รวมข้อควรรู้ก่อนทำ Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น ทำแล้วเห็นผลจริงไหม?

สลายไขมันด้วยความเย็น coolsculpting

Coolsculpting หรือ นวัตกรรมการสลายไขมันด้วยความเย็น เป็นวิธีที่ช่วยลดไขมันเฉพาะส่วนที่เห็นผลได้เร็วกว่าการออกกำลังกายหรือการควบคุมอาหารจริงหรือไม่? เนื่องจากวิธีการดังกล่าวค่อนข้างใช้เวลานานและยังมีไขมันสะสมบริเวณนั้นอยู่ ทำให้สัดส่วนร่างกายดูไม่สมส่วนกัน อาทิ การมีต้นแขนที่ใหญ่ ทำให้สาวๆ เกิดความไม่มั่นใจ

ดังนั้นการสลายไขมันด้วยความเย็น จึงเป็นทางเลือกที่ดี ในการกำจัดไขมันเฉพาะส่วนตามร่างกายสาวๆ ได้อย่างตรงจุด เหมาะกับสาว ๆ ที่ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกายและไม่อยากทำการดูดไขมัน

หัวข้อเกี่ยวกับการ Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น ที่ควรรู้และทำความเข้าใจก่อน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี สามารถเลือกอ่านได้เลยค่ะ

Coolsculpting คืออะไร ?

Coolsculpting คือ โปรแกรมกระชับและสลายไขมันเซลล์ลูไลท์ด้วยคลื่นความเย็นระดับต่ำ โดยจะเข้าไปกำจัดไขมันชั้นใต้ผิวหนังเฉพาะส่วนที่เป็นไขมันเท่านั้น ไม่กระทบต่อเซลล์หรือเนื้อเยื้อร่างกายส่วนอื่น ๆ ไขมันที่แตกสลายไปนั้นจะถูกขับออกมาเองตามธรรมชาติ ที่สำคัญไม่ต้องทำการผ่าตัดใด ๆ ให้สาว ๆ ได้เสียเวลาในการพักฟื้น ไม่มีอาการเจ็บหรือผลค้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกายในระหว่างการรักษา ทำให้สัดส่วนของร่างกายสาว ๆ นั้นกลับมาสมส่วนได้อย่างปลอดภัยอีกครั้ง

Coolsculpting สลายไขมันจุดไหนได้บ้าง

 สำหรับการสลายไขมันด้วยความเย็น จะใช้หัวดูดไขมันที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับส่วนที่จะเลือกทำตามร่างกาย และสามารถทำได้ตามบริเวณต่าง ๆ ดังนี้

  • เหนียงใต้คาง
  • รอบบริเวณหน้าอก
  • ต้นแขน เนื้อรักแร้ และปีกด้านหลัง
  • หน้าท้อง
  • รอบเอว ทั้งส่วนบนและล่าง
  • สะโพก
  • ต้นขา ทั้งด้านในและด้านหลัง

ใครบ้างที่เหมาะกับการทำ Coolsculpting

การสลายไขมันด้วยความเย็น เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการกำจัดไขมันเฉพาะส่วนออกไป และกับสาว ๆ ที่มักเจอปัญหา ดังต่อไปนี้

  • ออกกำลังกายแล้วพบว่าสัดส่วนร่างกายเท่าเดิม
  • อยากลดไขมันเฉพาะส่วน แต่ไม่อยากทำการดูดไขมัน
  • ไม่มีเวลาพักฟื้นหลังจากรักษา
  • ไม่อยากกินยาเพื่อลดน้ำหนัก
  • ไม่มีเวลาออกกำลังกาย

การสลายไขมันด้วย Coolsculpting ทำงานอย่างไร

โดยมีหลักการส่งพลังงานความเย็นผ่านหัวดูด ทำหน้าที่ในการดูดไขมันเซลล์ลูไลท์ที่สะสมใต้ผิวหนังออกไป  ด้วยความเย็นระดับที่ต่ำ 11°C ถึง -13°C ทำให้ไขมันนั้นเกาะกันเป็นก้อนและตกเป็นผลึกในที่สุด หลังจากนั้นเซลล์ไขมันจะหยุดทำงานทันทีและตายไป หลังการรักษาไขมันจะถูกขับออกตามธรรมชาติ ตามทางระบบน้ำเหลือง จากนั้นไขมันที่เหลือจะเรียงขึ้นมาตัวใหม่ ทำให้ชั้นไขมันดูบางและเล็กลง ร่างกายสาว ๆ จึงกลับมาสมส่วนอีกครั้ง

ข้อดีของการทำ Coolsculpting

  • ไม่เจ็บและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
  • ไม่ต้องทำการผ่าตัด
  • ไม่ต้องเสียเวลารอการพักฟื้น
  • เห็นผลลัพธ์เร็วกว่าการจำกัดไขมันเฉพาะส่วนด้วยวิธีการแบบทั่วไป
  • ไม่ต้องพึ่งยา เพื่อควบคุมน้ำหนัก ก็สามารถกลับมาหุ่นสวยสมส่วนได้อย่างปลอดภัย

สาเหตุที่ทำให้การทำ Coolsculpting ไม่ได้ผลเกิดจากอะไร

สาเหตุอาจเกิดจากการมีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป มีค่า BMI มากกว่า 30 และ Coolsculpting เหมาะสำหรับการลดไขมันเฉพาะส่วน จึงไม่สามารถลดไขมันได้อย่างเต็มที่มากนัก ส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่ช้าและอาจจะไม่ได้ผลนั่นเอง

สลายไขมันด้วยความเย็น กับ ดูดไขมัน ต่างกันอย่างไร

การทำ Coolsculpting เหมาะสำหรับการลดไขมันเฉพาะส่วนตามร่างกาย อาทิ เหนียงใต้คางและเอว เป็นการกำจัดไขมันที่ไม่เยอะมากเท่ากับการดูดไขมัน ไม่ต้องทำการพักฟื้น ใช้เวลาน้อยกว่าการดูดไขมัน ส่วนการดูดไขมันเหมาะสำหรับการกำจัดไขมันตามบริเวณร่างกายที่กว้างกว่าและเข้าถึงได้ยาก อาทิ บริเวณหน้าท้อง หัวเข่า และยังสามารถออกแบบรูปร่างได้อย่างแม่นยำ แต่ใช้เวลาพักฟื้นนานถึง 3 – 5 วัน

ผลข้างเคียงของ Coolsculpting

แทบจะไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายมากนัก ในระหว่างทำการรักษา สาว ๆ อาจมีความรู้สึกชาเล็กน้อย เนื่องจากได้รับความเย็นและแรงดูดจากเครื่อง  หลังการรักษาอาจจะมีการอาการ ระบม คัน และมีรอยแดงเล็กน้อย แต่หลังจาก 2 – 4 สัปดาห์ อาการเหล่านั้นจะค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

ใครบ้างที่ไม่ควรสลายไขมันด้วยความเย็น

สำหรับข้อจำกัดของการลดไขมันด้วยความเย็น ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีโรคประจำตัวและอาการ ดังต่อไปนี้

  • โรคแพ้ความเย็น
  • โรคเลือดแข็งตัวผิดปกติ
  • ผู้หญิงตั้งครรภ์
  • ผู้หญิงอยู่ในช่วงระหว่างเป็นประจำเดือน
  • ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดมาไม่เกิน 6 เดือน
  • ผู้ที่เป็นไส้เลื่อน
  • ผู้ที่มีน้ำหนักตัวที่มาก

เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting ที่กังนัมคลินิกดีอย่างไร

คลินิกกังนัมเป็นคลินิกสไตล์เกาหลี มาจากประเทศเกาหลีเต็มไปด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ และมีคุณหมอที่เชี่ยวชาญทางด้านกำจัดไขมันโดยเฉพาะ มีการใส่ใจสาว ๆ ไปตั้งแต่การตรวจประเมินเพื่อวิเคราะห์ตำแหน่งให้เหมาะสมกับรูปร่างของสาว ๆ และมีการติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยของสาว ๆ

หลังการรักษานั้นจะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน ด้วยวิธีการ Coolsculpting มีประสิทธิภาพที่ได้รับการยอมรับจากองค์กรอาหารและยา ของสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย ทั้งยังมีการใช้มานานมากกว่าหนึ่งล้านครั้งทั่วโลก  และสามารถนัดหมายปรึกษาหมอได้ เพื่อประเมินสัดส่วนรูปร่างก่อนฟรี

เลือกทำ Coolsculpting ที่ไหนดี

หากสาว ๆ ท่านใดไม่มีเวลาออกกำลังกายและต้องการให้หุ่นกลับมาสวยสมส่วน ด้วยราคาที่ประหยัดและปลอดภัย คลินิก กังนัม สามารถตอบโจทย์สาว ๆ ได้เป็นอย่างดี ด้วยนวัตกรรมการสลายไขมัน CoolSculpting ที่เข้าไปกำจัดไขมันได้อย่างตรงจุดเฉพาะส่วน  และเครื่องมือที่นำเข้าจากประเทศอเมริกา ได้รับการรองรับจากองค์กรอาหารและยา ของสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย ทำให้มีความปลอดภัยสูง สามารถกำจัดไขมันได้อย่างตรงจุด ประหยัด และปลอดภัย

โปรโมชั่น Coolsculpting

Coolsculpting ราคาเท่าไหร่

รีวิว Coolsculpting Before-After หลังทำ

ภาพรีวิวความประทับใจหลังจากที่ลูกค้าได้เข้ามากำจัดไขมันเฉพาะส่วนกับทางคลินิก กังนัม ล้วนตอบกลับเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีอาการเจ็บมากอย่างที่คิด และร่างกายกลับมาสมส่วนชัดเจนมากยิ่งขึ้น คุณหมอใจดี ให้คำปรึกษาเป็นอย่างดี

Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Coolsculpting

Coolsculpting ใช้เวลาทำนานแค่ไหน

 ปกติแล้วระยะเวลาที่ใช้ในการทำ Coolsculpting ในแต่ละครั้งจะขึ้นยู่กับบริเวณที่เลือกทำ โดยจะใช้เวลาประมาณ 35 – 60 นาที ต่อ 1 บริเวณ

Coolsculpting เจ็บไหม

สำหรับการทำ Coolsculpting ในระหว่างทำการรักษา อาจจะมีความรู้สึกชาบ้างเล็กน้อย ในช่วง 5 -10 นาทีแรก หลังจากนั้นอาการจะค่อยๆ หายไป สาว ๆ สามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ระหว่างรอการรักษาได้อย่างสบาย

Coolsculpting ปลอดภัยไหม

การสลายไขมันด้วยวิธีการ Coolsculpting ถือว่ามีความปลอดภัยสูง เนื่องจากได้รับการยอมรับจากองค์กรอาหารและยา(FDA)ทั้งของสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย ทั้งยังมีการใช้มานานมากกว่าหนึ่งล้านครั้งทั่วโลก  จึงมั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยต่อร่างกายสาว ๆ หลังทำการรักษา

ดังนั้น การสลายไขมันด้วยความเย็นจึงเหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ไม่อยากเจ็บตัวจากการดูดไขมัน การกำจัดไขมันเฉพาะส่วนด้วยวิธีการ Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น จึงสามารถตอบโจทย์สาว ๆ ได้อย่างตรงจุด ทั้งราคาที่ประหยัด ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นหลายวัน ก็สามารถกลับมามีหุ่นที่สมส่วน มั่นใจตัวเองมากขึ้น และที่สำคัญมีความปลอดภัยสูง ไม่กระทบต่อร่างกายในส่วนอื่น ๆ ระหว่างทำการรักษาและหลังการรักษานั่นเอง

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง