พุง มีกี่แบบ? ลักษณะอย่างไร พุงแต่ละแบบใช้วิธีลดอย่างไรถึงเหมาะสม

|
พุงมีกี่แบบ

ปัญหาพุงยื่น พุงใหญ่นั้นถือเป็นปัญหาที่หลายๆ คนต่างกังวลใจเพราะเป็นปัญหาที่สามารถพบได้ทั้งคนอ้วนและคนผอม ซึ่งพุงของคนเราสามารถแบ่งออกได้หลายแบบตามลักษณะและสาเหตุการเกิดพุง ดังนั้นในบทความนี้หมอจะมาแนะนำลักษณะพุง สาเหตุการเกิด รวมไปถึงวิธีลดพุงให้เหมาะกับพุงแต่ละแบบว่าเหมาะกับวิธีไหนบ้าง

รู้จัก “พุง” คืออะไร?

พุงคืออะไร

พุง (Belly หรือ Tummy) คือลักษณะของหน้าท้องที่ยื่นหรือป่องออกมาจากการสะสมของไขมันในชั้นผิว ทำให้บางคนมีลักษณะพุงที่นิ่มและหย่อนคล้อยตามแรงโน้มถ่วงของโลก ซึ่งส่งผลต่อรูปร่างและความมั่นใจเป็นอย่างมาก

พุงมีทั้งหมดกี่แบบ?

พุงของคนเรานั้นสามารถจำแนกออกได้เป็น 5 แบบด้วยกันตามลักษณะของพุง ซึ่งหากใครที่อยากทราบว่าเรามีพุงแบบไหนให้เริ่มจากการสังเกตว่าพุงของเรามีลักษณะคล้ายกับแบบใดตามรายละเอียดด้านล่างนี้

1. พุงกลม (Alcohol Belly)

ลักษณะของพุงกลม : มีลักษณะกลมป่องและยื่นออกมาอย่างเห็นได้ชัด

สาเหตุการเกิดพุงกลม : เกิดจากพฤติกรรมการชอบดื่มแอลกอฮอล์ที่มีน้ำตาลและแคลอรีสูงเป็นประจำ จึงส่งผลต่อระบบการย่อยอาหารทำให้เกิดอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อยจนทำให้พุงป่องยื่นออกมา และยังรวมไปถึงการทำให้ระบบเผาผลาญไขมันหยุดทำงานจนทำให้ร่างกายสามารถสร้างชั้นไขมันในผิวได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

พุงกลม ลดยังไง : เริ่มจากปรับพฤติกรรมลดการดื่มแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและแคลอรีสูง และหันมาทานอาหารที่ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นอย่างผัก ผลไม้ และเพิ่มการออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นการเผาผลาญไขมันและเสริมสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้อง

พุงกลม (Alcohol Belly)

2. พุงหมาน้อย หรือพุงป่องช่วงล่าง (Hormonal Belly)

ลักษณะของพุงน้อย : จะเป็นพุงที่มีหน้าท้องด้านบนเรียบปกติ แต่หน้าท้องส่วนล่างที่ใหญ่และเกิดการหย่อนคล้อยจนห้อยลงมา

สาเหตุการเกิดพุงน้อย : เกิดขึ้นจากพฤติกรรมการชอบทานอาหารหวาน อาหารที่น้ำตาลและแคลอรีสูง เช่น อาหารพวกแป้ง ของทอด ของมันต่างๆ เป็นประจำ ร่วมกับการไม่ออกกำลังกาย หรือกลุ่มพนักงานออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานทั้งวันไม่มีการขยับร่างกายเป็นต้น

พุงน้อย ลดยังไง : เริ่มจากการปรับพฤติกรรมการทานของหวาน อาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล และหันไปทานอาหารที่มีกากใยสูง เน้นคาร์โบไฮเดรต อาหาร Low Fat พร้อมทั้งเริ่มออกกำลังกายหรือขยับร่างกายให้มากขึ้น เช่น เดินออกกำลังกายเบาๆ หลังทานอาหารหรือลุกขึ้นเดินในระหว่างนั่งทำงาน

พุงหมาน้อย หรือพุงป่องช่วงล่าง (Hormonal Belly)

3. พุงเครียด (Stressed Belly)

ลักษณะของพุงเครียด : พุงประเภทนี้จะมีลักษณะเป็นชั้นๆ ที่จะยื่นออกมาระหว่างกะบังลมและสะดือซึ่งในบางคนจะมีจำนวนชั้นที่ไม่เท่ากันบางคนมี 2 บางคนมี 3 ชั้นหรือที่เรียกอีกอย่างว่า “พุงเป็นชั้น”

สาเหตุการเกิดพุงเครียด : เกิดขึ้นจากสภาวะจิตใจที่มีความเครียด ส่งผลต่อการนอนหลับทำให้นอนน้อย นอนไม่หลับทำให้ร่างกายเกิดการหลั่งฮอร์โมนตัวที่ควบคุมระบบการเผาผลาญออกมาได้น้อยลง นอกจากนั้นยังรวมไปถึงการชอบการอาหารกลุ่ม Junk Food เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน ซึ่งส่งผลทำให้บางรายมีอาการท้องอืด แน่นท้อง ขับถ่ายไม่สะดวกร่วมด้วยซึ่งถือเป็นสัญญาณเตือนของโรคลำไส้แปรปรวนนั่นเอง

พุงเครียด ลดยังไง : เริ่มจากการปรับเรื่องของสภาพจิตใจหาวิธีจัดการกับความเครียด เช่น การพักผ่อน การทำกิจกรรมที่ชอบ การนอนหลับให้เพียงพอ การลดเครื่องดื่มคาเฟอีน ร่วมกับการออกกำลังกายแบบเบาๆ เช่น โยคะ พิลาทีส ที่นอกจากจะช่วยเพิ่มการทำงานของระบบเผาผลาญแล้วยังช่วยลดความเครียดได้ดีอีกด้วย

พุงเครียด (Stressed Belly)

4. พุงป่อง (Bloated Belly)

ลักษณะของพุงป่อง : จะมีลักษณะพุงที่กลมและป่องออกมาในตอนกลางวัน แต่พุงจะแบนในช่วงตอนเช้าหรือเกิดขึ้นหลังจากทานอาหาร

สาเหตุการเกิดพุงป่อง : เกิดขึ้นจากการมีแก๊สในกระเพาะอาหาร มีอาการท้องอืด แน่นท้อง ที่มาจากการทานอาหารที่ย่อยยาก

พุงป่อง ลดยังไง : ถือเป็นประเภทพุงที่สามารถรักษาได้ง่ายด้วยการปรับพฤติกรรมการทานลดอาหารกลุ่มแป้ง น้ำตาล และงดทานอาหารมื้อดึก หันไปเน้นทานอาหารกลุ่มที่มีกากใยสูง และการดื่มน้ำให้มากๆ เช่น การดื่มน้ำก่อนทานอาหารจะช่วยลดแก๊สในกระเพาะอาหารได้ดี รวมไปถึงการปรับพฤติกรรมหลังทานอาหารเช่น การเดินเบาๆ เพื่อกระตุ้นการย่อยอาหารและงดการนอนหลังทานอาหารแบบทันที

พุงป่อง (Bloated Belly)

5. พุงคนท้อง (Mommy Belly)

ลักษณะของพุงคนท้อง : เป็นลักษณะหน้าท้องที่ยื่นและหย่อนคล้อยลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลก มักพบขึ้นได้กลุ่มคุณแม่หลังคลอด

สาเหตุการเกิดพุงคนท้อง : เกิดขึ้นมาจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในช่วงตั้งครรภ์ที่ส่วนของมดลูกมีการขยายตัวเพื่อให้ทารกอยู่ และเมื่อคลอดบุตรแล้วตัวมดลูกนั้นยังไม่เกิดการหดตัวเข้าที่เดิม ส่งผลทำให้เกิดเป็นพุ่งยื่นออกมา

พุงคนท้อง ลดยังไง : ในพุงลักษณะนี้จะหายไปเองเมื่อร่างกายเริ่มกลับเข้าสู่สภาพปกติโดยจะใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์ซึ่งคุณแม่ควรเน้นการออกกำลังกายแบบเบาๆ เช่น การเดิน การเลี้ยงลูกเอง หรือลดอาหารกลุ่มแป้งน้ำตาลที่อาจเกิดให้เกิดชั้นไขมันสะสมขึ้นได้

พุงคนท้อง (Mommy Belly)

รู้จักกับชั้นของพุง

ในชั้นพุงของคนเรานั้นสามารถแบ่งได้ออกเป็นทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกัน ดังนี้

  • ชั้นที่ 1 หรือไขมันใต้ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous Fat)
    ถือเป็นชั้นแรกนับจากผิวชั้นนอก เป็นชั้นที่เราสามารถจับหรือบีบได้ เป็นพุงชั้นที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นพลังงานสำรองให้ในช่วงที่ร่างกายขาดสารอาหาร ซึ่งสามารถลดได้ด้วยการควบคุมการทานอาหารเพื่อให้ร่างกายนำไขมันในพุงชั้นนี้ไปใช้
  • ชั้นที่ 2 หรือกล้ามเนื้อหน้าท้อง (Abdominal Muscles)
    ชั้นนี้เป็นชั้นที่สองถัดเข้ามาจากชั้นที่หนึ่งโดยเราจะสามารถสังเกตพุงชั้นนี้ในกลุ่มคนที่มีน้ำหนักตัวน้อยได้ง่ายมากๆ ในเวลาหลังทานอาหารที่จะเห็นได้ชัดเลยว่าพุงจะใหญ่และยื่นออกมาอย่างชัดเจนกว่าตอนเช้าที่ไม่ได้ทานอาหาร ซึ่งมีสาเหตุมาจากชั้นกล้ามเนื้อนี้มีความไม่แข็งแรงพอที่จะพยุงอวัยวะภายในที่เกิดจากการขยายของกระเพาะอาหารได้
  • ชั้นที่ 3 หรือไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat)
    เป็นชั้นพุงที่เกิดจากการสะสมของไขมันที่มีสาเหตุมาจากการเคลื่อนไหวร่างกายที่น้อย ซึ่งถือเป็นชั้นที่มีความอันตรายอย่างมาก เพราะไขมันในชั้นนี้สามารถละลายเข้าสู่กระแสเลือดจนนำไปสู่อาการผนังหลอดเลือดอักเสบได้ ซึ่งวิธีลดพุงชั้นนี้คือการออกกำลังกายอย่าง การเต้นแอโรบิค การปั่นจักรยานเป็นต้น

พุงแบบไหนที่ลดยากที่สุด

ในทางการแพทย์แล้วลักษณะพุงที่ลดได้ยากมากที่สุดคือพุงกลม (Alcohol Belly) ที่เป็นลักษณะของพุงที่มีการสะสมของชั้นไขมันในช่องท้องที่มาก ซึ่งทำให้ลดได้ยากและนอกจากนั้นยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพอย่างโรคความดังโลหิตสูงหรือโรคเบาหวานได้ง่ายอีกด้วย

การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันการเกิดพุง

การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันการเกิดพุง

แน่นอนว่าการลดพุงนั้นไม่ว่าจะเป็นพุงประเภทไหนก็ย่อมมีความยากทั้งนั้น ดังนั้นการหันมาดูแลตัวเองเพื่อป้องกันการเกิดพุงก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีกว่ามากๆ ซึ่งวิธีการดูตัวเองนั้นจะมีข้อควรปฏิบัติดังนี้

  1. ลดพฤติกรรมการทานอาหารพวกของทอด ของมัน แป้ง อาหารที่มีน้ำตาลและแคลอรีสูง รวมไปถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน
  2. หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันเพื่อช่วยระบบการเผาผลาญไขมันและเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
  3. พักผ่อนให้เพียงพอเนื่องจากการนอนนั้นถือเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการเผาผลาญไขมันเป็นอย่างมาก และการนอนไม่พอนั้นจะส่งผลต่อฮอร์โมนในร่างกายที่ทำงานผิดปกติทำให้มีความอยากอาหารที่มากขึ้น
  4. ดูแลเรื่องสภาพจิตใจไม่ให้มีสภาพวะอารมณ์เครียด เนื่องจากความเครียดจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมน Cortisol ออกมาทำให้ปริมาณน้ำตาลและอินซูลินในเลือดสูงขึ้น

วิธีลดพุงแบบเร่งด่วนมีอะไรบ้าง

การใช้คลื่นสลายชั้นไขมัน

สำหรับใครที่ต้องการลดพุงแบบเร่งด่วนนั้นก็สามารถเลือกใช้เทคโนโลยีหรือหัตถการทางการแพทย์เช้าช่วยซึ่งในปัจจุบันนี้ได้มีด้วยกันหลายวิธี ซึ่งวิธีลดพุงแบบเร่งด่วนที่หมอแนะนำมีดังนี้

  • การฉีดสลายไขมัน ด้วยการฉีดเมโสแฟต ซึ่งเป็นตัวยาที่มีส่วนช่วยในการเข้าไปสลายไขมันให้เกิดการแตกตัวและถูกขับออกจากร่างกายทางปัสสาวะ
  • การใช้คลื่นสลายชั้นไขมัน ด้วยการยิงส่งคลื่นพลังงานลงไปยังชั้นไขมันเพื่อทำให้เซลล์ไขมันเกิดการแตกตัวและตายลงจนถูกขับออกจากร่างกาย เช่น Z Lipo + Z Wave, CoolSculpting, Thermage, Ulthera และ Hifu เป็นต้น
  • การดูดไขมัน คือการใช้เครื่องมือสอดเข้าไปยังชั้นไขมันเพื่อทำการดูดเอาไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย

หากต้องการข้อมูลแบบละเอียด สามารถอ่านต่อได้ที่บทความ 14 วิธีลดพุง สำหรับคนไม่มีเวลา แบบเร่งด่วน วิธีไหนช่วยลดหน้าท้อง ปลอดภัย ได้ผลจริง

สรุป

ปัญหาพุงของคนเรานั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุปัจจัยและสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายลักษณะขึ้นอยู่กับรูปทรงของพุง และในส่วนของวิธีลดพุงนั้นก็มีหลายวิธีด้วยกันทั้งการควบคุมการทานอาหาร การออกกำลังกาย การดูแลสภาพจิตใจไม่ให้เครียด รวมไปถึงการใช้หัตถการทางการแพทย์อย่างการฉีดเมโสแฟต การใช้เครื่องสลายไขมันหรือการดูดไขมันเป็นต้น สำหรับใครที่ต้องการอยากที่จะลดพุงหมอแนะนำให้เข้ามาปรึกษาก่อนเพื่อจะได้เลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง