ริมฝีปากดำ สาเหตุเกิดจาก? วิธีไหนช่วยทำให้ปากอมชมพู เป็นธรรมชาติ

ริมฝีปากดำ แก้อย่างไร

สาวๆคนไหนเจอปัญหาแบบนี้บ้าง “ปากดำ” ทำให้ใบหน้าดูหมอคล้ำ ทาลิปสติกไม่สวยทำให้สีเพี้ยน แถมเวลาแต่งหน้าก็ทำให้ไม่มั่นใจ ซึ่งวันนี้กังนัมคลินิกจึงไม่รอช้าที่จะพามาหาสาเหตุที่ทำให้ ริมฝีปากดำคล้ำ พร้อมแนะนำวิธีปากดำแก้ยังไงให้ได้ผล เพื่อให้ริมฝีปากของสาวๆกลับมามีสีปากที่อมชมพูอีกครั้ง ถ้าอยากรู้แล้วว่ามีวิธีอะไรบ้าง ดูจากหัวข้อด้านล่างได้เลยค่ะ

ปากดำ คืออะไร?

ปากดำ คือ การที่ริมฝีปากมีสีเข้ม หรือมีความคล้ำมากกว่าปกติทั่วไป ซึ่งมาจากที่ร่างกายเกิดการกระตุ้นให้เม็ดสี หรือเมลานิน (Melanin) ตรงบริเวณเนื้อปากถูกผลิตขึ้นมากเกินไป ซึ่งเป็นปัญหาที่มักพบได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ที่มีอายุเริ่มตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยาก

ปากดำเกิด จากสาเหตุใดได้บ้าง?

ปากดำเกิดจากอะไร

ปัญหาปากดำสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุร่วมกัน ทั้งเรื่องพฤติกรรมการใช้ชีวิต เรื่องปัญหาสุขภาพต่างๆ ได้แก่

  • การทาลิปสติก
    เนื่องจากในลิปสติกมักมีผสมของกรดซาลิไซลิค ซิลิโคน ออยล์ เมนทอล น้ำหอม ซึ่งสารเหล่านี้ในลิปสติกจะช่วยทำให้ลิปสติกติดทนทานกับเนื้อปากมากขึ้น แต่อาจส่งผลต่อเกิดอาการแพ้ ปากแห้ง แตก และระคายเคืองจนจึงเป็นสาเหตุสำคัญของริมฝีปากดำนั่นเอง
  • การสูบบุหรี่
    ในบุหรี่มีสารนิโคตินที่จะทำให้เส้นเลือดฝอยเกิดการหดตัว ส่งผลทำให้เลือดไปเลี้ยงผิวหนังตรงบริเวณริมฝีปากได้น้อยลง ดังนั้นจึงทำให้ผู้ที่สูบบุหรี่ส่วนใหญ่ต้องเจอกับริมฝีปากดำคล้ำกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ นอกจากนี้หากได้รับสารนิโคตินเป็นเวลานาน อาจทำให้สารที่ตกค้างอยู่ที่ริมฝีปาก จนทำให้ขอบปากดำอย่างเห็นได้ชัดขึ้น
  • การทานยาปฏิชีวนะ
    การทานยาปฏิชีวนะเป็นเวลานานเพื่อรักษาอาการบางอย่าง เช่น รักษาอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ ยาต้านมาลาเรีย ซึ่งยาจำพวกนี้มักส่งผลทำให้เม็ดสีเมลานินในร่างกายมีปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น จึงส่งผลให้ปากดำ ปากแห้งได้
  • การใส่หน้ากากอนามัย
    เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดการเสียดสีตรงบริเวณริมฝีปากได้แบบไม่รู้ตัว โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัยที่ไม่พอดีกับใบหน้า ซึ่งอาจทำให้หลายคนต้องเจอกับปัญหาปากแห้งลอก และริมฝีปากดำได้
  • จากกรรมพันธุ์
    เป็นลักษณะเฉพาะบุคคลแต่อาจเกิดสีที่แตกต่างกันไป เช่น สีผิว สีผม สีปาก ผู้ที่มีผิวเข้ม มักจะมีริมฝีปากที่ดำคล้ำกว่าผู้ที่มีผิวขาว เนื่องจากในร่างกายจะมีการกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานินที่มากกว่า จึงส่งผลให้เกิดริมฝีปากดำคล้ำได้ง่าย
  • สภาพอากาศ
    การอยู่ในสภาพอากาศที่เย็นจัด หรืออากาศแห้งเป็นเวลานาน ๆ ก็จะทำให้ปากดำคล้ำได้เนื่องจากเส้นเลือดมีการหดตัวและไหลเวียนไม่สะดวก จนทำให้เกิดเลือดดำคั่งค้างที่ริมฝีปาก
  • การเลียริมฝีปาก
    ในน้ำลายมีเอนไซน์ซึ่งทำหน้าที่ย่อยอาหาร ดังนั้นการเลียริมฝีปากบ่อย ๆ ก็สามารถทำให้ริมฝีปากขาดความชุ่มชื้น เกิดการระคายเคือง ปากแห้งแตกเป็นขุย และหมองคล้ำลง เนื่องจากเอนไซน์ในน้ำลายเข้าไปรบกวนเซลล์ผิวตรงบริเวณริมฝีปาก
  • การกัดหรือเม้มริมฝีปาก
    เป็นการทำร้ายริมฝีปากโดยตรง เพราะการกัดหรือการเม้มปากจะทำลายคอลลาเจนใต้ชั้นผิว จึงส่งผลทำให้ริมฝีปากเกิดริ้วรอยร่องลึก ริมฝีปากแห้งลอก ขาดความชุ่มชื้น และคล้ำลงได้ง่าย

วิธีแก้ปากดำ มีอะไรบ้าง?

ในปัจจุบันถือว่าการแก้ปากดำทำได้ง่ายกว่าสมัยก่อน มาก เพื่อที่จะทำให้ปากดำกลับมามีความอมชมพู ซึ่งมีด้วยกันหลากหลายวิธีทั้งการใช้หัตถการทางการแพทย์ วิธีจากธรรมชาติ และเทคโนโลยีด้านความงาม เช่น

1. ฉีดฟิลเลอร์ให้ปากชุ่มชื้น

ฉีดฟิลเลอร์แก้ปากคล้ำให้ชุ่มชื้น

การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นการฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยอุ้มน้ำ ถือเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่จะ เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้กลับมามีปากที่อมชมพู ดูฉ่ำวาวมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก ช่วยปรับแต่งทรงรูปทรงปาก ลดปัญหาปากแห้ง ปากดำคล้ำ ปากลอก เห็นผลทันทีหลังการฉีด และเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนขึ้นแบบเต็มที่ใน 7-14 วัน

แนะนำอ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทำปากอวบอิ่ม ปากกระจับ เหมาะกับใคร ใช้กี่cc อยู่ได้นานไหม

2. เลเซอร์ปากดำ

การทำเลเซอร์ปาก เป็นการช่วยกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิว แอีกทั้งยังช่วยกำจัดเม็ดสีเมลานินที่มีความผิดปกติใต้ผิว หลังการทำเลเซอร์จึงทำให้ริมฝีปากมีสีชมพูแบบธรรมชาติ ซึ่งเลเซอร์ที่นิยมใช้ในการแก้ปากดำ คือ Picosecond Laser ที่มีพลังลงและช่วยให้เม็ดสีแตกกระจายแบบละเอียดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแลก และแนะนำให้ทำต่อเนื่อง 5 ครั้งขึ้นไป เพื่อการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

แนะนำอ่านเพิ่มเติม : เลเซอร์ปากชมพู ดีไหม? ข้อดี ข้อเสีย อยู่ได้นานถาวรหรือไม่?

3. สักปากชมพู

การสักปากเป็นวิธีที่สามารถเปลี่ยนจากสีปากดำ ปากคล้ำ ให้เป็นปากสีชมพูได้ทันที โดยการใช้เข็มสักผลักสีฝังเม็ดสีลงบนริมฝีปากตรงบริเวณผิวหนังชั้นนอกหรือชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) แต่ในระหว่างทำอาจให้ความรู้สึกที่เจ็บเพราะเข็มสักที่ใช้จะลงลึกไปในชั้นผิว หลังทำปากจึงมีอาการบวมช้ำ ซึ่งอาจจะจะต้องรอให้แผลจากการสักหรือการฝังสีปากหายดีก่อนประมาณ 2-4 สัปดาห์ จึงจะเริ่มเห็นสีที่ชัดเจน แต่ในผู้ที่มีปากดำมากๆอาจจะต้องซักทับ 2-3 ครั้งจึงจะเห็นสีที่ชัดเจน

4. พอกสมุนไพร

การพอกสมุนไพรเพื่อช่วยแก้ปากดำ จะเป็นการเลือกใช้สมุนไพรที่อุดมไปด้วยวิตามิน และสารสกัดที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิว เช่น การใช้แตงกวาในการรักษาปากดำ เนื่องจากน้ำที่มีเอนไซม์อีเลพซิน (Erepsin) เพื่อช่วยย่อยเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออกได้เองเป็นการช่วยผลัดเซลล์ผิวใหม่ให้ขึ้นมาทดแทน และแตงกวายังมีสารสกัดที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากได้

นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรที่มีฤทธิ์เป็นกรดที่สามารถช่วยขจัดเซลล์ได้เช่นกัน อย่างน้ำมะนาวก็สามารถช่วยแก้ปากดำได้โดยการนำน้ำมะนาวมานวดตรงบริเวณริมฝีปากเบา ๆ เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตาย และช่วยให้สีผิวที่หมองคล้ำดูจางลงแต่อาจจะต้องใช้ระยะเวลา 1-2 เดือนจึงจะเริ่มเห็นผล

5. สครับปาก

การสครับปากหรือริมฝีปาก เป็นอีกวิธีที่จะช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่าออก จึงเป็นการช่วยลดความหมองคล้ำ และช่วยให้ผิวปากเนียนนุ่ม ดูชุ่มชื้น และเพื่อลดโอกาสการเกิดปากแห้ง ปากแตก เนื่องด้วยส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวเกิดความชุ่มชื้น เช่น เชียบัทเทอร์, โจโจบา ออยล์ ,เกล็ดน้ำตาล , เม็ดบีดส์ ควรสครับริมฝีปากสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งเท่านั้น ไม่ควรสครับบ่อยจนเกินไป เพราะอาจทำให้ริมฝีปากเกิดการอักเสบและระคายเคืองผิวได้

6. ทาครีมแก้ปากดำ

ในครีมแก้ผิวปากดำมักมีผสมส่วนหลัก ๆ ที่เน้นในการเพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยซ่อมแซม ฟื้นฟูผิวริมฝีปากที่เสื่อมสภาพให้กลับมาแข็งแรง เหมือนเป็นการผลัดเซลล์ผิวเก่าออกและช่วยปากที่แห้งแตกเป็นขุย ที่มักจะอุดมไปด้วยวิตามินE และวิตามิน C แต่อาจจะไม่ได้เห็นผลที่รวดเร็วใน 7-14 วัน ต้องหมั่นบำรุงเป็นประจำทำวันเช้าเย็นไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เห็นผลที่ดี

7. นวดริมฝีปากด้วยน้ำมัน

หากใครที่ต้องการมีริมฝีปากที่เนียนนุ่ม คุณต้องลองใช้น้ำมันมะพร้าวทาตรงบริเวณริมฝีปาก นวดเบา ๆ ก่อนนอนเป็นประจำทุกคืน วิธีนี้สามารถทำให้คุณตื่นขึ้นมาพร้อมกับริมฝีปากที่เนียนนุ่มน่าสัมผัส เป็นการลดปัญหา ปากแห้ง ปากแตก และปากหมองคล้ำได้

8. ทานวิตามิน E แก้ปากคล้ำ

การทานวิตามิน E ก็สามารถช่วยลดอาการปากคล้ำได้ เป็นการปรับสภาพริมฝีปากให้ดูมีสุขภาพแข็งแรงดี ซึ่งกลุ่มวิตามินอียังมีอยู่ในอาหารเช่น ไข่ พืช ผัก ผลไม้ ถั่ว และส่วนวิตามิน B ก็ยังสามารถช่วยแก้ปัญหา ปากแห้ง ปากลอกได้ ซึ่งวิตามินบียังมีอยู่ในอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ ไข่ไก่ นม และ ธัญพืชต่าง ๆ แต่ถ้าหากต้องการรับประทานวิตามินเพื่อช่วยแก้ปากดำแบบวิตามินเสริม ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน ไม่ควรซื้อมารับประทานเอง เพราะการรับวิตามินมากเกินไปอาจทำให้เกิดโทษต่อร่างกายได้

9. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดื่มน้ำให้มากๆ ให้เพียงพอในแต่ละวันก็จะช่วยสารพิษออกจากร่างกาย และยังช่วยให้ร่างกายดูชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปรับกระจ่างใสขึ้น รวมไปจนถึงลดการแห้ง แตกลองของริมฝีปาก และช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้นดูอมชมพูขึ้น

10. มาสก์ปาก

การมาสก์ปากให้ได้สีอมชมพู โดยนำแผ่นมาสก์มาวางไว้บนริมฝีปากให้ได้พอดีปาก ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที นำออกเช็ดทำความสะอาดปากให้เรียบร้อย เป็นการช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากที่ดูแห้ง ดูคล้ำ ควรเลือกมาสก์ที่มีส่วนผสมของบาล์ม วิตามินซี และหลีกเลี่ยงมาสก์ปากที่มีส่วนผสมของ Petrolatum แต่หากใช้แล้วเกิดการระคายเคืองให้หยุดใช้ทันที

11. ทาลิปมันแก้ปากดำ

ทาลิปมันแก้ปากคล้ำ

การทาลิปมันเพื่อช่วยแก้ปากดำ ควรเป็นลิปที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ อุดมไปด้วยสารสกัดของบาล์ม ว่านหางจระเข้ วิตามินอี เปลือกของเมล็ดข้าวสาลี หรือสารสกัดที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เพื่อช่วยให้สีของผิวตรงบริเวณริมฝีปากดีขึ้น เป็นการช่วยลดความคล้ำของริมฝีปาก และป้องกันปัญหาปากดำคล้ำที่เกิดจากแสงแดดได้ นอกจากนี้เนื้อลิปที่มีส่วนผสมสีอ่อน ๆ ก็จะทำให้ริมฝีปากของสาวๆดีมีสุขภาพดีขึ้นอีกด้วย

12. ใช้แปรงสีฟันขัดปาก

การใช้แปรงสีฟันขัดปาก ถือเป็นวิธีนี้ง่ายๆ ที่หลายๆคนอาจจะคิดไม่ถึงกัน โดยใช้แปรงสีฟันค่อยๆ ขัด ถู เบาๆ ตรงบริเวณริมฝีปากทั้งบนและล่างเป็นประจำก็จะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่า พร้อมช่วยเร่งการเผยผิวใหม่ ช่วยลดปัญหาปากดำและทำให้ปากดูอมชมพูมากขึ้น

การดูแลปากให้อมชมพูเสมอ

การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันปัญหาปากดำ?

การป้องกันตนเองเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาริมฝีปากดำสามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้

  1. หลีกเลี่ยงการเลียริมฝีปาก เพราะเอนไซม์ในน้ำลายจะทำให้ริมฝีปากดำและแห้งลอก
  2. ควรทาลิปมัน ลิปบาล์มเพื่อให้ ริมฝีปากมีความชุ่มชื้นตลอดเวลา ป้องกันปากแตก ปากลอก และช่วยป้องกันแสงแดดที่ทำร้ายริมฝีปาก
  3. ควรสครับริมฝีปาก อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่า เพื่อเผยผิวใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
  4. ควรใช้แปรงสีฟันช่วยขัดริมฝีปากทุกครั้งหลังแปรงฟัน เพื่อช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก
  5. ควรดื่มน้ำเยอะ ๆ วันละ 8-10 แก้ว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ป้องกันปัญหาผิวแห้งลอก และช่วยลดริ้วรอยรอบริมฝีปาก
  6. ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดที่ร้อนจัด เพราะแสงแดดเป็นอีกหนึ่งตัวการที่จะทำให้ปากดำ

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ปาก แก้ปัญหาปากดำ

สรุปเลือกวิธีแก้ปากดำด้วยวิธีไหนดี?

จริงอยู่ที่การแก้ปากดำสามารถทำได้หลายวิธี แต่สำหรับคนไหนที่ต้องการแก้ปากดำที่เห็นผลรวดเร็ว เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก พร้อมช่วยป้องกันการเกิดปัญหาปากดำในอนาคต ด้วยการทำเลเซอร์ปาก และการฉีดฟิลเลอร์ปาก ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ปากหายดำแล้ว ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และปรับรูปทรงริมฝีปากให้สวยงามมากขึ้นได้อีกด้วย

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง