Volifil filler ดีไหม? ผลิตจากประเทศอะไร? ใช้ฉีดจุดไหนได้บ้าง?

volifil filler

ยกให้เป็นอีกหนึ่งในหัตถการยอดนิยมอย่างมากกับการฉีดฟิลเลอร์เกาหลี จนทำให้ปัจจุบันได้มียี่ห้อฟิลเลอร์ยี่ห้อใหม่ออกมาเรื่อย ๆ และหนึ่งในนั้นก็คือ “volifil filler” ซึ่งจะมีจุดเด่นในเรื่องอะไรบ้าง และฟิลเลอร์ volifil มีกี่รุ่นแต่ละรุ่นเหมาะกับตำแหน่งใด ในบทความนี้เราได้มีการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาไว้ให้แล้ว

ทำความรู้จัก! Volifil filler

Volifil filler คือฟิลเลอร์กลุ่มสารเติมเต็มผลิตจากประเทศเกาหลีใต้ โดยจัดเป็นฟิลเลอร์แบบ Monophasic หรือฟิลเลอร์ที่เป็นสารเนื้อเดียว (Crosslinked HA) ที่มีโครงสร้างเนื้อฟิลเลอร์เป็นเนื้อเดียวกัน ทำให้ฉีดง่าย สามารถเกลี่ยเนื้อฟิลเลอร์ให้มีความเรียบเนียนได้ง่าย และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

ซึ่งฟิลเลอร์ Volifil นั้นเป็นยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ผลิตโดยบริษัท BNC KOREA (https://www.volifil.com/) บริษัทผู้ผลิตเดียวกับ Flore filler และ โบท็อกซ์ Bienox และในปัจจุบันได้มีการนำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการโดยบริษัทบอน–ซอง จำกัด

จุดเด่น Volifil filler มีอะไรบ้าง

จุดเด่น ฟิลเลอร์ volifil

ในส่วนของจุดเด่นของVolifil filler นั้นหลัก ๆ จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 ข้อเด่น ๆ ดังนี้

  1. ใช้ HCCLTM Technology ในการผลิต
    ตัว HCCLTM (Highly Completed Cross-Linking) technology นั้นถือเป็นเทคโนโลยีลิขสิทธิ์ของบริษัท BNC ที่จะช่วยทำให้ได้ฟิลเลอร์ที่เป็น Cross linked ที่มีโมเลกุลที่จับตัวกัน ทำให้เนื้อฟิลเลอร์ฉีดง่าย เกาะตัวได้ดี ยึดเกาะผิวได้ดี ให้ผลลัพธ์ที่สวยอย่างเป็นธรรมชาติแบบยาวนาน และยังเทคโนโลยีนี้ยังทำให้ตัวเนื้อฟิลเลอร์มีสาร BDDE ที่น้อยมาก ๆ จึงช่วยลดอาการอักเสบ อาการแพ้ระคายเคืองผิวหลังทำได้เป็นอย่างดี
    *สาร BDDE (Butanediol diglycidyl ether) เป็นสารจำเป็นที่จะช่วยทำให้โมเลกุลของเนื้อฟิลเลอร์เป็นเนื้อเดียว แต่สารตัวนี้ก็มีผลด้านลบคือเป็นต้นเหตุของการกระตุ้นอาการแพ้ อาการอักเสบของผิวหลังทำอีกด้วย
  2. ใช้ PP Process Technology ในการผลิต
    เทคโนโลยี Particle Plastic Process (PP Process) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เด่นในเรื่องของการช่วยทำให้ขนาดโมเลกุลของเนื้อฟิลเลอร์มีขนาดที่เท่ากันอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ตอนที่หมอฉีดจะสามารถฉีดดันตัวยาและปั้นทรงได้ง่าย และช่วยลดอาการเจ็บในระหว่างฉีดได้เป็นอย่างดี
  3. ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจาก FDA DMF และ EDQM
    ตัวฟิลเลอร์ Volifil นั้นได้ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากทั้ง FDA DMF (Drug Master Files for Active Pharmaceutical Ingredient) และ EQDM (European Directorate for. the Quality of Medicines. and HealthCare) เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าตัวสารไฮยาลูรอนิค เอซิดในตัวฟิลเลอร์นั้นมีความบริสุทธิ์ มีความปลอดภัยสูง และไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายของมนุษย์
  4. ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจาก CE mark, ISO 13485
    และฟิลเลอร์ Volifil เองก็ได้ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยในสหภาพยุโรป CE (Conformite Europeene) ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความยากในการตรวจสอบ จึงทำให้ได้รับการอนุญาตให้สามารถจัดจำหน่ายฟิลเลอร์ Volifil ได้ใน 30 ประเทศในเขตเศรษฐกิจของทวีปยุโรปอีกด้วย

ฟิลเลอร์ Volifil มีทั้งหมดกี่รุ่น? รุ่นอะไรบ้าง?

ในส่วนของรุ่นของฟิลเลอร์ Volifil นั้นในปัจจุบันจะมีอยู่ทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน โดยแต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างกันหลัก ๆ ในเรื่องของเนื้อฟิลเลอร์ ดังนี้

1. ฟิลเลอร์ Volifil รุ่น Classic

ฟิลเลอร์ Volifil รุ่น Classic

รุ่นนี้จะมีกล่องสีทอง มาพร้อมกับเนื้อฟิลเลอร์ที่มีลักษณะเป็นเนื้อนิ่ม เนื้อละเอียด เหมาะกับการแก้ปัญหาผิวในชั้นตื้น ฉีดแก้ริ้วรอยเล็ก ๆ หรือฉีดเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
ตำแหน่งที่เหมาะในการฉีด : ใต้ตา หน้าผาก ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ฉีดปากเป็นต้น
ระยะเวลาการเห็นผล : อยู่ได้นาน 8-12 เดือน

2. ฟิลเลอร์ Volifil รุ่น Deep

ฟิลเลอร์ Volifil รุ่น Deep

รุ่นนี้จะมีกล่องสีชมพู ตัวเนื้อฟิลเลอร์จะมีเนื้อที่แข็งขึ้นมาในระดับปานกลาง แต่เนื้อยังมีความยืดหยุ่น และเกลี่ยได้ง่าย จึงเหมาะมากกับการฉีดแก้ปัญหาผิวในบริเวณชั้นไขมัน หรือผิวชั้นลึกสำหรับคนที่มีผิวที่บาง
ตำแหน่งที่เหมาะในการฉีด : ใต้ตาชั้นลึก ริมฝีปาก ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก เป็นต้น
ระยะเวลาการเห็นผล : อยู่ได้นาน 12-14 เดือน

3. ฟิลเลอร์ Volifil รุ่น Sub-Q

ฟิลเลอร์ Volifil รุ่น Sub-Q

รุ่นนี้จะมีกล่องสีเทา ตัวเนื้อฟิลเลอร์จะมีลักษณะที่เป็นเนื้อแข็งที่สุดในบรรดาของทุกรุ่น เหมาะกับการฉีดเพื่อปั้นทรง และฉีดในผิวชั้นลึก เนื่องจากจะเด่นในเรื่องของการช่วยพยุงผิวได้เป็นอย่างดี และช่วยแก้ริ้วรอย ร่องลึก เติมเต็มผิวเช่น แก้ขมับตอบ ได้เป็นอย่างดี
ตำแหน่งที่เหมาะในการฉีด : ขมับ คาง บริเวณหน้าแก้ม กรอบหน้า หน้าผาก ริมฝีปากเป็นต้น
ระยะเวลาการเห็นผล : อยู่ได้นาน 12-15 เดือน

อันตรายหรือไม่

ตัวฟิลเลอร์ Volifil นั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากเป็นสารไฮยาลูรอนิค เอซิดที่มีความบริสุทธิ์สูง ใกล้เคียงกับสาร HA ในร่างกายมนุษย์และสามารถสลายได้ในร่างกายมนุษย์โดยไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย นอกจากนั้นตัวฟิลเลอร์ยังมีการผ่ารมาตรฐานความปลอดภัยจากหลาย ๆ แห่ง รวมไปถึงอย.ไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แต่ทั้งนี้ก่อนฉีดก็ควรมีการตรวจสอบฟิลเลอร์ก่อนว่าใช่ฟิลเลอร์ของแท้หรือไม่ และจะต้องฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ที่สูงเท่านั้น เนื่องจากว่าการฉีดฟิลเลอร์ในบางตำแหน่งจะต้องใช้ความเชี่ยวชาญที่สูงเพราะเป็นจุดศูนย์รวมของเส้นเลือดและเส้นประสาทส่วนสำคัญของร่างกาย

ผลข้างเคียงหลังทำ

ผลข้างเคียงหลังฉีด

ในส่วนของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นนั้นก็ถือว่าการฉีดฟิลเลอร์ Volifil นั้นอาจเกิดผลข้างเคียงขึ้นได้ในคนไข้บางราย ซึ่งผลข้างเคียงหลังฉีดนั้นจะแบ่งออกได้เป็น 2 แบบหลัก ๆ ได้แก่

  • ผลข้างเคียงแบบปกติไม่อันตราย : เช่น อาการบวม มีรอยแดง รอยช้ำจากรอยเข็ม หรือมีอาการปวดตึงผิวในจุดที่ฉีด ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 1-3 วัน
  • ผลข้างเคียงที่มีความอันตราย : เช่น เกิดอาการอักเสบ มีหนอง หรือการผิวที่ผิดรูป ซึ่งปัญหานี้มักเกิดมาจากความไม่เชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ฉีดที่อาจฉีดในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม หรือฉีดด้วยฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากเกินไป หรืออาจเกิดจากการแพ้ฟิลเลอร์ก็ได้เช่นกัน

วิธีเช็คฟิลเลอร์ Volifil ของแท้ ต้องดูอะไรบ้าง

วิธีเช็ดvolifil fillerของแท้-ของปลอม

อีกหนึ่งข้อสำคัญสำหรับการฉีดฟิลเลอร์เลยนั้นก็คือการตรวจสอบฟิลเลอร์ที่จะใช้ฉีดว่าเป็นของแท้ที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยหรือไม่ ซึ่งสำหรับฟิลเลอร์ Volifil นั้นจะมีวิธีการตรวจสอบดังนี้

  • ตัวกล่องจะต้องมีการปิดสนิทไม่มีร่องรอยของการแกะหรือเปิดมาก่อน
  • ภายในกล่องจะต้องมีเอกสารกำกับภาษาไทยติดอยู่ รวมไปถึงมีการระบุตัวเลขอย.
  • มีตัว QR Code ที่สามารถสแกนไปยังหน้าเว็บไซต์ของบริษัทผู้ผลิตหรือบริษัทผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการได้
  • จะต้องมีการระบุเลข Lot ที่ผลิตอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ตำแหน่งคือ ที่กล่องฟิลเลอร์ สติ๊กเกอร์และตัวหลอดฟิลเลอร์ และทั้ง 3 จุดจะต้องเป็นตัวเลขชุดเดียวกัน

ราคาซีซีละเท่าไหร่

สำหรับราคาในการฉีด Volifil filler นั้นโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 8,000-9,000 บาทต่อซีซี ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ใช้ฉีดรวมไปถึงราคาโปรโมชั่นของแต่ละคลินิกที่เข้ารับบริการ

แต่ทั้งนี้ก็ไม่แนะนำให้เลือกฉีดกับคลินิกที่มีราคาที่ถูกมากจนผิดปกติ เนื่องจากในปัจจุบันได้มีฟิลเลอร์ของปลมอแพร่ระบาดค่อนข้างหนักรวมไปถึงกลุ่มฟิลเลอร์หิ้วที่มีการหิ้วเข้ามาจากต่างประเทศอย่างผิดกฎหมายอีกด้วย ซึ่งฟิลเลอร์กลุ่มนี้ในประเทศไทยจะถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย

สรุป

ฟิลเลอร์ Volifil จัดเป็นฟิลเลอร์อีกหนึ่งยี่ห้อจากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีจุดเด่นหลัก ๆ ในเรื่องของเทคโนโลยีการผลิตที่ใช้ลิขสิทธิ์ของทางบริษัทในการผลิตขึ้นทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่มีความละเอียด มีโมเลกุลที่เท่ากัน ฉีดง่าย เกลี่ยง่ายลดโอกาสเป็นก้อนได้สูง และในปัจจุบันมีทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกันคือ รุ่น Classic, รุ่น Deep และรุ่น Sub-Q ที่จะแตกต่างกันในเรื่องของลักษณะของเนื้อที่มีความอ่อนนิ่มไม่เท่ากัน ทำให้เหมาะใช้สำหรับฉีดในตำแหน่งต่าง ๆ ตามความเหมาะสม หากอยากอา หากยังลงเลว่าจะเลือกแบรนด์ ไหนดี เราแนะให้ดูรีวิวเพิ่มเติมได้ในบทความนี้ค่ะ : ฟิลเลอร์เกาหลีตัวไหนดี

ดังนั้นหากท่านใดมีความประสงค์ที่อยากจะติดต่อสอบถามข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) หรือต้องการติดต่อเพื่อสำรองคิวในการเข้ารับบริการ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่กังนัมคลินิกทุกสาขาหรือทาง Line : @gangnamclinic

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง