ฟิลเลอร์ Restylane ดีไหม? เหมาะกับฉีดจุดไหน แตกต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร

ฟิลเลอร์ Restylane เป็นแบรนด์เก่าแก่และเป็นที่นิยมทั่วโลก สำหรับในไทยเองเกือบทุกคลินิกจะมียี่ห้อนี้ให้คนไข้ได้เลือกฉีด Restylane ถูกผลิตโดยบริษัท Galderma บริษัทยายักษ์ใหญ่ของประเทศสวีเดนซึ่งถือเป็นบริษัทยาที่มีอายุยาวนานกว่า 100 ปี มีนวัตกรรมเทคโนโลยีพัฒนาฟิลเลอร์ออกมาหลายรุ่นสำหรับฉีดแต่ละจุดบนใบหน้า คนไข้ที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าฉีดฟิลเลอร์ Restylane รุ่นไหนฉีดจุดไหน? ราคาแพงมั้ย? เหมาะกับใครบ้าง? กังนัมคลินิกเอาข้อมูลมาฝากกันค่ะ
สนใจบริการฉีดฟิลเลอร์ ของแท้และปลอดภัยได้มาตรฐาน โดยกังนัมคลินิก ปรึกษาเรา
ทำความรู้จักกับฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane
จุดเด่นของฟิลเลอร์ Restylane ที่ทำให้แตกต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น คือ เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าพัฒนาให้ฟิลเลอร์เหมาะสมกับการใช้งานมากขึ้น รวมถึงลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายแก่คนไข้อีกด้วย แต่ยังมีคนไข้หลายท่านเข้าใจผิดเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ว่าเป็นการฉีดสารแปลกปลอมเข้าร่างกาย แต่จริงๆแล้วฟิลเลอร์เป็นสารที่จำลอง HA ที่ร่างกายสร้างขึ้นได้เองตามธรรมชาติ
กระบวนการผลิตฟิลเลอร์จะผสานเทคโนโลยีให้ HA อยู่ในร่างกายได้นานขึ้นค่ะ โดยทั่วไปแล้ว Hyaluronic acid (HA) ตามธรรมชาตินั้นจะอยู่ได้ในระยะเวลาที่สั้นมากๆ เพราะถูกสลายด้วยเอนไซม์ Hyaluronidase ที่ร่างกายผลิตขึ้นมา ทำให้สาร HA ตามธรรมชาติจะอยู่ในร่างกายได้เพียง 2-3 วัน
ด้วยเหตุนี้บริษัทผลิตยาต่างๆ ทั่วโลกจึงมีวิธีการเพื่อเพิ่มความคงทนให้สาร HA อยู่ในร่างกายได้นานขึ้นด้วยกระบวนการ Cross-Link โดยแต่ละบริษัทจะเลือกใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติทางกายภาพ ความยืดหยุ่น ขนาดโมเลกุลที่แตกต่างกัน ซึ่งฟิลเลอร์ของบริษัท Galderma ใช้เทคโนโลยีที่ชื่อว่า NASHA Technology และ OBT Technology ในการพัฒนาฟิลเลอร์ให้มีคุณสมบัติต่างๆครอบคลุมปัญหาริ้วรอย ร่องลึกให้เหมาะกับคนไข้ทุกกลุ่ม
จุดแข็งของเทคโนโลยี NASHA & OBT Dermal filler คือ ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่ไหลย้อน หน้าเรียบเนียนสุขภาพดี มีการพัฒนามาตั้งแต่ปี 1996 จนถึงปัจจุบัน ได้รับการแนะนำจากแพทย์ผิวหนังและความงามมากกว่า 80 ประเทศทั่วโลกและถูกใช้ในการรักษามากกว่า 40 ล้านการรักษาทั่วโลกจึงมั่นใจได้เลยว่าปลอดภัยแก่ผู้ใช้
การผลิตฟิลเลอร์ Restylane จะใช้เทคโนโลยี 2 แบบ ดังนี้
1. เทคโนโลยี NASHA
ย่อมาจาก Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid เป็นเทคโนโลยีการสร้างเจลที่มีลักษณะคงรูป (Firm Gel) และอุ้มน้ำทำให้ผิวชุ่มชื้น เทคโนโลยีนี้ออกแบบให้โมเลกุลฟิลเลอร์มีขนาดหลากหลาย
- เหมาะสำหรับ: เติมริ้วรอยตื้นๆ ไปจนถึงริ้วรอยที่เป็นร่องลึก
- ผลลัพธ์หลังการฉีด: ผิวหน้าจะเรียบเนียนใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด ทั้งยังมีคุณสมบัติอุ้มน้ำ ช่วยให้ผิวให้ชุ่มชื้นหลังการฉีดอีกด้วย

โมเลกุลขนาดเล็ก สำหรับฉีดริ้วรอยตื้นบางๆ

โมเลกุลขนาดใหญ่ สำหรับฉีดริ้วรอยลึก

โมเลกุลขนาดใหญ่ สำหรับฉีดร่องลึกและสร้างวอลลุ่ม
2. เทคโนโลยี OBT
ย่อมาจาก Optimal Balance Technology จุดเด่นเป็นเนื้อเจลที่ปรับได้ตามการเคลื่อนไหว คงตัวแต่มีความยืดหยุ่นสูงมากกว่าแบบ NASHA
- เหมาะสำหรับคนไข้ผิวบาง
- ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน ดูละมุน ธรรมชาติ
เปรียบเทียบลักษณะเจล NASHA VS OBT

เทคโนโลยี NASHA เนื้อเจลจะคงรูป เนื้อหนาเหมาะสำหรับคนไข้ผิวหนา ผิวแข็งแรงรุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้เทคโนโลยีนี้ในการผลิต เช่น Restylane Silk, Restylane lyft

เทคโนโลยี OBT เนื้อเจลจะบาง อ่อนนุ่ม เหมาะสำหรับฉีดในคนไข้ผิวบางหรือฉีดใน บริเวณที่ต้องเคลื่อนไหว เช่น ร่องน้ำหมาก รุ่นฟิลเลอร์ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีนี้ เช่น Restylane Dyfyn, Restylane Refyn
ฟิลเลอร์ Restylane มีกี่รุ่น เหมาะกับฉีดจุดไหนบ้าง?

1. Restylane vital light lidocaine
อยู่ได้นาน 6-12 เดือน มีอนุภาคเล็ก ฉีดบริเวณผิวที่มีริ้วรอยบางๆ แก้ไขปัญหาตามจุดเล็กๆได้ดี สามาถฉีดเพื่อเก็บรายละเอียดได้ดี เหมาะสำหรับฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และฉีดร่องลึกริมฝีปากได้
2. Restylane Perlane Lyft
อยู่ได้นาน 12 เดือน เป็นรุ่นที่มีการผสมยาชา ความคงตัวสูง ฉีดแล้วคงรูปร่างได้ดี เหมาะสำหรับฉีดแก้มลูกส้ม ฉีดใต้ตา
3. Restylane Lidocain (Classic)
อยู่ได้นาน 12 เดือน เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่ส่วนผสมยาชา มีอนุภาคใหญ่ เหมาะสำหรับฉีดแก้ไขปัญหาริ้วรอยและร่องที่ลึกปานกลางถึงมาก เช่น ร่องลึกระหว่างคิ้ว
4. Restylane Volyme
อยู่ได้นาน 18 เดือน เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่ผสมยาชา ออกแบบมาเพื่อเติมชั้นผิวให้อิ่มฟูอุ้มน้ำ เหมาะสำหรับเติมเต็มแก้มตอบ ขมับ ใต้ตาที่ลึกมาก
5. Restylane Refyne
อยู่ได้นาน 12 เดือน เป็นฟิลเลอร์รุ่นผสมยาชา มีความยืดหยุ่นตามการเคลื่อนไหว ลักษณะเป็นเจลบางเบา แก้ไขปัญหาร่องลึกในบริเวณที่ต้องเคลื่อนไหวใบหน้าได้ดี เช่น ร่องน้ำหมาก เหมาะสำหรับคนไข้ผิวบาง
ฟิลเลอร์ Restylane ราคาเท่าไหร่?
- Restylane vital light lidocaine อยู่ได้นาน 6-12 เดือน ราคา 8,623 บาทต่อซีซี
- Restylane Perlane Lyft อยู่ได้นาน 12 เดือน ราคา 8,623 บาทต่อซีซี
- Restylane Lidocain (Classic) อยู่ได้นาน 12 เดือน ราคา 8,623 บาทต่อซีซี
- Restylane Refyne อยู่ได้นาน 12 เดือน ราคา 8,623 บาทต่อซีซี
- Restylane Volyme อยู่ได้นาน 18 เดือน ราคา 10,662 บาทต่อซีซี
เปรียบเทียบฟิลเลอร์ Restylane VS Juvederm แบบไหนดีกว่ากัน?
จุดที่เหมือนกัน
- ทั้งสองยี่ห้อเหมาะสำหรับเติมเต็มริ้วรอยและปรับรูปหน้าได้เป็นอย่างดี
- มีส่วนผสมของยาชาเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดขณะฉีด
- ถูกทดสอบและใช้มาอย่างยาวนาน มีความปลอดภัยสูงสุด
- ผลข้างเคียงหลังการฉีดไม่มีอาการรุนแรง ส่วนมากอาการข้างเคียงปกติได้แก่ มีรอยแดง และบวมแบบชั่วคราว
จุดที่แตกต่างกัน
- Restylane สัญชาติสวีเดน ส่วน Juvederm เป็นแบรนด์สัญชาติอเมริกา
- Juvederm มีรุ่นที่หลากหลายเฉพาะเจาะจงกับจุดบนใบหน้ามากกว่า เช่น สำหรับฉีดใต้ตา หรือฉีดปากเท่านั้น
- Restylane มีราคาที่ถูกกว่าและอยู่ได้ราวๆ 6-12 เดือน ในขณะที่ Juverderm บางรุ่นอยู่ได้นาน 1-2 ปี ซึ่งราคาจะสูงกว่าเช่นกัน (จากผลวิจัยและเก็บข้อมูลของ American Society for Aesthetic Plastic Surgery พบว่า ผลลัพธ์ของ Juvederm จะอยู่ได้นานกว่า)
วิธีเช็กฟิลเลอร์ Restylane ของแท้

- ตัวกล่องและขวดยาจะมีเลขทะเบียนอย. และเลขลอตที่ผลิตติดอยู่ซึ่งทั้งสองจุดจะต้องเป็นหมายเลยที่ตรงกัน
- ด้านข้างกล่องจะมี QR CODE ที่สามารถสแกนได้ด้วยแอปพลิเคชัน Eztracker หากเป็นของแท้จะขึ้นหน้าจอสีเขียวพร้อมกับข้อความว่า “ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้ถูกนำเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมายโดย บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด”
อย่างไรก็ตามในการเลือก ฟิลเลอร์ Restylane หรือยี่ห้ออื่นๆ คุณหมอจะประเมินจากปัญหาของคนไข้เป็นหลักร่วมกับงบประมาณคนไข้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อใด ต้องได้รีบการฉีดโดยแพทย์เชี่ยวชาญห้ามฉีดกับหมอกระเป๋าเด็ดขาด และเลือกคลินิกมาตรฐาน มีการใช้ฟิลเลอร์ของแท้เก็บรักษาอย่างถูกต้องเพื่อลดความเสี่ยงที่ไม่พึงประสงค์