กรามใหญ่ สาเหตุเกิดจากอะไร แก้ด้วยวิธีไหน ได้ผลและไม่ได้ผลกับใครบ้าง?
กรามใหญ่เป็นปัญหาที่หลายคนกังวล เพราะทำให้ใบหน้าดูไม่เรียวสวย ถ่ายรูปต้องหลบมุม เพราะหน้าดูใหญ่ ดูดุ วันนี้เราก็เลยจะมาอธิบาย ถึงการแก้ปัญหากรามอย่างละเอียด และ มีวิธีเช็คกรามใหญ่แบบง่ายๆเกิดจากสาเหตุจากอะไร เพื่อการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ซึ่งวิธีเช็คกรามที่ว่านี้จะมีกี่วิธี อะไรบ้าง มาดูกันได้เลยค่ะ
กรามใหญ่ เกิดจากอะไร?
กรามใหญ่เกิดมาจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น กรามใหญ่ที่เกิดจากโครงกระดูกบริเวณขากรรไกรที่มีขนาดกว้างตั้งแต่กำเนิด หรือ ใบหน้าดูใหญ่ซึ่งเกิดจากความอ้วน และมีไขมันที่เก็บสะสมอยู่มาก รวมไปถึงการมีกล้ามเนื้อที่บริเวณส่วนกรามใหญ่โตขึ้น จากการเคี้ยวอาหารที่มีความเหนียวอยู่บ่อยๆครั้ง เช่น การเคี้ยวหมากฝรั่ง เนื้อย่าง เนื้อทอด และ ข้าวเหนียวอยู่เป็นประจำ ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามมีความแข็งแรง และมีขนาดใหญ่ขึ้นจนเห็นได้ชัด
กรามใหญ่ มีลักษณะอย่างไร?
หลังจากที่เราทราบถึงสาเหตุการเกิดปัญหากรามใหญ่กันไปแล้ว ต่อไปเรามาดูกันบ้างว่ากรามใหญ่นั้นมีกี่แบบ และแต่ละแบบมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
กรามใหญ่ โหนกแก้มสูง
เป็นลักษณะกรามใหญ่ที่เกิดขึ้นได้จาก 2 สาเหตุหลักๆ คือกรรมพันธุ์ ที่มีการยุบตัวของกระดูกในบริเวณส่วนแก้มมากกว่าปกติส่งผลให้โหนกแก้มมีลักษณะสูงใหญ่ขึ้น และอีกสาเหตุคือการมีอายุที่มากขึ้น เพราะเมื่อเรามีอายุมากขึ้นคอลลาเจนส่วนนั้นก็จะเริ่มไม่เพียงพอทำให้ผิวส่วนแก้มเกิดการยุบตัวได้อีกด้วยเช่นกัน
กรามใหญ่ข้างเดียว
เป็นลักษณะการเกิดขึ้นมาจากการเจริญเติบโตของกระดูกส่วนกรามที่ผิดปกติ ส่งผลให้กรามทั้งสองข้างมีลักษณะไม่เท่ากัน นอกจากนั้นยังสามารถเกิดได้จากการชอบเคี้ยวอาหารข้างเดียวจนทำให้กระดูกกรามทั้งสองข้างมีขนาดที่ไม่เท่ากันขึ้นได้
กรามใหญ่ แก้มเยอะ
มักเกิดขึ้นมากจากความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกขากรรไกร ส่งผลให้คนมีปัญหานี้มีลักษณะหน้าใหญ่ หน้าอูม มีแก้มป่องหรือบางคนจะรู้สึกว่าหน้าอ้วน นอกจากนั้นยังสามารถเกิดขึ้นได้จากทานอาหารปริมาณจนทำให้เกิดไขมันสะสมที่บริเวณแก้มได้
กรามใหญ่ เพราะกล้ามเนื้อหรือกระดูก ดูยังไง?
หากมีกรามใหญ่เพราะกล้ามเนื้อ ให้ลองกอดฟันแน่นๆแล้วเอามือไปจับบริเวณกราม ถ้าหากเป็นกล้ามเนื้อจะมีความนูนและแข็งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน ซึ่งปัญหากรามดูใหญ่ จากกล้ามเนื้อนี้มักเกิดจากการเคี้ยวอาหารที่แข็งและเหนียวอยู่บ่อยๆ แต่หากมีกรามใหญ่เพราะกระดูกรูปหน้าจะดูเป็นเหลี่ยมอย่างเห็นได้ชัด และ มีลักษณะบานออกด้านข้าง ตั้งเเต่เกิด ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีการผ่าตัดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
กล้ามเนื้อช่วงกรามเยอะ
สาเหตุที่มีเนื้อบริเวณกล้ามเนื้อกราม จะมีขนาดใหญ่ออกมา นอกจากมีการใช้บริเวณกล้ามเนื้อเคี้ยว และบดอาหารอยู่บ่อย ๆ ครั้ง หรือเป็นคนที่มีอาการชอบนอนกัดฟัน จึงจะทำให้ส่วนของกล้ามเนื้อใหญ่ขึ้นได้
วิธีเช็คคือ กัดฟันตัวเองแน่นๆค้างไว้ แล้วใช้มือคลำดูว่ามีขนาดของกล้ามเนื้อมาก- น้อยแค่ไหน
กระดูกกรามใหญ่
สาเหตุหลักที่มีขนาดของโครงกระดูกกรามใหญ่เกิดจากผลของพันธุกรรมที่มีการส่งมาแล้วจากรุ่นสู่รุ่น โดยเฉพาะในกลุ่มคนเอเชียที่จะมีลักษณะของโครงสร้างกระดูกของกรามที่มีขนาดใหญ่ รวมถึงคนไทยด้วยเช่นกัน
วิธีเช็คคือ เมื่อกัดฟันแล้วกรามมีการขยับออก และ มีความเเข็งจะเป็นส่วนของกระดูกโครงหน้านั่นเอง
ไขมันที่แก้มเยอะ
การที่มีใบหน้าของการเก็บไขมันสะสมอยู่มาก จะทำให้หน้าดูหน้ากลมๆ มีแก้มป่องๆ หรือมีเนื้อแก้มที่เยอะ แก้มดูห้อย เห็นกรอบหน้าไม่ชัด ซึ่งจะเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุด้วยกันเช่น กรรมพันธุ์ และการสะสมของไขมัน
วิธีเช็ค เอามือจับตรงบริเวณแก้มดูหากจับได้เนื้อแก้มมาก นั่นคือไขมัน หรือลองส่องกระจกดูว่าแก้มมีความหย่อนคล้อย หรือดูห้อยหรือไม่ หากแก้มหย่อนคล้อยนั่นแสดงว่ามีปัญหาหน้าใหญ่จากไขมัน
สำหรับคนที่มีปัญหาแก้มเยอะอ่านต่อได้ที่ : แนะนำวิธีลดแก้ม แก้มเยอะ แก้มใหญ่ ที่ผลได้เป็นธรรมชาติ แบบเร่งด่วน
กรามใหญ่ส่งผลต่อโหงวเฮ้งอย่างไร
ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ใครหลายๆ คนต่างพากันให้ความสำคัญอย่างมาก นั้นก็คือหลักโหวงเฮ้งของใบหน้า ดังนั้นเราจะขอเปิดคำทำนายลักษณะกรามตามตำราว่าลักษณะกรามแบบไหน หมายถึงอะไรบ้าง
- ผู้ผญิงมีกรามใหญ่ : เป็นคนพูดเก่ง จิกกัดสามีเก่ง
- ผู้หญิงมีกรามเล็กเรียว : เป็นคนเก็บเงินเก่ง มีพลังในการทำงานที่ดี มีบริวารคอยสนับสนุนช่วยเหลือตลอด
- ผู้ชายกรามใหญ่ : มีอำนาจ บารมี ควบคุมคนได้ดี มักประสบความสำเร็จในชีวิตการงานได้ง่าย
- ผู้ชายกรามเล็ก : มักเป็นคนไม่ชอบวางแผนในชีวิต ทำให้ประสบความสำเร็จได้ยาก
วิธีแก้ปัญหาสำหรับคนมีปัญหากรามใหญ่
ปัญหาที่ผู้คนส่วนใหญ่มีใบหน้าบานหรือมรกรามใหญ่ที่หลายๆคนอาจจะกำลังเป็นอยู่นั้น ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางออกหรือทางแก้ไขปัญหา เพราะว่าในปัจจุบันสามารถช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายด้วยหลายวิธี ได้แก่
ฉีดโบท็อกลดกราม
การฉีดโบท็อกกราม เป็นการฉีดสาร Botulinum toxin เข้าไปยังบริเวณกล้ามเนื้อกราม โดยตัวยาโบท็อกจะมีการออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทโดยตรง มีผลทำให้กล้ามเนื้อทำงานได้อย่างช้าลง และจะทำให้กรามมีขนาดเล็กลง ใบหน้าจะดูวีเชฟขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนในคลินิกนิยมนำมาฉีดลดขนาดกราม ช่วยกระชับกรอบหน้า ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น การฉีดโบท็อกลดกรามจะต้องได้รับบริมาณยาที่เหมาะสม โดยบริมาณที่คุณหมอนิยมใช้ จะอยู่ที่ข้างละ 30 – 40 ยูนิตเท่านั้น เพราะถ้าหากมีการฉีดมากกว่านี้ อาจจะทำให้เกิดปัญหาแก้มตอบ หน้าดูโทรม และ ดูมีอายุมากกว่าอายุจริงได้
- ข้อดี การฉีดโบท็อกนอกจากจะช่วยให้ กรามเล็กลงแล้ว ยังช่วยยกกระชับ และ ลดร้ิวรอยบนใบหน้าให้จางลงได้อีกด้วย
- ข้อเสีย หากมีการฉีดผิดตำแหน่ง หรือ ฉีดในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้ใบหน้าผิดรูปได้ หรือ ดูไม่เป็นธรรมชาติได้และ ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ใช้ผลลัพธ์ที่ถาวรจะต้องมีการเติมซ้ำทุก 3-6 เดือน
เคสตัวอย่างการแก้ปัญหากรามใหญ่ด้วยการฉีดโบท็อกซ์
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ฉีดโบท็อกลดกราม คืออะไร? ช่วยให้หน้าเรียวขึ้นจริงไหม? เห็นผลกับใครบ้าง
ศัลยกรรมผ่าตัดกราม
เป็นการผ่าตัดศัลยกรรมบริเวณมุมกราม เพื่อลดขนาดของกรามให้เล็กลง และ ทำให้กรามทั้ง 2 สองข้างมีขนาดที่เท่ากันมากขึ้น ซึ่งการผ่าตัดนี้เป็นการผ่าตัดกระดูกกรามออกอย่างถาวร เพื่อให้ได้รูปหน้าที่วีเชฟ หน้าดูดล็กลงได้ทันที แต่เป็นวิธีนี้จะเหมาะกับผู้ที่มีขนาดกระดูกกรามใหญ่อย่างเห็นได้เท่านั้น เพราะหลังการผ่าตัดจะทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
- ข้อดี ช่วยปรับรูปทรงของหน้าให้ดูมีความสมดุลกันยิ่งขึ้น และ ช่วยทำให้ใบหน้าดูเรียว วีเชฟ มีขนาดเล็กลงได้แบบถาวร
- ข้อเสีย อาจจะเกิดสภาวะการแทรกซ้อนจากการผ่าตัดได้เช่นมีการเสียเลือดมาก มีการติดเชื้ออย่างรุนแรงหากรักษาความสะอาดไม่ดีพอ และ อาจทำให้เส้นประสาทบางส่วนได้รับความเสียหาย
การจัดฟัน
การจัดฟัน เป็นการช่วยช่วยแก้ปัญหา การสบฟันที่ผิดปกติที่ไม่รุนแรง และ ช่วยให้ฟันมีการเรียงตัวสวยงามจากการเรียงตัวที่ไม่เป็นระเบียบ เช่น มีฟันซ้อน มีฟันเก ฟันห่าง หรือฟันเคยยื่น โดยใช้การถอนและการดึงขยับฟันให้เข้าที่สวยงาม ดังนั้นในคนไข้บางคนจึงมีรูปหน้าที่เรียวเล็กขึ้นหลังการจัดฟันนั่นเอง
- ข้อดี ช่วยทำให้ใบหน้าดูสวย หน้าดูเรียวขึ้น ไปพร้อมๆกับช่วยทำให้มีรอยยิ้มที่สวยงาม
- ข้อเสีย ระหว่างการจัดฟันทำจะรู้สึกเจ็บ อึดอัด เนื่องจากเคี้ยวอาหารไม่สะดวก ซึ่งการการจัดฟันต้องใช้เวลานาน และอาจได้ผลลัพธ์ไม่ตรงตามที่คาดหวัง
ฉีดฟิลเลอร์คาง
เป็นการปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้นด้วยการนำสารเติมเต็มประเภทที่มีไฮยาลูรอนิค แอซิด ฉีดเข้าสู่บริเวณคาง เพื่อเป็นการเสริมคาง ปรับรูปทรงของใบหน้าให้ดูมีสมมาตร ดูเรียววีเชฟ มีมิติมากขึ้น โดยหลังมีการฉีดฟิลเลอร์คางจะให้เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที ถือเป็นวิธีที่ปลอดภัย เพราะตัวยาสามารถสลายไปเองตามธรรมชาติโดยไม่มีการตกค้าง
- ข้อดี หลังการฉีดฟิลเลอร์จะทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นได้ทันที สามารถปรับรูปทรงคางได้ต้องใจชอบ ไม่ต้องพักฟื้น และ หากฉีดแล้วเกิดไม่ชอบสามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ทันที
- ข้อเสีย อาจมีรอยเข็ม หรือ มีการบวมช้ำเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีด ประมาณ 3-7วัน ไม่สามารถฉีดให้คางยาวเกินไปได้ และ ต้องมีการฉีดซ้ำเนื่องจากฟิลเลอร์แท้มีการสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ได้ผลลัพธ์ที่ถาวร
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์คาง แบบไหนดี อยากคางสวยและปลอดภัย ต้องรู้อะไรบ้าง
ร้อยไหม
เป็นการใช้ไหมที่มีการละลายได้ตามธรรมชาติ ร้อยเข้าไปในชั้นใต้ผิวหนังตรงบริเวณที่มีปัญหา โดยเส้นไหมจะมีการทำตะขอเล็กๆอยู่ เพื่อช่วยยกกระชับผิวหน้าขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยกระตุ้นการเสริมสร้างคอลลาเจนได้ผิวได้อีกด้วย ซึ่งการร้อยไหมนี้สามารถยกกระชับได้หลากหลายส่วนของใบหน้า ไม่ว่าจะเป็น การยกแนวกรามเพื่อให้หน้าดูเรียวขึ้น การยกแนวคิ้วเพื่อแก้ปัญหาคิ้วตก หรือ ร้อยไหมร่องแก้ม เพื่อให้ร่องแก้มดูตื้นขึ้น
- ข้อดี การร้อยไหมช่วยทำให้เสริมสร้างกระตุ้นการหดตัวของคอลลาเจนชั้นใต้ผิว เพื่อให้ผิวดูยกกระชับเต่งตึงขึ้น ทำให้ความหย่อนคล้อยนั้นหายไปได้ในทันที
- ข้อเสีย จะเริ่มเห็นผลชัดเจนที่สุดใน 1-3 เดือน และให้ผลผลลัพธ์อยู่ได้นานเพียง 1-2 ปี (ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคลร่วมด้วย)
วิธีแก้ปัญหาสำหรับคนมีเนื้อที่แก้มเยอะ
เชื่อได้เลยว่าหลายๆ คนอยากมีรูปทรงของใบหน้าให้ดูสวยติดตัวอยู่ตลอดเวลา แต่ในความเป็นจริงนั้น ใบหน้าของเราดั๊นไม่มีความperfect อย่างที่คิดเอาไว้ เพราะมีเนื้อบริเวณแก้มที่ค่อนข้างเยอะ ซึ่งวิธีที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ให้หมดไปมี 4 วิธีง่ายๆดังนี้
Thermage
เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับผิวด้วยการนำคลื่นวิทยุความถี่สูง ของ(High Radio Frequency) เป็นชนิดแบบขั้วเดียวอย่าง (Monopolar) ที่สามารถช่วยส่งพลังงานลงไปได้ลึกถึงชั้นใต้หนังแท้ และลงลึกถึงชั้นไขมันใต้ชั้นผิว เพื่อให้เกิดการยกกระชับ และกำจัดไขมันแก้มบริเวณแก้ม และคางไปพร้อมกัน หลังการทำจึงรู้สึกได้ว่าใบหน้าดูเรียวขึ้น โดยไร้บาดแผล
- ข้อดี ช่วยในการยกกระชับใบหน้า เพื่อเป็นการปรับรูปหน้าให้ดูเรียวและเล็กลงอย่างเห็นได้ชัดเจน รวมถึงช่วยลดริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา ริ้วรอยร่องแก้ม ริ้วรอยการย่นบนหน้าผาก และริ้วรอยตีนกาได้โดยไม่ต้องใช้เข็ม
- ข้อเสีย อาจมีการเกิดผลข้างเคียงได้บ้างเล็กน้อย เช่นเกิดรอยแดง ตามผิวหนัง หรือมีผื่นแดง และ มีรอยนูนที่ผิว แต่สามารถประคบเย็นเพื่อช่วยลดอาการได้
Sygmalift Hifu
เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับใหม่ล่าสุดจากประเทศฝรั่งเศส ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อนำมาช่วยยกกระชับผิวหนังบนใบหน้าและใต้คางโดยการใช้พลังงานของคลื่นเสียงแบบเข้มข้น ที่มีขื่อเรียกว่า HIFU = (High-Intensity Focused Ultrasound) เป็นการช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ด้วยการปล่อยพลังงานแบบ 3 มิติ สามารถเลือกปรับความลึกได้ ตั้งแต่ 3-5มม. และมีการปล่อยพลังงานแบบ pulsed = 1000ครั้ง/วินาที จึงทำให้ไม่กระทบเส้นประสาท และไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Cold Laser ซึ่งเป็น Low Level Laser Therapy (LLLT) 635nm. ที่จะช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิว และลดอาการบวมได้
- ข้อดี ช่วยในการยกกระชับผิวหนังบนใบหน้าได้ทันที และ เมื่อทำครบ 3 ครั้งก็จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน โดยในระหว่างการทำหัตถการจะไม่รู้สึกเจ็บ และไม่มีการระคายเคืองต่อผิวหนังแต่อย่างใด
- ข้อเสีย การหัตถการนี้ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ถาวร โดยในการทำแต่ละครั้งจะอยู่ได้นานประมาณ 1 ปีเท่านั้น
Ultraformer III
เป็นอีกหนึ่งครึ่งมือช่วยยกกระชับและปรับรูปหน้าด้วยหลักการใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความถี่สูง ( High Intensity Focus Ultrasound) ยิงลงไปยังชั้นผิวเพื่อไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวหน้ามีความกระชับเต่งตึง ริ้วรอยดูจางลง และยังช่วยสลายไขมันทำให้หน้าเล็กและเรียวขึ้น กรอบหน้าชัดขึ้น แก้ปัญหาเหนียงได้ดี
- ข้อดี ช่วยยกกระชับ ปรับหน้าเรียวเล็ก ลดริ้วรอยต่างๆ ได้โดยไม่มีแผล ไม่ต้องฟักพื้น และสามารถเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
- ข้อเสีย หลังทำ 1 ครั้งสามารถเห็นผลลัพธ์ได้นาน 6-12 เดือน ซึ่งหากต้องการคงผลลัพธ์ให้ยาวนานขึ้นจะต้องมีการมาทำซ้ำทุกๆ 6 เดือน
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : Ultraformer III คืออะไร? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ทำแล้วเห็นผลจริงไหม?
ดูดไขมันกรอบหน้า เหนียง
เป็นการกำจัดเหนียงใต้ชั้นคางออกไป ด้วยเป็นการดูดไขมันออกมา ถือเป็นวิธีที่สามารถกำจัดไขมันได้อย่างตรงจุด เพื่อจะทำให้ใบหน้าดูเรียวดูเล็กขึ้นได้ทันทีหลังการทำ แต่การดูไขมันกรอบหน้านี้จะต้องทำโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดรอยคลื่นหลังการทำ และ โดยส่วนมากแพทย์จะนิยมใช้วิธีนี้กับบริเวณแขน ขา หรือหน้าท้อง ที่มีไขมันเยอะๆมากกว่าบริเวณกรอบหน้า และ เหนียง
- ข้อดี ช่วยลดไขมันที่สะสมบริเวณใบหน้าและใต้คาง และ ช่วยทำให้ผิวหนังเกิดการยกกระชับ สามารถมองเห็นรูปทรงของกรอบหน้าได้ชัดขึ้น ผิวหนังดูอ่อนเยาว์ลง
- ข้อเสีย อาจมีอาการบวมช้ำอย่างน้อย1-2 สัปดาห์ จึงทำให้ต้องพักฟื้น และหลังการทำอาจเกิดอาการเป็นก้อน Seroma หรือ ก้อนไขมัน แต่สามารถช่วยนวดเบาๆเพื่อให้สลายไปเองได้
เมโสแฟต สลายไขมันแก้ม
เป็นวิธียอดฮิต โดยการนำตัวยาที่มีชื่อเรียกว่า Meso Fat ซึ่งสามารถออกฤทธิ์เพื่อช่วยในการสลายไขมันโดยตรง ฉีดเข้าไปตรงบริเวณแก้มที่มีการเก็บไขมันสะสมเอาไว้ หรือบริเวณแก้ที่ดูใหญ่อละห้อยที่เกิดจากไขมัน เพื่อทำให้ไขมันที่จะตัวกันเป็นก้อนแตกตัวออกจากกัน ทำให้บริเวณเนื้อแก้มดูการเล็กลงได้อย่างชัดเจน และทำให้ใบหน้าโดยรวมดูเรียว เรียบเนียนสวยขึ้นอีกด้วย
- ข้อดี ช่วยทำให้ลดปริมาณของเนื้อบริเวณแก้มให้เล็กลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ผลการรักษาที่รวดเร็ว และ มีค่าใช้จ่ายไม่สูง
- ข้อเสีย หลังทำไม่สามารถให้ผลลัพธ์ได้ทันที ต้องรอให้ตัวยามีการออกฤทธิ์อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ และนอกจากนี้ตัวยาของเมโสแฟต ยังไม่เหมาะกับผู้ที่มีไขมันที่เยอะมากๆอีกด้วย
อ่านบทความเพิ่มเติม : เมโสแฟต คืออะไร ?
ลดกรามแบบธรรมชาติ ด้วยการนวดบริหารกล้ามเนื้อกราม
ใครที่มีขนาดตรงส่วนของบริเวณกรามใหญ่ หรือมีกรามหนา จนทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วน และดูไม่เท่ากัน แต่ไม่ต้องการลดกรามด้วยวิธีข้างต้นที่กล่าวมา เรามีวิธีอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยลดขนาดกรามใหญ่ได้ นั้นก็คือ การนวดลดกรามนั่นเอง ซึ่งมีขั้นตอนง่ายๆดังนี้
- เช็คให้มั่นใจว่าหน้าใหญ่เพราะกล้ามเนื้อหรือกระดูก(หากเป็นกระดูกไม่สามารถนวดรถ)
- ใช้หลังมือค่อยๆกดคลึงนวดเบาๆวนๆข้างละ 5-10 นาที 3-4 ครั้ง/สัปดาห์ เป็นประจำ เพื่อให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัว แล้วจะเห็นได้ว่ากลามมีขนาดที่เล็กลง
สรุป
การลดกรามสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งแบบธรรมชาติและใช้นวัตกรรมมาเป็นตัวช่วย แต่ต้องเลือกใช้วิธีที่เหมาะสม เพื่อการแก้ไขปัญหาให้ได้ตรงจุดมากที่สุด หากใครที่มีปัญหากรามใหญ่ แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร และ ควรต้องใช้วิธีไหน แนะนำให้ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้รับการประเมินและการรักษาที่ถูกต้อง