ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทำปากอวบอิ่ม ปากกระจับ เหมาะกับใคร ใช้กี่cc อยู่ได้นานไหม

การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นหัตถการที่ทำแล้วคนไข้ได้รับความพึงพอใจสูงสุดและกลับมาทำซ้ำกันเป็นจำนวนมาก เพราะนอกจากจะใช้เวลาในการฉีดไม่นานแล้วหลังการฉีดสามารถแต่งหน้าและใช้ชีวิตได้ปกติเลยโดยไม่มีรอยช้ำบวมหรือต้องพักฟื้น สำหรับสาวๆ ริมฝีปากที่สวยงามเป็นเรื่องที่สำคัญมาก การฉีดฟิลเลอร์ปากนอกจากจะช่วยเติมเต็มให้ริมฝีปากอวบอิ่มแล้วยังแก้ไขปัญหาริมฝีปากแห้งทำให้การทาลิปสติกสวยขึ้นด้วย ก่อนจะตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์
หัวข้อเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ปาก


ฟิลเลอร์ปาก คืออะไร?
การฉีดฟิลเลอร์ปาก คือ การฉีดสารเติมเต็มที่ทางการแพทย์เรียกันว่า สารประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ “HA” ซึ่งเป็นสารสังเคาะห์จากธรรมชาติที่ปลอดภัย 100% มีคุณสมบัติเหมือนกับคอลาเจนที่เสื่อมสภาพในร่างกายของมนุษย์ การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นการใช้เทคนิคทางการแพทย์ที่จะช่วยปรับรูปปากให้ สมส่วน อวบอิ่ม มีรูปทรงที่ชัดเจน ดูเป็นปากกระจับ น่าจุ๊บมายิ่งขึ้นโดยสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันที โดยไม่ต้องพักฟื้น
ปัญหาปากที่ควรฟิลเลอร์ปาก
- ปัญหาริมฝีปากบาง เพื่อให้เห็นขอบริมฝีปากชัดเจน และ มีรูปปากที่สมดุลมากขึ้น
- ปัญหาปากคว่ำ มุมปากตก การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ทำให้ปากเป็นรูปยิ้ม
- ปัญหาปากแห้งแตกเป็นร่อง เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ การฉีดฟิลเลอร์ปากจึงทำให้ริมให้ริมฝีปากชุ่มชื้น และ ดูอวบอิ่มขึ้น
- ปัญหาปากเหี่ยวขาดคอลลาเจน การฉีดเติมเต็มริมฝีกปากด้วย Hyaluronic Acid เป็นสารที่ช่วยให้ริมฝีปากเต่งตึงขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับใครบ้าง?
การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ทำแล้วคนไข้ได้รับความพึงพอใจสูงสุดและกลับมาทำซ้ำกันเป็นจำนวนมาก ฉีดฟิลเลอร์ปากเหมาะกับใครบ้างมาดูกันค่ะ
- ผู้ที่ต้องการแก้ไขรูปทรงของริมฝีปากโดยรวมให้มีขนาดและความเอิบอิ่มเหมาะสมตามลักษณะความเชื่อของโหงวเฮ้ง
- เหมาะสำหรับคนไข้ริมฝีปากขาดความชุ่มชื้น หรือมีร่องลึก การเติมเต็มฟิลเลอร์จะทำให้ปากดูชุ่มชื้นและทาลิปสติกได้สวยขึ้นด้วย
- เหมาะสำหรับคนไข้ที่ต้องการแก้ไขความไม่สมดุลของริมฝีปาก
- เหมาะสำหรับคนไข้ที่เคยตัดปากบางมาแล้วต้องการเพิ่มความหนาของริมฝีปาก
- เหมาะสำหรับคนไข้ที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ตัวเองให้ดูเด็กลง สดใสร่าเริงและมีชีวิตชีวามากขึ้น
ริมฝีปากสวย ต้องมีสัดส่วนเป็นอย่างไร?

ลักษณะของโหงวเฮ้งที่ดีจะตรงตามสัดส่วนทางการแพทย์ที่มีอยู่แล้ว เป็นตัวเลขที่แพทย์ใช้ในการดีไซน์ใบหน้าหรือริมฝีปากของเราให้ออกมาสวยงามและสมดุล การปรับรูปปากให้สวยและตรงกับลักษณะโหงวเฮ้ง จะพิจารณาดังนี้
- ตำแหน่งของมุมปากทั้งสองข้าง ต้องตรงกับกึ่งกลางของลูกตาดำเมื่อลากเส้นในแนวดิ่งลงมา
- สัดส่วนความหนาของริมฝีปากบนกับริมฝีปากล่าง จะเป็น 1:1.6 ( 1 to 1.6 lip ratio ) ริมฝีปากล่างจะดูหนากว่าปากบนเล็กน้อย
- การมีมุมปากที่ยกขึ้น จะทำให้การเจรจาติตต่อสื่อสารเป็นไปได้ง่ายขึ้น ริมฝีปากที่ยกขึ้นเล็กน้อยแสดงถึงไมตรีที่ดีงาม
- รูปทรงปากจะต้องเป็นเหมือนคันสรกามเทพ ทำให้ใบหน้าดูละมุน ตามโหงวเฮ้งบอกไว้ว่า จะไม่อาภัพคู่ ได้คู่ครองดีส่งเสริมกันและกัน มีบุตรเลี้ยงง่าย เจรจาสิ่งใดสมปรารถนา
รูปทรงฟิลเลอร์ปาก ที่คนไทยนิยมฉีด
การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นกระแสความนิยมที่กำลังมาแรงแบบสุดๆ หยุดไม่อยู่กันเลยจริงๆ โดยเฉพาะการฉีดฟิลเลอร์ปาก 2 สายสุดปัง ที่ทำแล้วเปลี่ยนลุคได้ทันที คือ

ทรงปากสายฝอ
เป็นการฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มทั้งด้านล่างและด้านบนให้มีขนาดที่ใกล้เคียงกัน เพื่อให้ได้รูปปากที่ดูอวบอิ่ม ดูมีน้ำมีนวลขึ้น เรียกได้ว่าเป็นรูปทรงปางที่กำลังมาแรงมาก และ ได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน เพราะ ปากทรงนี้จะทำให้ใบหน้าดูทีเสน่ห์ มีความเซ็กซี่ และมีความดึงดูด ทำให้ดูความน่าค้นหาอยู่ไม่น้อย เหมาะกับ คนปากบางที่ต้องการเพิ่มวอลุ่มให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม กันแบบจัดเต็ม

ทรงปากสายเกา
เป็นการฉีดฟิลเลอร์ปากที่เน้นรูปทรงมากกว่าการเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก โดยการฉีดฟิลเลอร์ปากแบบสายเกาหลีจะเน้นฉีดฟิลเลอร์บริเวณติ่งตรงกลางปาก ให้ดูเป็นทรงกระจับ โดยปากทรงนี้จะช่วยทำให้ใบหน้ามีความหวานละมุนน่าจุ๊บขึ้น เหมาะกับ คนที่อยากให้ปากดูเป็นรูปทรงมากขึ้น และอยากให้หน้าดูเด็ก ละมุน แบบหวานๆลุคคุณหนู
ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ Vs ศัลยกรรมปากกระจับ เลือกแบบไหนดี?
หากให้เปรียบเทียบว่า “การฉีดฟิลเลอร์ปาก กับ การศัลยกรรมผ่าตัดปาก แบบไหนดีกว่ากัน” ขอบอกว่าทั้ง 2 วิธีนี้มีที่ข้อดีแตกต่างกัน โดยการฉีดฟิลเลอร์จะเน้นปรับทรงปากให้ดูอวบอิ่มขึ้น สามารถทำรูปทรงได้ตามใจชอบ และ สามารถเปลี่ยนรูปทรงของปากได้ตามเทรนนิยม หากทำแล้วไม่ชอบหรือไม่ได้รูปทรงที่ต้องการสามารถฉีดสลายได้ทันที แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ได้อยู่ถาวร ส่วนการผ่าตัดปากมีข้อดีคือ ได้ผลลัพธ์ที่อยู่ถาวร แต่รูปทรงที่ได้จะขึ้นอยู่กับทรงปากเดิม หรือ เนื้อปากของแต่ละคน หลังการทำอาจต้องใช้เวลาในการฟักฟื้น อย่างน้อย 3-7 วัน และอาจจะต้องรับความเสี่ยงจากการผ่าตัดเนื่องจากหากมีข้อผิดพลาดสามารถแก้ไขได้ยากทั้งยังมีค่าใช้จ่ายในการทำที่สูงกว่าการฉีดฟิลเลอร์ปากหลายเท่า
ปากที่ควรฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ
- ปากไม่เป็นทรง มุมปากตก รูปปากดูคว่ำ
- ปากบาง ทรงปากไม่ชัดเจน ปากไม่มีกระจับ
- ริมฝีปากแห้ง ปากลอก ปากมีริ้วรอย ทาลิปตกร่อง
- รูปปากไม่เท่ากัน ปากบางไม่เหมาะกับการผ่าตัด
ปากที่ควรผ่าตัดปากกระจับ
- ปากใหญ่ ปากหนา ไม่เป็นรูปทรงกระจับ ปากดูเป็นเส้นตรง
- ริมฝีปากบนและล่างมีขนาดเท่ากัน ดูไม่ได้สัดส่วนที่สวยงาม
- ริมฝีปากคว่ำ ที่ต้องการยกมุมปาก
ฟิลเลอร์ปาก มีข้อดี-ข้อเสีย อย่างไร?

ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|
ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นหลังการฉีดเพราะไม่ใช่การผ่าตัดปาก | ผลลัพธ์ไม่ถาวรจำเป็นต้องฉีดซ้ำเพื่อคงสภาพผลลัพธ์ |
เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก | หากเลือกรุ่นฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมจะทำให้ริมฝีปากดูแข็งไม่เป็นธรรมชาติ |
ไม่ต้องพักฟื้นหัลงฉีดสามารถใช้ชีวิตได้ปกติทันทีหลังการฉีด | ระวังไม่ฉีดกับหมอกระเป๋าหรือใช้ฟิลเลอร์ปลอม |
มีผลข้างเคียงหลังทำน้อย เช่น อาการบวมเข็ม ซึ่งจะเป็นเพียง 2-3 วันหลังฉีดเท่านั้น | หลังฉีดหากดูแลตัวเองไม่ดี เช่น แกะ เกา นวด อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวได้ |
ศัลยกรรมปากบางมาแล้ว สามารถฉีดฟิลเลอร์ปากได้ไหม?
สามารถฉีดฟิลเลอร์ปากได้ แต่ควรทำการแจ้งแพทย์ผู้ฉีดก่อนเนื่องจากในการทำศัลยกรรมผ่าตัดปากมาจะมีบางจุดที่เกิดพังผืดรัดที่ผิวริมฝีปาก ซึ่งจำเป็นจะต้องใช้ทักษะในการฉีดอย่างระมัดระวังมากกว่าคนที่ไม่ได้ผ่า เพื่อป้องกันการเกิดฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด ดังนั้นการตัดสินใจฉีดควรทำการปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำก่อนทุกครั้ง
ฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานแค่ไหน?
หลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก ระยะการคงตัวของฟิลเลอร์จะอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน (ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิเลอร์ที่เลือกใช้) สำหรับกังนัมคลินิกคุณหมอแนะนำฟิลเลอร์ ยี่ห้อจูวีเดิร์ม Juvederm Vobella ( รุ่น Allergan ) เพราะมีค่าความอยู่ตัวสูง อยู่ได้นาน 18 เดือน สามารถปั้นทรงรูปปากได้ง่าย เป็นธรรมชาติดูไม่โป๊ะ!!
ฉีดฟิลเลอร์ปากอันตรายไหม?
การฉีดฟิลเลอร์ปากอวบอิ่มหากฉีดโดยแพทย์ที่ชำนาญและใช้ฟิวเลอร์แท้เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูงมาก จากวิจัยที่เก็บสถิติคนไข้ที่ได้รับการฉีดฟิลเลอร์ไม่มีเคสไหนเลยที่จะเสียชีวิตจากการฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปากหากได้รับการฉีดฟิลเลอร์แท้ ส่วนอัตราการอักเสบติดเชื้อจากการฉีดฟิลเลอร์ปากก็ต่ำมากๆ ซึ่งสาเหตุของการอักเสบติดเชื้อเกิดจากเครื่องมือไม่สะอาด ดังนั้น การฉีดฟิลเลอร์ปาก มีความปลอดภัยสูง หากคนไข้เข้ารับบริการกับคลินิกที่สะอาดได้มาตรฐานและใช้ฟิลเลอร์แท้
อันตรายของการฉีดฟิลเลอร์ปลอม
ความอันตรายหลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอมไปนั้นมีหลายอย่างด้วยกัน เช่น อาการอักเสบ ติดเชื้อ เป็นหนอง ซึ่งสามารถสังเกตได้ว่าเวลาสัมผัสจุดที่ฉีดจะมีอาการเจ็บในระดับน้อยถึงรุนแรง ในบางรายอาจทำให้ริมฝีปากเกิดการผิดรูป ปากเบี้ยว ริมฝีปากไม่เท่ากันได้ เนื่องจากฟิลเลอร์ปลอมไม่สามารถสลายตัวได้เหมือนฟิลเลอร์แท้ หนทางแก้ไขคือการผ่าตัดขูดเอาเนื้อฟิลเลอร์ออก
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี เหมาะกับใช้ฉีดปากที่สุด?

สำหรับการฉีดริมฝีปาก สามารถฉีดได้หลายรุ่น ที่กังนังคลินิกแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อจูวีเดิร์ม Juvederm Vobella ( รุ่น Allergan ) เพราะมีค่าความอยู่ตัวสูง สามารถปั้นทรงรูปปากได้ง่ายและยังมีความเป็นธรรมชาติ สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปากใช้จำนวน 1 ซีซี ราคา 8,623 บาท และสามารถอยู่ได้ยาวนานถึง 18 เดือน แนะนำคนไข้ดื่มน้ำเยอะๆเพื่อให้ผิวฟู ฟิลเลอร์จะคงสภาพได้นานค่ะ

- Juvederm Ultra Plus เนื้อนิ่มและฟูมาก เหมาะกับคนที่ต้องการปากอวบอิ่มแบบฝรั่ง (อยู่ได้นาน 12 เดือน)
- Juvederm Voluma เนื้อแข็ง แน่น ฟูปานกลาง อยู่ได้นานที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปากอวบอิ่มและอยู่ได้นาน (อยู่ได้นาน 18 เดือน)
- Juvederm Volite เหมาะสำหรับผิวปากชุ่มชื่น ร่วมกับริมฝีปากอวบอิ่มเซ็ก (อยู่ได้นาน 8-12 เดือน)

- Restylane Refyne เนื้อเจลยืดหยุ่นผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ( อยู่ได้นาน 12 เดือน)
- Restylane Volyme เนื้อนิ่มปานกลาง ฉีดแล้วดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน (อยู่ได้นาน 18 เดือน)
- Restylane Vital Light เหมาะสำหรับแก้ไขริมฝีปากแห้ง ให้ผิวปากชุ่มชื้นโดยไม่ต้องการเติมปาก (อยู่ได้นาน 6-12 เดือน)
- Restylane Kysse (อยู่ได้นาน 12 เดือน) เหมาะสำหรับสร้างขอบริมฝีปากให้ชัดเจน อวบอิ่ม
นอกจากนั้นยังมีอีกหนึ่งยี่ห้อยอดนิยมคือ Belotero จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่มี 2 รุ่นที่เหมาะกับใช้ฉีดปากก็คือ
- Belotero Balance (สีส้ม) เนื้อฟิลเลอร์มีความแน่นและนิ่มอยู่ในระดับปานกลาง (อยู่ได้นาน 12-18 เดือน)
- Belotero Soft (สีเหลือง) เนื้อจะความเหลวที่สุด แต่ฉีดแล้วให้ผลที่ดูเป็นธรรมชาติ (อยู่ได้นาน 6-12 เดือน)
วิธีเช็คและตรวจสอบฟิลเลอร์ของแท้ ของปลอม

กรณีคนไข้เข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ขอให้มั่นใจได้เลยว่าฟิลเลอร์นั้นเป็นของแท้แน่นอน เพราะการสั่งฟิลเลอร์แท้จากบริษัทนำเข้าและผ่านการรองรับอย. จำเป็นต้องสั่งโดยแพทย์ผู้มีใบประกอบวิชาชีพเท่านั้น สำหรับการเช็คฟิลเลอร์ปลอม คนไข้สามารถเช็คได้เพื่อความสบายใจค่ะ สามารถเช็คได้ 5 จุดดังนี้
- มีเลขจดทะเบียนอย.ไทยและกำกับภาษาไทย
- มีสติกเอร์โมโนแกรมที่ลอกแล้วเห็นคำว่า VOID ซึ่งคนไข้ของกังนัมคลินิกสามารถนำกล่องฟิลเลอร์กลับบ้านและเช็คได้เลยค่ะ
- สามารถสแกนคิวอาร์โค้ดตรวตสอบยาแท้ได้
- มีเลขล็อตตรงกันสองจุดบริเวณข้างกล่องและหลังหลอดฟิลเลอร์
- สามารถตรวจสอบเลขล็อตได้ที่บริษัทนำเข้า
อ่านต่อเพิ่มเติม : 10 จุดสังเกต ฟิลเลอร์ปลอม ของแท้ดูยังไง? ต้องเช็คอะไรบ้าง?

ฉีดฟิลเลอร์ปาก เจ็บไหม?
ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์นั้นคลินิกความงามส่วนใหญ่จะมีการทายาชาหรือประคบเย็นเพื่อให้ริมฝีปากรู้สึกชาก่อนระดับนึงและค่อยๆ ทำการฉีดตัวฟิลเลอร์เข้าไปซึ่งบวกกับในตัวฟิลเลอร์บางตัวที่ได้มีส่วนผสมของยาชาอยู่แล้วเลยทำให้ระหว่างทำแทบไม่รู้เจ็บเลย แต่อาจจะรู้สึกหน่วงๆ ในขณะแพทย์ฉีดดันตัวเนื้อฟิลเลอร์เข้าไปในผิวเท่านั้น ถือเป็นความเจ็บในระดับที่สามารถทนได้
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปาก
- ถ้าจะทำการแปะยาชา และ รอให้ยาชาออกฤทธิ์ ใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที
- แพทย์จะทำการประเมินสัดส่วนของเนื้อปาก จากนั้นฉีดฟิลเลอร์ที่ริมฝีปาก ให้ได้รูปทรงตามที่ตกลงไว้ (ขั้นตอนนี้แต่ละคนจะใช้เวลาไม่เท่ากัน) ขึ้นอยู่กับ รูปริมฝีปากก่อนทำ เนื้อปาก และ รูปทรงที่ต้องการ
- เมื่อได้ทรงปากสวยตามที่ต้องการแล้ว แพทย์จะแจ้งการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก และสามารถกลับ ไปใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยไม่ต้องพักฝืน
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปากต้องเตรียมตัวอย่างไร

- หากมีโรคประจำตัวหรือแพ้ยาควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
- ควรงดทานยาที่มีผลกับการแข็งตัวของเลือด เช่นยาแอสไพริน ยา NSAIDs , ibruprofen, ponstan, diclofenac อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำฉีด
- งดการทานวิตามิน ginko biloba, Vitamin E, primrose oil, St.Johns Wort, garlic, ginseng อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ 24 ชั่วโมง
- งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การอบซาวน่า การออกกำลังกายหนัก เวทเทรนนิ่ง เป็นต้น
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรดูแลตัวเองอย่างไร
ฟิลเลอร์เป็นสารเลียนแบบสารที่ร่างกายสร้างขึ้นเองตามธรรมชาติ จะไม่คงอยู่ตลอดไป จะค่อยๆสลายเองซึ่งเป็นกลไกปกติของร่างกาย แต่เพื่อให้ผลลัพธ์คงสภาพอยู่ได้นานยิ่งขึ้น การดื่มน้ำสะอาดให้ได้ 2.5-3 ลิตรต่อวัน จะทำให้ผิวอุ้มน้ำชุ่มชื้นและทำให้ฟิลเลอร์ฟูอยู่นานขึ้นด้วยค่ะ
คำถามที่พบบ่อย
ฉีดฟิลเลอร์ปากต้องฉีดกี่ซีซี? อยู่ได้นานกี่เดือน?
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นจะต้องใช้ปริมาณอยู่ที่ 1-2 ซีซีขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการของคนไข้ โดยระยะเวลาการเห็นผลจะขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อที่เลือกฉีดอาทิเช่น ฉีดฟิลเลอร์ Restylane kysse จะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร?
ผลลัพธ์หลังการฉีดฟิลเลอร์แล้วฟิลเลอร์เป็นก้อนไม่ธรรมชาติ มีสาเหตุหลักๆดังนี้
- แพทย์เลือกฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมกับบริเวณที่จะฉีด เช่น อาจใช้ฟิลเลอร์ที่โมเลกุลหนาแน่นฉีดบริเวณที่บาง เช่น บริเวณริมฝีปาก ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง เนื้อแน่นปานกลางถึงน้อย เน้นอุ้มน้ำ
- ฉีดไม่ตรงตำแหน่งที่ต้องการ เช่น เลือกฉีดในตำแหน่งที่ตื้นเกินไป ก็จะทำให้ดูเป็นก้อนได้
- ฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐาน กรณีฉีดฟิลเลอร์ปลอม เมื่อผ่านเวลาไป ฟิลเลอร์ก็จะจับตัวเป็นก้อนมีพังผืดได้
- ฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากเกินไป สำหรับการฉีดฟิลเลอร์จำเป็นต้องฉีดกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญเพื่อประเมินชั้นผิว สรีระบริเวณที่จะฉีดเพื่อเลือกใช้ยี่ห้อให้เหมาะสมกับบริเวณนั้นๆ
ฉีดฟิลเลอร์ปากกี่วันเข้าที่? บวมกี่วัน ?
หลังการฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วในบางรายจะมีอาการปากจะบวมเล็กน้อยซึ่งเป็นอาการบวมเข็มซึ่งจะบวมอยู่ประมาณ 3-5 วันและจะค่อยๆ ยุบลงโดยสามารถใช้การประคบเย็นเพื่อช่วยให้อาการบวมยุบไวขึ้นได้ และหลังจากฉีดฟิลเลอน์ปากไปแล้วเนื้อฟิลเลอร์จะเข้าที่ประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังการฉีด
ฉีดฟิลเลอร์ปากทาลิปได้ไหม
หลังฉีดฟิลเลอร์ปากจะต้องเว้นการทาลิปไปก่อนอย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังฉีด เพื่อให้แผลจากรอยเข็มสมานกันได้อย่างเต็มที่เสียก่อน ไม่เช่นนั้นอาจเกิดอาการอักเสบหรือติดเชื้อได้ แต่หลังจากครบ 24 ชั่วโมงไปแล้วสามารถทาลิปได้ตามปกติ แต่ก็ควรระมัดระวังในการทาและล้างออกในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกเพื่อไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวจนเสียทรง
ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

- หลีกเลี่ยงการทานของร้อนในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกเพราะอาจทำให้ฟินเลอร์สลายตัวได้เร็วขึ้น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสนวด คลึง หรือกด บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ปาก
- งดการทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการทำให้ปากเสียรูปทรง (รวมถึงงดการออกกำลังหนักด้วย) ในช่วง 1-2 สัปดาห์
- ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ เนื่องจากอาจทำให้ปากเกิดการอักเสบได้
- ในช่วงแรกหลังการฉีดฟิลเลอร์ให้ดื่มน้ำมากๆ เพื่อเพิ่มการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ ช่วยทำให้ฟิลเลอร์ฟูขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ปากที่ไหนดี?

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นจุดที่ฉีดแล้วเห็นผลเปลี่ยนแปลงชัดเจน ปลอดภัยมากที่สุดรวมถึงไม่ต้องพักฟื้นหลังการฉีดด้วย การฉีดสารไฮยาลูโรนิกเอซิดหรือ HA หรือที่รู้จักกันในฟิลเลอร์ มีให้บริการเกือบทุกคลินิก หากยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ปาก ที่ไหนดี เรามีวิธีการเช็คและเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยมาฝากค่ะ หลักการเลือกคลินิกควรพิจารณาดังนี้
- เลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีการดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง
- สถานพยาบาลหรือคลินิกต้องได้รับการรองรับมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข
- มีแพทย์ประจำและมีรายชื่อแพทย์ประจำคลินิกโชว์ชัดเจน คนไข้สามารถนำชื่อและเลขใบประกอบไปตรวจสอบได้
- มีการโชว์ขวดฟิลเลอร์ก่อนฉีด สอนวิธีการเช็คกล่องฟิลเลอร์เพื่อดูของแท้ปลอม
- เปิดขวดฟิลเลอร์ใหม่ให้คนไข้เสมอ โดยแพทย์จะเป็นผู้ทำการฉีดให้เราเท่านั้น
- มีการนัดหมายติดตามผลหลังการฉีดฟิลเลอร์
- มีช่องทางการติดต่อที่ชัดเจน รวมถึงคลินิกมีให้บริการหลายสาขาจะสะดวกแก่คนไข้ในการรับบริการและคนไข้สามารถนัดหมายปรึกษาแพทย์ได้ กังนัมคลินิกมีการออกแบบริมฝีปากรายบุคคลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ราคาเท่าไหร่?

สำหรับการฉีดริมฝีปาก แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อจูวีเดิร์ม Juvederm Vobella ( รุ่น Allergan ) เพราะมีค่าความอยู่ตัวสูง สามารถปั้นทรงรูปปากได้ง่ายและยังมีความเป็นธรรมชาติ สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปากมักใช้จำนวน 1 ซีซี ราคา 8,623 บาท และสามารถอยู่ได้นาน 18 เดือน
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ปาก






สรุป
ถึงแม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ ให้ปากอวบอิ่ม จะเป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูง แต่ก็จะต้องเลือกทำโดยใช้เทคนิคที่ถูกต้อง โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และใช้ตัวฟิลเลอร์แท้เท่านั้น เพื่อให้ได้รูปปากที่สวยงามคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป โดยปราศจากผลข้างเคียงที่อันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ภายหลัง