารณาแนะนำฉีดฟิลเลอร์จมูกแทนการเสริมซิลิโคนให้ได้ แต่กรณีที่คนไข้มีสันจมูกเตี้ย หรือฐานจมูกกว้างมาก หรือมีปัญหาจมูกกระดูกฮัมพ์หลังอูฐต้องการให้สันจมูกเรียบ กรณีแบบนี้ฟิลเลอร์ไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ดังนั้น การฉีดฟิลเลอร์จมูกเหมาะสำหรับเพิ่มความสูงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากคนไข้มีความต้องการเปลี่ยนแปลงรูปทรงจมูกรวมถึงแต่งปลายจมูกให้ยาวขึ้น การผ่าตัดเสริมจมูกยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้ค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์จมูก Vs ร้อยไหมจมูก ต่างกันอย่างไร

ฉีดฟิลเลอร์จมูกต่างกับร้อยไหมจมูกยังไง

การฉีดฟิลเลอร์จมูกเหมาะสำหรับคนไข้ที่ต้องการเพิ่มสันจมูกสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่แพทย์จะแนะนำร้อยไหมมากกว่า เพราะมีความปลอดภัยกว่า ไม่เสี่ยงต่อการกระทบหลอดเลือดและเส้นประสาท โดยไหมที่ใช้จะเป็นไหมละลาย

แต่ข้อเสีย คือ แม้จะเป็นไหมละลายแต่หากทำแล้วไม่ชอบ ไม่สามารถฉีดสลายได้เหมือนฟิลเลอร์ ต้องรอระยะเวลาให้ไหมสลายไปเอง

ร้อยไหมจมูกเหมาะกับใครบ้าง

  • เหมาะกับคนไข้ที่มีสันจมูกสูงอยู่แล้ว แต่ต้องการให้สันแกนจมูกดูคมขึ้นและทำให้ปลายจมูกยาวขึ้น
  • เหมาะสำหรับเคสที่มีมีแนวสันจมูกสูงออยู่แล้วจึงสามารถร้อยไหมได้
  • เหมาะสำหรับคนไข้ที่ไม่อยากพักฟื้น หรือกลัวการผ่าตัดมากๆ
  • ข้อควรระวังการร้อยไหมจมูกจะต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น และจะไม่ใช้ไหมจำนวนเยอะเกินไปเพราะจะทำให้เกิดพังผืดในอนาคตได้และยากต่อการผ่าตัดเอาออก
  • อย่างไรก็ตามหากเปรียบเทียบระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ ร้อยไหมจมูก และเสริมจมูกแบบผ่าตัดแล้ว การผ่าตัดเสริมจมูกให้ผลลัพธ์ดีที่สุด

ฉีดฟิลเลอร์จมูก ยี่ห้อไหนดี

ในปัจจุบันก็ได้มียี่ห้อฟิลเลอร์ที่หลากหลายให้เลือก แต่ที่กังนัมคลินิกเราขอแนะนำ 4 ยี่ห้อยอดฮิตที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยจากทางอย. ไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วดังนี้

1. ฟิลเลอร์ Restylane

ฟิลเลอร์ Restylane

จากประเทศสวีเดนอีกหนึ่งยี่ห้อดังที่มีเนื้อฟิลเลอร์ที่บริสุทธิ์สูง สามารถยึดเกาะผิวได้ดี ฉีดแล้วดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยการใช้ 2 เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของทางแบรนด์อย่างทคโนโลยี NASHA technology และ OBT technology ซึ่งมีจุดเด่นทำให้เนื้อฟิลเลอร์สามารถอุ้มน้ำได้ดี ช่วยทำให้ผิวหน้ามีความชุ่มชื้น และมีเนื้อที่บางเบา เนื้อไม่จับตัวเป็นก้อน

รุ่นที่เหมาะกับการใช้ฉีดจมูก : Restylane Lyft Lidocaine, Restylane Defyne, Restylane Lidocaine เป็นต้น

2. ฟิลเลอร์ Juvederm

ฟิลเลอร์ Juvederm

ฟิลเลอร์จากประเทศอเมริกาที่มีความปลอดภัยและได้รับมาตรฐานระดับสากล ด้วยเนื้อฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่น ยึดติดกับผิวได้ดี มีโอกาสฟิลเลอร์ไหลเป็นก้อนได้น้อย ยังช่วยฟื้นฟูริ้วรอย เติมเต็มร่องลึกของผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ

รุ่นที่เหมาะกับการใช้ฉีดจมูก : Juvederm Volux, Juvederm Voluma เป็นต้น

3. ฟิลเลอร์ Belotero

ฟิลเลอร์ Belotero

เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่มีการใช้เทคโนโลยี CPM Technology ในการผลิตทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่มีความบริสุทธิ์และมีความยืดหยุ่นสูง ทำให้เหลือฟิลเลอร์มีความบางเบาสามารถเนียนเข้ากับผิวได้ดีและ ไม่จับตัวเป็นก้อน

รุ่นที่เหมาะกับการใช้ฉีดจมูก : Belotero Volume, Belotero Intense เป็นต้น

4. ฟิลเลอร์ Neuramis

ฟิลเลอร์ Neuramis

เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลีที่มีได้รับการยอมรับจากหลายประเทศทั่วเอเชีย และมีราคาที่สามารถเอื้อมถึงได้ นอกจากนั้นยังมีความปลอดภัยสูงเพราะได้รับการรองรับความปลอดภัยจาก Korea FDA, US FDA รวมไปถึงอย. ไทย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งฟิลเลอร์ที่แพทย์หลายคนแนะนำไม่แพ้กับฟิลเลอร์ฝั่งยุโรปและอเมริกา

รุ่นที่เหมาะกับการใช้ฉีดจมูก : Neuramis Volume Lidocaine เป็นต้น

เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของการฟิลเลอร์จมูก ร้อยไหมจมูก และผ่าตัดเสริมจมูก

ข้อดี-ข้อเสียของการฟิลเลอร์จมูก

การแก้ไขปัญหาจมูกและผลลัพธ์หลังทำ

ฟิลเลอร์และร้อยไหมจมูกเหมาะสำหรับคนไข้จมูกที่สันจมูกอยู่แล้ว ไม่สามารถแก้ไขเคสจมูกสั้น จมูกแบน จมูกกว้าง

หรือปัญหาจมูกอื่นๆได้เช่น จมูกมีฮัมพ์ หรือจมูกเอียง ในเคสที่คนไข้มีสันจมูกอยู่แล้วต้องการเพิ่มความคงของสัน
และปลายจมูก การร้อยไหมจะช่วยได้แต่ผลลัพธ์ไม่ถาวรขึ้นกับอายุของไหมละลาย

การผ่าตัดเสริมจมูกมีความซับซ้อนกว่า แก้ไขปัญหาจมูกได้มากกว่า ผลลัพธ์หลังผ่าตัดหากได้รับการผ่าตัดด้วยวัสดุและเทคนิคที่เหมาะสมถูกต้อง การผ่าตัดเสริมจมูกจะให้ผลลัพธ์ที่ถูกใจและถาวร

การพักฟื้น

ฟิลเลอร์และร้อยไหมจมูกไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น เป็นหัตถการที่สามารถทำได้ด้วยยาชาและอาจทิ้งรอยช้ำบวมแดง
1-2 วัน ในขณะที่การผ่าตัดจมูกสามารถทำได้โดยยาชา ยานอนหลับหรือยาสลบขึ้นกับเทคนิคการผ่าตัดซึ่งจะต้อง
ตัดไหมและใช้เวลาพักฟื้น 5-7 วัน และรอจนกว่าความบวมจะหายสนิท 3-6 เดือน

ข้อควรระวัง

ฟิลเลอร์มีความเสี่ยงที่จะฉีดเข้าหลอดเลือดบริเวณจมูกได้ถือเป็นความเสี่ยงสูงสุด การร้อยไหมจมูก อนาคตอาจเกิดพังผืดใต้ชั้นผิวหากใช้ปริมาณไหมที่มากเกินไป ต้องผ่าตัดเลาะพังผืดออกหากต้องการผ่าตัดเสริมจมูกในอนาคต

ผ่าตัดเสริมจมูก ต้องผ่าตัดโดยศัลยแพทย์ด้วยเทคนิคและวัสดุที่เหมาะสม เพื่อป้องกันจมูกอักเสบ ทะลุหรือติดเชื้อ การเลือกศัลยแพทย์เป็นสิ่งสำคัญสุดสำหรับการผ่าตัดเสริมจมูก หลายๆเคสคนไข้มักแก้ไขปัญหาจมูกไม่จบ จะต้อง แก้ไขทำใหม่ทำซ้ำวนไปเรื่อยๆ

ฟิลเลอร์จมูกอันตรายไหม

การฉีดฟิลเลอร์ที่จมูกนั้นไม่มีความอันตรายเลย หากเข้าฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญ แต่ก็ย่อมมีข้อเสียคือเหมาะกับการแก้ไขรูปจมูกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เช่น การเสริมจมูกทรงหยดน้ำแต่ไม่สามารถแก้รูปจมูกได้เทียบเท่ากับการผ่าตัดศัลยกรรมจมูก

ผลข้างเคียงของการฉีดฟิลเลอร์จมูก

หลังฉีดไปประมาณ 1-2 วันอาจมีอาการบวม แดง หรือรู้สึกเจ็บปวดบริเวณที่จมูกได้ ซึ่งถือเป็นผลข้างเคียงที่ไม่อันตรายและอาการดังกล่าวจะสามารถหายไปเองภายใน 3 วัน โดยคนไข้เองสามารถใช้การประคบเย็นเพื่อทำให้อาการบวมยุบตัวไวยิ่งขึ้น

ฟิลเลอร์จมูกต้องใช้ฟิลเลอร์กี่ซีซี

ฟิลเลอร์จมูกใช้ฟิลเลอร์กี่ซีซี

โดยปกติแล้วแพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำให้ฉีดอยู่ที่ประมาณ 1 ซีซีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งหากใครที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่มากขึ้นกว่านั้นแนะนำให้เลือกใช้วิธีการทำผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูกจะดีมากกว่า

ฉีดฟิลเลอร์จมูกกี่วันถึงจะเห็นผล

การเห็นผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์จมูกนั้นเราสามารถเห็นผลได้ทันทีหลังฉีด แต่หากต้องการเห็นผลลัพธ์แบบสูงสุดนั้นจะอยู่ที่ 1 เดือนหลังฉีด เนื่องจากเป็นช่วงที่ฟิลเลอร์เข้าที่กับร่างกายเราได้แบบสมบูรณ์ที่สุดนั่นเอง

ตอนฉีดฟิลเลอร์จมูกเจ็บไหม

ในระหว่างที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ที่จมูกนั้นคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บเลย เนื่องจากแพทย์จะมีการใช้ยาชาหรือวิธีการประคบเย็นเพื่อให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เกิดความรู้สึกชาตัวเสียก่อนจึงจะเริ่มฉีด นอกจากนั้นในฟิลเลอร์บางรุ่นก็ได้มีส่วนผสมของยาชาอีกด้วย

หลังฉีดฟิลเลอร์จมูกสามารถผ่าตัดเสริมจมูกได้ไหม

สามารถทำได้แต่ควรรอให้เนื้อฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปสลายตัวให้หมด หรือแนะนำให้ฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยสารไฮยาลูโรนิคเดส (Hyaluronidase) เสียก่อน เนื่องจากหากผ่าตัดเสริมจมูกทั้งที่ยังมีฟิลเลอร์อยู่จะทำให้ซิลิโคนไม่ยึดติดกับผิวจากทำให้เกิดโอกาสจมูกเบี้ยวได้

ข้อควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์จมูก

ข้อควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์จมูก
  • ไม่ควรฉีดกับสตรีที่กำลังตั้งครรภ์หรือกำลังอยู่ในช่วงให้นมบุตร
  • ไม่ควรฉีดในผู้ที่มีประวัติการแพ้สารไฮยาลูรอนิค เอซิด
  • ผู้ที่มีปัญหาเลือดหยุดไหลยากหรือกำลังทานยา อาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือกำลังทานยารักษาโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดทุกครั้ง
  • สำหรับใครที่มีแผล ผื่น ในจุดที่จะฉีดฟิลเลอร์ควรทำการรักษาอาการดังกล่าวให้หายดีเสียก่อน

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์จมูก

  • 1 สัปดาห์ก่อนฉีด งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนของการผลัดเซลล์ผิว รวมไปถึงการขัดผิว การสครับผิว ซึ่งจะทำให้ผิวเกิดความระคายเคืองขึ้นได้
  • 1 สัปดาห์ก่อนฉีดควรงดทานยาหรืออาหารเสริมที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา สารสกัดใบแปะก๊วยเป็นต้น
  • 1 วันก่อนฉีดควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารแสลง ของหมักดองทุกชนิด เนื่องจากอาจจะส่งผลต่อการกระตุ้นอาการอักเสบหลังฉีดฟิลเลอร์ได้

 การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์จมูก

  • หลีกเลี่ยงการจับสัมผัส กดผิวในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากอาจทำให้เนื้อฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนตัวจนจมูกเบี้ยวได้
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ใน 2 สัปดาห์แรก แนะนำให้นอนหงายไม่ ควรนอนคำหรือนอนตะแคงอย่างเด็ดขาดและควรนอนหมอนให้สูงกว่าหน้าอกเพื่อเลี่ยงการกดทับของใบหน้าจนทำให้ฟิลเลอร์ผิดรูป
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ใน 2  สัปดาห์แรกควรงดออกกำลังอย่างหนัก
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ใน 2  สัปดาห์แรก ควรงดทำกิจกรรมในที่อากาศร้อน เช่น การอาบแดด ซาวน่า หรือทานอาหารหน้าเตาร้อนจัดๆ

หลังฉีดฟิลเลอร์จมูกห้ามทานอะไรบ้าง

  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจไปกระตุ้นทำให้เกิดอาการอักเสบหลังฉีดฟิลเลอร์ได้
  • งดทานอาหารแสลง อาหารหมักดอง อาหารทะเล 2-3 วันหลังฉีดเพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้ระคายเคืองได้
  • งดสูบบุหรี่เนื่องจากสารนิโคตินในบุหรี่จะเข้าไปทำลายคอลลาเจนในผิวให้เกิดการเสื่อมโทรม

ฉีดฟิลเลอร์จมูกราคาเท่าไหร่

สำหรับราคาค่าบริการในการฉีดฟิลเลอร์จมูกนั้นจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ รวมไปถึงจำนวนปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ ซึ่งที่กังนัมคลินิกเราจะมีค่าบริการดังนี้

  • Juvederm (USA) เริ่มต้น 1cc = 10,693 บาท
  • Restylane (Sweden) เริ่มต้น 1cc = 8,623 บาท
  • Belotero (Switzerland) เริ่มต้น 1cc = 7,896 บาท
  • Neuramis (Korea) เริ่มต้น 1cc = 5,966 บาท

สรุป

การฉีดฟิลเลอร์จมูกถือเป็นอีกทางเลือกที่ดี แต่หากต้องการเสริมจมูกจริงๆ การผ่าตัดจมูก ยังคงเป็นทางเลือกที่ดีและปลอดภัยสูงสุด การฉีดฟิลเลอร์จะเป็นทางเลือกสุดท้ายกรณีที่คนไข้ไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดได้จริงๆ อีกทางเลือกกรณีไม่อยากผ่าตัดคือร้อยไหมจมูกซึ่งสามารถทำได้ในบางเคสเท่านั้น จะไม่เหมาะกับคนไข้ที่สันจมูกแบนกว้างและปลายจมูกสั้น ดังนั้นการผ่าตัดเสริมจมูกจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในหลายๆมิติ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง