ฟิลเลอร์ยกหน้าคืออะไร เห็นผลได้จริงไหม เหมาะกับใครบ้าง?

หากจะให้พูดถึงวิธีการช่วยปรับยกหน้า ยกกระชับผิวก็ต้องบอกเลยว่ามีอยู่มากมายหลายวิธีในปัจจุบันแต่อีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากนั้นก็คือ การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า ดังนั้นในบทความนี้เราเลยจะมาไขข้อสงสัยกันว่าฟิลเลอร์ยกหน้าคืออะไร ดีอย่างไรและเหมาะกับใครบ้าง

ฟิลเลอร์ยกหน้าคืออะไร

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับนั้นเกิดขึ้นมาจากการฝ่อและสลายตัวของกลุ่มไขมัน คอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิวจนทำให้ชั้นผิวเกิดเป็นช่องว่างผิวชั้นนอกจึงยุบตัวลงไปตามแรงโน้มถ่วงของโลกกลายเป็นปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ รวมไปถึงพวกริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ

ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าก็คือการฉีดสารเติมเต็มที่มีชื่อว่า Hyaluronic acid (HA) ที่จะเข้าไปทำหน้าที่ทดแทนไขมัน คอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวที่เกิดการฝ่อตัวลง ทำให้ผิวจุดที่มีปัญหาเกิดความตึงกระชับขึ้น ซึ่งจุดเด่นของการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าคือตัวฟิลเลอร์นั้นสกัดมาจากธรรมชาติ โดยจะมีความบริสุทธิ์สูงและใกล้เคียงกับสาร HA เดิมในร่างกายมนุษย์จึงทำให้มีความปลอดภัยและช่วยลดโอกาสการแพ้ระคายเคืองหลังฉีดนั่นเอง

“เกร็ดความรู้เพิ่มเติม”
สาเหตุที่ทำให้ไขมัน คอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิวเสื่อมโทรมและสลายไปนั้นก็เกิดขึ้นจากหลายปัจจัยแต่ที่พบหลัก ๆ คือการที่อายุเพิ่มมากขึ้น โดยเมื่อร่างกายเริ่มเข้าสู่วัย 25 ปีขึ้นไปร่างกายก็จะมีการผลิตคอลลาเจน อีลาสตินออกมาได้น้อยลงเรื่อย ๆ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ที่มีอายุมากจึงมักพบปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวมีริ้วรอยได้มากนั่นเอง

ฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าต่างกับฉีดฟิลเลอร์ปกติอย่างไร

ในความจริงแล้วการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้ากับการฉีดฟิลเลอร์แบบปกตินั้นก็คือหัตถการเดียวกัน แต่จะมีความแตกต่างกันตรงที่เทคนิคในการฉีด โดยการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้านั้นจะมีการใช้เทคนิคพิเศษในการปั้นเนื้อฟิลเลอร์เพื่อให้ช่วยยกปรับผิวให้มีความกระชับและเต่งตึงมากยิ่งขึ้น จึงทำให้การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้านั้นจะต้องทำกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ที่สูงเท่านั้นจึงจะเห็นผลลัพธ์การยกผิวที่ชัดเจน

เปิดเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า

การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้านั้นโดยหลัก ๆ แล้วจะใช้เทคนิคการฉีดเพื่ออำพรางจุดที่มีปัญหาผิว เช่น การฉีดร่องแก้มควบคู่กับการฉีดเติมส่วนใต้ตา ซึ่งเมื่อปัญหาร่องลึกใน 2 จุดนี้หายไปก็จะทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และกระชับขึ้น หรือการฉีดในตำแหน่งขมับที่จะเป็นการช่วยยกผิวส่วนข้างแก้มให้ดูเต่งตึงขึ้นนั่นเอง

แต่ทั้งนี้การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้านั้นหมอจะต้องทำการประเมินปัญหาและรูปหน้าของคนไข้แต่ละคนก่อนว่ามีจุดที่ผิวหย่อนคล้อยอยู่ที่จุดไหน และหมอควรจะฉีดฟิลเลอร์เติมเข้าไปในจุดไหนเพื่อช่วยปรับผิวให้มีความเต่งตึงขึ้น ซึ่งคนไข้แต่ละคนก็อาจจะต้องใช้วิธีและเทคนิคการรักษาที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล

ฟิลเลอร์ยกหน้าฉีดจุดไหนได้บ้าง

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้านั้นหลัก ๆ จะต้องขึ้นอยู่กับการประเมินของหมอแต่ละคนเลยว่าจะฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งไหนบ้างเพื่อปรับยกผิวขึ้น ซึ่งตำแหน่งหลัก ๆ ที่พบได้บ่อยก็จะเป็นดังนี้

• ใต้ตา : หากมีปัญใต้ที่หย่อนคล้อย มีเบ้าตาลึกก็จะทำให้ใบหน้าดูแก่และโทรมอย่างมาก ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้เต็มก็จะช่วยทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นและยังช่วยยกผิวส่วนแก้มขึ้นเล็กน้อย

• แก้ม : ปัญหาแก้มตอบ หรือการมีร่องแก้มลึกก็เป็นอีกจุดที่พบได้บ่อย ซึ่งการเติมฟิลเลอร์แก้มก็จะช่วยเติมผิวให้ดูเต็มขึ้น

• โหนกแก้ม : เมื่ออายุมากขึ้นโหนกแก้มก็จะหย่อนคล้อยและตกลงได้ง่ายขึ้น จึงควรฉีดเติมส่วนโหนกแก้มให้เต็มนั้นจะช่วยพยุงผิวส่วนแก้มและกรอบหน้าให้ยกขึ้นเล็กน้อย

• มุมปาก : คนที่มีปัญหามุมปากตกมักจะเกิดร่วมกับอาการผิวส่วนคางหย่อนคล้อย ดังนั้นจึงควรฉีดฟิลเลอร์ส่วนมุมปากเพื่อพยุงผิวให้ยกขึ้นทำให้หน้าดูอ่อนเยาว์ ดูเป็นมิตรมากขึ้นและยังช่วยยกผิวส่วนคางให้ตึงขึ้นอีกด้วย

• ข้างคาง : ผิวส่วนนี้มีการยุบตัวลงเป็นแอ่งเล็ก ๆ ซึ่งการเติมเนื้อฟิลเลอร์เข้าไปจะทำให้ผิวเต็มขึ้น

• ขมับ : เป็นอีกจุดที่มักมีการยุบตัวของผิวทำให้เกิดอาการขมับตอบ ซึ่งการเติมฟิลเลอร์ส่วนขมับนั้นจะทำให้ใบหน้าดูอิ่มเอิบขึ้นและยังช่วยยกผิวบริเวณโหนกแก้มให้ตึงขึ้นอีกด้วย

• ด้านหน้าข้างใบหู : การฉีดฟิลเลอร์ในจุดนี้จะช่วยยกผิวส่วนกรอบหน้าให้เต่งตึงขึ้น

ฟิลเลอร์ยกหน้าเหมาะกับใครบ้าง

• ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ

• ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึกตามจุดต่าง ๆ เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา ร่องน้ำหมากเป็นต้น

• ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวแต่ไม่อยากใช้วิธีการผ่าตัดศัลยกรรม

• ผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้นร่างกายหลังทำ

ฟิลเลอร์ยกหน้าต้องใช้กี่ CC

ในเรื่องของปริมาณการใช้เนื้อฟิลเลอร์สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้านั้นจะขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละคน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วอาจจะต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์อยู่ที่ประมาณ 2-5 CC ต่อครั้ง ซึ่งหมอจะเป็นผู้ทำการประเมินปริมาณฟิลเลอร์ให้เป็นเคสบายเคส

ฟิลเลอร์ยกหน้ากี่วันถึงจะเห็นผล

การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้านั้นคนไข้สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ แต่หลังจากฉีดไปสักพักอาจเกิดอาการบวมเกิดขึ้นซึ่งถือเป็นอาการปกติที่จะค่อย ๆ ยุบหายไปเอง ทำให้คนไข้สามารถเห็นผลลัพธ์แบบสมบูรณ์ได้หลังจากที่เนื้อฟิลเลอร์เข้าที่แล้วประมาณ 2 สัปดาห์หลังฉีด

ฟิลเลอร์ยกหน้าเลือกยี่ห้อไหนดี

สำหรับใครที่สนใจอยากจะฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าแต่ยังไม่รู้ว่าควรจะเลือกฉีดยี่ห้อไหนดี เราเลยขอแนะนำทั้งหมด 4 ยี่ห้อดังจากทางกังนัมคลินิก ดังนี้

ฟิลเลอร์ Juvederm (USA)

เป็นฟิลเลอร์ยี่ห้อแรกของโลกที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานหลายปี มีจุดเด่นในเรื่องของเนื้อฟิลเลอร์ที่มีความบริสุทธิ์ ยืดหยุ่นและคงตัวสูงด้วยการผลิตมาจาก 2 เทคโนโลยีอย่าง Hylacross และ Vycross ซึ่งในปัจจุบันมีทั้งหมดหลายรุ่น เช่น Juvederm Ultraplus, Juvederm Voluma, Juvederm Volift, Juvederm Volbella, Juvederm Volite และ Juvederm Volux

ฟิลเลอร์ Restylane (Sweden)

อีกหนึ่งยี่ห้อที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ด้วยคุณสมบัติเนื้อฟิลเลอร์ที่ยืดหยุ่น คงทน ฉีดแล้วให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งก็มีหลายรุ่นให้เลือกเช่นกัน Restylane Perlane Lyft, Restylane Vital Light, Restylane Defyne, Restylane Volyme, Restylane Vital, Restylane Refyne, Restylane Classic และ Restylane Kysse

ฟิลเลอร์ Belotero (Switzerland)

ยี่ห้อนี้ได้มีการผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยี CPM ที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์สามารถยึดเกาะผิวได้ดี มีความยืดหยุ่น คงรูป ช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาฟิลเลอร์ไหลเป็นก้อนได้ดีมาก ๆ ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลายรุ่นเช่นกัน Belotero Intense, Belotero volume, Belotero Soft, Belotero Balance, Belotero Lips และยังมีอีกรุ่นพิเศษที่ได้ชื่อว่าเป็นฟิลเลอร์งานผิวอย่าง Belotero Revive ที่ช่วยเรื่องการฟื้นความอ่อนเยาว์ของผิว

ฟิลเลอร์ Neuramis (Korea)

เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่โด่งดังมาก ๆ ในไทยเราเพราะเป็นยี่ห้อจากประเทศเกาหลีมีจุดเด่นคือราคาที่ถูกกว่าแต่ได้ผลลัพธ์ที่สวยเป็นธรรมชาติไม่แพ้ยี่ห้ออื่น ๆ ซึ่งปัจจุบันในไทยมี 2 รุ่นหลัก ๆ ก็คือรุ่นกล่องสีดำและกล่องสีทอง แต่ก็แน่นอนว่าฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้จะเห็นผลได้สั้นกว่ายี่ห้ออื่น ๆ นั่นเอง

ซึ่งการเลือกยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ในการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าก็ต้องให้หมอผู้ฉีดเป็นผู้ประเมินให้ เนื่องจากว่าแต่ละจุดก็จะมีการใช้ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อเหลวหรือเนื้อแข็งที่แตกต่างกันออกไปอย่างเช่น บริเวณใต้ตาก็ควรใช้ฟิลเลอร์เนื้อเหลว แต่ถ้าบริเวณขมับก็ควรใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็งหรือหนืดขึ้นเพื่อให้ผลลัพธ์การยกหน้าเป็นไปตามแผนการรักษา

ฟิลเลอร์ยกหน้าราคากี่บาท

ราคาค่าใช้จ่ายในการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้านั้นก็ต้องบอกเลยว่าราคาจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกฉีด ซึ่งราคาของแต่ละคลินิกก็จะไม่เท่ากัน แต่ที่กังนัมคลินิกเรามีราคาโปรโมชั่นเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ดังนี้

• ฟิลเลอร์ Juvederm (USA) เริ่มต้น 1cc 10,693 บาท

• ฟิลเลอร์ Restylane (Sweden) เริ่มต้น 1cc 8,623 บาท

• ฟิลเลอร์ Belotero (Switzerland) เริ่มต้น 1cc 7,896 บาท

• ฟิลเลอร์ Neuramis (Korea) เริ่มต้น 1cc 5,966 บาท

ฟิลเลอร์ยกหน้า ต่างกับร้อยไหม การใช้เครื่องยกกระชับผิว ฉีดโบท็อกซ์ยังไง

แน่นอนว่าการยกปรับกระชับหน้าให้เต่งตึงขึ้นนั้นไม่ได้มีแค่การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าอย่างเดียว แต่ยังมีอีกหลาย ๆ วิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

ฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า	การร้อยไหม
คือการฉีดสารไฮยาลูรอนิค เอซิดเข้าไปเติมเต็มชั้นผิวให้เต็มขึ้นด้วยเทคนิคการฉีดที่ปรับอำพรางผิวทำให้จุดที่หย่อนคล้อยมีความยกกระชับมากขึ้น การเห็นผล : เห็นผลทันที ระยะเวลาการเห็นผล : 6-18 เดือน	การยกกระชับผิวด้วยวิธีการใช้เส้นไหมละลายเกรดคุณภาพทางการแพทย์เพื่อสอดเข้าไปใต้ชั้นผิวแล้วทำการดึงยกกระชับผิวให้ตึงขึ้น นอกจากนั้นตัวเส้นไหมยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวให้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย การเห็นผล : เห็นผลทันทีหลังทำ ระยะเวลาการเห็นผล : 6-24 เดือน
การใช้เครื่องยกกระชับผิว	ฉีดโบท็อกซ์
คือนวัตกรรมการใช้เครื่องที่สามารถปล่อยพลังงานลงสู่ชั้นผิว เพื่อไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินให้เพิ่มมากขึ้นทำให้ผิวมีความกระชับขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมี 2 คลื่นพลังงานหลัก ๆ คือ –          คลื่นอัลตร้าซาวด์ สามารถพบได้ในเครื่อง Hifu, Ulthera, Ultraformer III เป็นต้น –          คลื่นวิทยุ (RF) คลื่นนี้มีอีกหนึ่งจุดเด่นคือช่วยสลายไขมันส่วนเกินในชั้นผิวได้ สามารถพบได้ในเครื่อง Thermage การเห็นผล : เริ่มเห็นผลหลังทำประมาณ 2-4 เป็นต้นไป ระยะเวลาการเห็นผล : 6-12 เดือน	คือการฉีดสารประเภทโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin Type A) เข้าไปในกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ เพื่อให้ตัวยาไปทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหดตัวลงส่งผลทำให้กรอบหน้าเรียวขึ้น ริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ ก็จางลง ทำให้ผิวมีความดูยกกระชับมากยิ่งขึ้น การเห็นผล : เริ่มเห็นผลหลังฉีดประมาณ 2 สัปดาห์เป็นต้นไป ระยะเวลาการเห็นผล : 6-12 เดือน

ซึ่งทั้ง 4 หัตถการนี้สามารถทำร่วมกันได้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ควรปรึกษาหมอก่อนตัดสินใจทำทุกครั้ง เนื่องจากแต่ละหัตถการก็อาจจะมีการเว้นระยะเวลาการพักหน้าเพื่อที่จะได้ทำหัตถการต่อไปได้

ฟิลเลอร์ยกหน้าที่ไหนดี

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญในการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้านั้นก็คือการเลือกสถานที่ฉีด โดยควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยของตัวคนไข้และการเห็นผลลัพธ์ที่ดีหลังทำ

• คลินิกจะต้องเปิดให้บริการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีใบอนุญาตการเปิดสถานพยาบาลโดยมีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักที่สามารถนำไปตรวจสอบกับทางสาธารณสุขได้

• คลินิกจะต้องมีหมอประจำคลินิกและจะต้องเป็นหมอที่มีใบประกอบวิชาชีพที่ออกโดยแพทย์สภา

• การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าจะต้องฉีดกับหมอเท่านั้น คลินิกไม่ควรให้พยาบาลหรือผู้ช่วยแพทย์ทำการฉีดแทน

• คลินิกจะต้องมีการใช้ฟิลเลอร์ของแท้ที่ผ่านมาตรฐานอย.แล้วเท่านั้น

• คลินิกจะต้องมีช่องทางการติดต่อที่สะดวก มีที่ตั้งที่ชัดเจนและจะต้องทำหัตถการผ่านในคลินิกเท่านั้น

สรุป

การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าคือการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปช่วยปรับยกผิวให้ดูกระชับและเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้านั้นจะต้องฉีดกับหมอที่มีประสบการณ์สูงเนื่องจากจะต้องใช้เทคนิคการฉีดที่แตกต่างกับการฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้าแบบทั่วไป

วิธีนี้ถือว่าสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างทันทีหลังทำ และเห็นผลได้นานหลายเดือน แต่ทั้งนี้ในคนไข้แต่ละคนก็อาจจะต้องใช้เทคนิคในการรักษาที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล สำหรับใครที่สนใจอยากจะฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าหรืออยากสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ Line : @gangnamclinic หรือได้ที่กังนัมคลินิกทุกสาขา