ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ควรฉีดตอนไหน เหมาะกับใคร ช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาอะไร ควรฉีดตอนไหน

ปัญหาหน้าผากแบบไหน ที่ควรฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

สาวๆคงเคยได้ยินเรื่องการฉีดหน้าผากนูนกันมาบ้างแล้ว ซึ่งจะมีทั้งการฉีดเติมเต็มหน้าผากด้วยไขมันตัวเองและการฉีดเติมเต็มหน้าผากด้วยฟิลเลอร์ หน้าผากแบบไหนควรฉีดเติมเต็มฟิลเลอร์ มาดูกันค่ะ

  • ลักษณะหน้าผากยุบตัวลงจากกระดูก ปกติแล้วหลังอายุ 25 ปี ทั้งคอลลาเจนและกระดูกของเราจะยุบตัวลงอย่างหเลี่ยงไม่ได้
  • บริเวณเหนือคิ้วเป็นร่องลึก ยุบตัวลงไปอย่างชัดเจน
  • ต้องการปรับโหงวเฮ้งหน้าผาก โดยไม่ต้องการผ่าตัด
  • หน้าผากมีริ้วรอยและร่องลึกอย่างเห็นได้ชัดทำให้ใบหน้าโทรมและดูมีอายุ
  • หน้าผากแบน ไร้มิติเมื่อมองด้านข้าง
  • ต้องการปรับสโลปหน้าผากให้เข้ากับสันจมูกก็สามารถเติมฟิลเลอร์หน้าผากได้เช่นกัน
    คนไข้หลายๆ ท่านน่าจะเคยได้ยินการฉีดหน้าผากด้วยไขมันตัวเองและฟิลเลอร์มาบ้างแล้ว การฉีดวิธีไหนแบบไหนดีกว่ากันมาดูกันค่ะ

เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย ฉีดไขมันตัวเองและการฉีดฟิลเลอร์

ข้อดี-ข้อเสีย ฉีดไขมันตัวเองและการฉีดฟิลเลอร์

ด้านราคา

ราคาต่อซีซี ในการฉีดไขมันจะถูกกว่าฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ราคาต่อซีซี 10,000+ บาท ในขณะที่ไขมันตัวเองราคาจะอยู่ทื่70,000-80,000 บาทต่อ 60-100 ซีซี

ขนาดของแผล

กรณีฉีดไขมัน แผลจะอยู่บริเวณขา หน้าท้อง หรือก้น แล้วแต่บริเวณที่ดูดไขมันออกมา แผลจะใหญ่และช้ำกว่าการฉีดฟิลเลอร์ กรณีต้องการฉีดปริมาณมากๆ การฉีดไขมันจะดีกว่า แต่หากต้องการฉีดเติมเต็มหน้าผากที่ยุบตัวลง ให้เรียบเนียนดูธรรมชาติการฉีดฟิลเลอร์คุ้มค่ากว่าทั้งในแง่ของราคา ความคงสภาพและการพักฟื้น (หลังฉีดฟิลเลอร์ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นเลย คนไข้ใช้ชีวิตได้ปกติ)

ผลลัพธ์หลังการฉีด

รีวิวหลังการฉีดไขมัน มักจะโชว์รูปหลังการฉีดทันที ซึ่งจริงๆแล้วไขมันหลังการฉีดจะเสื่อมสลายหรือที่เรียกว่าเซลล์ตาย ควรดูรีวิวหลังฉีดไปแล้วสัก 6 เดือน ไขมันที่คงอยู่จริงๆจะเหลือน้อยมาก ในขณะที่การฉีดฟิลเลอร์จะมีการคงตัวที่สูงกว่า หลังฉีดเป็นอย่างไรก็จะอยู่เท่านั้นตลอดไปตามอายุของฟิลเลอร์ที่เลือก

ความคงสภาพหลังการฉีด

การฉีดไขมันคือการปลูกถ่ายเซลล์ประเภทหนึ่ง จะมีเซลล์บางส่วนที่ตายไปมากกว่า 70% และคงเหลือจริงๆแค่30% คนไข้ส่วนมากแล้วมักไม่พอใจกับผลลัพธ์หลังฉีดไขมัน เพราะแทบไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง และไขมันจะหายไปเยอะมากหลังการฉีดไปแล้ว 3-4 เดือน ในขณะที่ฟิลเลอร์จะมีความคงสภาพหลังการฉีดมากกว่า ฉีดเท่าไหร่อยู่เท่านั้นและค่อยๆสลายไปตามอายุของฟิลเลอร์ที่เลือกนั่นคือ 12-18 เดือน

ระยะพักฟื้น

ฉีดไขมันใช้เวลาในการฉีด 40-60 นาทีภายใต้ยานอนหลัง จะต้องพักฟื้นอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์หลังการฉีด เพราะจะมีความบวมและช้ำเหลืองบนใบหน้า ในขณะที่หลังฉีดฟิลเลอร์ใช้เวลาเพียง 10-15 นาที คนไข้สามารถใช้ชีวิตได้ปกติเลยไม่ต้องพักฟื้น

ข้อควรระวัง

การฉีดไขมันจำเป็นต้องฉีดโดยศัลยแพทย์ที่ชำนาญเพื่อเลี่ยงการฉีดเข้าเส้นเลือดจะทำให้ตาบอดหรือเส้นประสาทเสียหายได้ รวมถึงไม่มีวิธีแก้ไขด้วยเมื่อเกิดความผิดพลาด หลายๆเคสไขมันที่ฉีดไปเกลี่ยไม่สม่ำเสมอเป็นก้อน ก็ไม่สามารถฉีดสลายแก้ได้เช่นกัน รวมถึงควรดูรีวิวหลังการฉีดผ่านไปแล้ว 6-12 เดือนเพื่อดูผลลัพธ์เซลล์ไขมันที่ติดหน้าผากจริงๆ สำหรับฟิลเลอร์มีความปลอดภัยสูงมากหากเป็นฟิลเลอร์แท้ ก่อนฉีดคนไข้จะต้องตรวจสอบสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือและเช็คกล่องฟิลเลอร์เพื่อดูว่าแท้หรือปลอม

ลักษณะโหงวเฮ้งหน้าผากที่ดี ช่วยส่งเสริมเรื่องใดบ้าง

ลักษณะโหงวเฮ้งหน้าผากที่ดี

หน้าผากที่โหนกนูนเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญบนใบหน้า แสดงถึงความมั่งมี มั่งคั่ง ทำมาค้าขายคล่องตัว หน้าผากจะต้องโหนกนูนพอดี ไม่มีร่องลึกและริ้วรอยบนหน้าผาก จะรวมไปถึงบริเวณขมับด้วยจะต้องไม่เป็นแอ่งร่องลึกลงไป

หน้าผากที่โหนกนูนแต่พอดีจะช่วยส่งเสริมหน้าที่การงานและการเงินให้มั่งคั่งนั่นเองค่ะ เมื่อกรอบหน้าผากมีความอิ่มสมบูรณ์จะเป็นการทำให้โชคชะตาโดยรวมดีขึ้น เป็นคนที่ขวนขวายหาความรู้ มีวิสัยทัศน์ เป็นผู้นำในองค์กร เป็นลักษณะของเศรษฐีรวมถึงจะได้รับการอุปการะจากผู้ใหญ่ เจรจาการงานธุรกิจได้ง่ายขึ้น ผู้ใหญ่เอ็นดู

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ราคาเท่าไหร่ ควรฉีดยี่ห้อไหนดี

ฟิลเลอร์มีหลายรุ่นและยี่ห้อที่แตกต่างกัน ตามขนาดโมเลกุลของรุ่นนั้นๆ สำหรับการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มหน้าผาก แนะนำยี่ห้อจูวีเดิร์ม Juvederm Vobella (Allergan) เหมาะสำหรับฉีดหน้าผากและริมฝีปากเพราะเป็นโมเลกุลที่มีความคงตัวสูง ราคาเริ่มต่อ 1cc = 10,693 บาท อยู่ได้นาน 12 เดือน สำหรับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะใช้ฟิลเลอร์ปริมาณ 3-5 ซีซีขึ้นกับความลึกของร่องที่ยุบตัวลงไปค่ะ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง