วิธีลดพุง ลดหน้าท้อง แบบเร่งด่วน ให้ปลอดภัย ได้ผลเร็ว สำหรับคนไม่มีเวลา

ลดพุง แบบไหนดี

ไขมันหน้าท้องหรือพุง ถือเป็นส่วนเกินของร่างกาย ที่ทำให้รู้สึกเสียความมั่นใจ เนื่องจากบางคนก็มีพุงทั้ง ๆ ที่ไม่ได้อ้วน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะการมีพุงอาจเป็นการส่งสัญญาณของโรคต่าง ๆ จึงทำให้หลาย ๆ คนพยายามหาหลายวิธีมาลดพุง ไม่ว่าจะเป็นการทานยาลดน้ำหนัก การออกกำลังกาย หรือการอดอาหาร แต่ก็ยังไม่เป็นผล ซึ่งวันนี้เรามีวิธีลดไขมันหน้าท้อง ซึ่งมีทั้งวิธีลดพุงแบบไม่พึ่งคุณหมอ และการลดพุงแบบพึ่งคุณหมอ มาแนะนำสำหรับคนที่อยากลดพุง ซึ่งจะมีวิธีไหนที่เหมาะกับคุณบ้างสามารถติดตามอ่านได้ในบทความนี้ค่ะ

การลดพุงและไขมันที่หน้าท้อง เหมาะกับใคร?

สำหรับผู้ที่เหมาะกับการลดพุง หรือไขมันหน้าท้อง มากที่สุด จะอยู่ในกลุ่มคนดังต่อไปนี้

  • ผู้ที่มีรอบเอวเกินมาตรฐาน สำหรับผู้หญิง ไม่ควรเกิน 80 เซนติเมตร หรือ 32 นิ้ว และสำหรับผู้ชาย ไม่ควรเกิน 90 เซนติเมตร หรือ 36 นิ้ว
  • ผู้ที่มีรูปร่างอ้วนมาก น้ำหนักเกินมาตรฐาน สวมใส่เสื้อผ้าไม่สะดวกสบาย
  • ผู้ที่มีลักษณะพุง 5 แบบ หรือพุงป่อง พุงห้อยย้อย ทำให้ขาดความมั่นใจ
  • ผู้ที่มีไขมันสะสมในเวลาใดเวลาหนึ่ง เช่น คุณแม่หลังคลอดบุตรใหม่ๆ หรือผลข้างเคียงจากการกินยาบางชนิด เช่น เมโทโพรลอล และ อะทีโนลอล เป็นต้น
  • ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคความดัน เป็นต้น
  • ผู้ที่ต้องการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ ที่สามารถเกิดได้จากภาวะไขมันพอกในช่องท้อง

วิธีลดพุง สำหรับคนไม่มีเวลา มีวิธีไหนบ้าง?

สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย และไม่สามารถลดหน้าท้องได้ด้วยตัวเอง แต่อยากลดพุงให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ก็สามารถเลือกวิธีลดพุงแบบพึ่งคุณหมอได้ดังนี้

1. CoolSculpting สลายไขมันหน้าท้อง

เป็นวิธีการสลายไขมันหน้าท้องด้วยความเย็น ด้วยหัวดูดที่ทำหน้าที่คล้ายๆกับการหยิกไขมันที่พุงขึ้นมา จากนั้นจะปล่อยความเย็น -11°C แช่แข็งก้อนไขมัน เพื่อให้เซลล์ไขมันที่ถูกแช่แข็งตายลง และใช้การนวดแรงๆเพื่อสลายไขมันที่ตายให้แตกตัวเป็นของเหลว และจะถูกร่างกายกำจัดออกแบบถาวร ตามระบบการขับของเสีย จึงทำพุงนั้นมีขนาดเล็กลง

2. Lipo Slim

เป็นการฉีดสลายไขมันเฉพาะจุด เพื่อเพิ่มการเผาผลาญไขมันระดับลึก โดยกระตุ้นต่อมน้ำเหลือง ขยายหลอดเลือด และลดการสะสมไขมันบริเวณหน้าท้อง เพื่อให้ผิวยกกระชับ เต่งตึง ลดความหย่อนยานของผิวได้อย่างปลอดภัย เพราะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 100% นอกจากนี้ตัวยาของ Lipo Slim ยังสามารถขัดขวางการสะสมไขมันใหม่ชั้นใต้ผิวหนังได้อีกด้วย

3. IV Bune ลดไขมันหน้าท้อง

IV Bune เป็นสูตรวิตามินที่จะช่วยลดน้ำหนักเร่งด่วน โดยการเติมวิตามินผ่านการเจาะหลอดเลือดดำ เหมือนการให้วิตามินผิวแบบทั่วไปผ่านสายน้ำเกลือ แต่มีตัวยาที่ช่วยเร่งการเผาผลาญในร่างกายให้สามารถดึงไขมันมาเปลี่ยนเป็นพลังงาน จึงส่งผลดีต่อการลดน้ำหนัก มีความปลอดภัยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เหมาะสำหรับคนต้องการลดไขมันส่วนเกินในร่างกาย และปรับรูปร่างให้มีความกระชับได้เร็วขึ้น หรือผู้ที่ระบบเผาผลาญไม่ดี โดยไม่ทำให้ร่างกายหรือผิวพรรณดูโทรม

4. ใช้ปากกาลดน้ำหนัก (Diet Pen)

ปากกาจิ้มพุง

ปากกาลดน้ำหนัก Diet Pen หรือ Weight-Loss Pen เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากประเทศเดนมาร์ก มีลักษณะเป็นด้ามปากกาสำหรับใช้ฉีดตัวยา Liraglutide เข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่แพทย์เห็นว่าเหมาะสม ซึ่งตัวยา Liraglutide จะทำหน้าที่คล้าย GLP-1 ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกาย ทำหน้าที่สั่งการสมองเมื่อร่างกายรู้สึกอิ่ม ทำให้หยุดทาน ซึ่งในปัจจุบันทางการแพทย์ นิยมนำมาเป็นตัวช่วยในการควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

5. HIFU

HIFU ลดพุง

HIFU หรือ High Intensity Focus Ultrasound เป็นเทคโนโลยีที่มีการส่งคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงในรูปแบบ Macro Focus เพื่อลดไขมันส่วนเกินแบบเฉพาะส่วน และพลังงานที่ได้สามารถตรงเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวระดับลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) จึงทำให้ชั้นผิวหนังแท้เกิดการหดตัวเกิดเป็นการยกกระชับขึ้น นอกจากนี้ Hifu ยังช่วยสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่ จึงทำให้นอกจากจะลดไขมันหน้าท้องได้แล้วยังสามารถกระชับสัดส่วน ลดการหย่อนคล้อยของผิวได้ดีอีกด้วย

4. Thermage FLX

Thermage FLX เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการลดพุงที่ได้รับความนิยม ด้วยเทคโนโลยีความงามที่ใช้พลังงานความร้อนจากคลื่นความถี่วิทยุชนิดขั้วเดียว (Monopolar RF) ยิงลงไปในชั้นผิวหนังได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ (dermis) แบบ Column จึงความร้อนลงสู่ชั้นผิวได้ลึกและทั่วถึงมากขึ้น โดยความร้อนจะไปทำให้ผิวเกิดการหดตัว ไขมันส่วนเกินใต้ผิวหนังสลายตัวได้เร็ว ช่วยลดเนื้อไขมันพร้อมกระตุ้นการจัดระเบียบโครงสร้างผิว และเนื้อเยื่อไขมันใต้ผิว จึงเป็นการลดพุงได้อย่างตรงจุด

5. BTL Exilis Elite

อีกหนึ่งตัวช่วยในการสลายพุงด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง ที่ทำให้เกิดพลังงานความร้อน ที่ลงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อเพื่อกระชับสัดส่วน กำจัดไขมันและเซลลูไลต์ เป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูงผ่านการรับรอง US FDA เหมาะกับผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุดในบริเวณที่ทำได้ยาก เช่นบริเวณหน้าท้อง เห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ 1-2 ครั้งแรก

6. INDIBA ลดไขมันระดับเซลล์

INDIBA กำจัดไขมันหน้าท้อง

นวัตกรรม Proionic เป็นเทคโนโลยีการรักษาด้วยความร้อน ด้วยวิทยุคลื่น 448 ที่ความถี่ 0.5 MHz เพื่อสลายก้อนไขมันส่วนเกินให้เกิดการหดตัว แตกตัว และถูกร่างกายจะขับออกแบบอัตโนมัติ โดยไม่ทําให้เกิดความร้อนต่อเนื้อเยื่อ (subthermal) นิยมใช้ในการฟื้นฟูกล้ามเนื้อในระดับเซลล์หลังการผ่าตัด และช่วยปรับรูปร่างให้มีความสัดส่วนที่สวยงามได้

7. ดูดไขมันหน้าท้อง

การดูดไขมันหน้าท้อง (Abdominal Liposuction) คือการกำจัดไขมันสะสมส่วนเกินใต้ชั้นผิวบริเวณหน้าท้อง โดยศัลยแพทย์เพื่อปัญหาพุงยื่น พุงป่อง ด้วยเครื่องดูดไขมัน โดยแพทย์จะทำการฉีดสารละลายบางชนิดเพื่อทำให้ไขมันแตกตัว หรือที่เรียกว่าไขมันหลวม เพื่อให้ดูดออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้น ซึ่งวิธีนี้จะสามารถจัดไขมันออกจากร่างกายได้มากที่สุด

8. ฉีดเมโสแฟตหน้าท้อง

ฉีดเมโสแฟต ลดไขมันหน้าท้องและพุง

การฉีดสลายไขมันหน้าท้อง เป็นการนำตัวยาที่ชื่อว่าเมโสแฟต (Meso Fat) ซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ทำหน้าที่สลายได้อย่างตรงจุดมาฉีดที่บริเวณหน้าท้อง เพื่อกระตุ้นให้ระบบการทำงานของ metabolism ซึ่งที่เป็นกลไกการสลายไขมันของร่างกาย และ L-carnitine จะช่วยให้ร่างกายดึงไขมันส่วนเกินมาใช้เป็นพลังงาน (Fat burn) จึงทำให้พุงยุบลงอย่างรวดเร็ว

9. Z Lipo + Z Wave

เป็นเทคโนโลยีกำจัดไขมันล่าสุด ที่มีการนำเอา 2 นวัตกรรมมาไว้รวมกัน Z Lipo เป็นการใช้เทคโนโลยีความเย็นเยือกแข็ง -11°C ลงไปทำลายเซลล์ไขมันใต้ชั้นผิวให้ตายลงได้ประสิทธิภาพ จากนั้น Z Wave จะทำหน้าที่ส่งคลื่นวิทยุที่ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนใต้ชั้นผิวหนัง จึงทำให้ไขมันที่ถูกแช่แข็งแตกตัวเป็นของเหลวที่มีอนุภาคขนาดเล็ก และถูกกำจัดออกไปทางระบบน้ำเหลืองได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้พุงลดลงอย่างเร่งด่วน ผิวดูกระชับขึ้น และ ไขมันถูกกำจัดออกไปอย่างถาวร

ทำ Zwave Zlipo ลดหน้าท้อง

10. การใช้ยาลดน้ำหนัก

การใช้ยาลดน้ำหนัก

การใช้ยาลดน้ำหนัก จะช่วยยับยั้งเรื่องของความอยากอาหาร และช่วยดักจับไขมันไม่ให้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งต้องใช้ร่วมกับการควบคุมอาหารและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม แต่โดยส่วนมากแพทย์จะไม่นิยมใช้วิธีนี้ เนื่องจากมี Yoyo Effect และเป็นยาอันตรายถึงชีวิต ดังนั้นจำเป็นที่แพทย์ต้องระวังอย่างมาก

11. ควบคุมอาหาร

กินอาหารที่เป็นโปรตีนและผัก

อย่างที่เพื่อนๆหลายๆท่าทราบกันดีอยู่แล้วว่า ของทอดของมันเป็นสาเหตุของความอ้วนลงพุง ดังนั้นใครที่กำลังลดน้ำหนักหรือลดพุงแนะนำให้ลดอาหารประเภทนี้ แล้วหันมาเน้นรับประทานโปรตีนแทน เนื่องจากโปรตีนจะช่วยให้อิ่มอยู่ท้อง และซ่อมแซมกล้ามเนื้อหลังจากออกกำลังกาย การกินโปรตีนให้ต่อความต้องการของร่างกาย จึงสามารถช่วยกระตุ้นทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ตลอดเวลา ซึ่งจะทำให้พุงลดลงได้ในที่สุด และอาหารที่มีโปรตีนสูงได้แก่ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ต้ม เต้าหู้

12. ทำ IF ลดพุง

if จำกัดเวลาในการทานอาหาร

การทาน IF หรือ หรือ Intermittent fasting เป็นการลดน้ำหนักอีกวิธีหนึ่งโดยจำกัดเวลาในการทานอาหาร (Feeding) แบบควบคุมแคลอรี และแบ่งเป็นช่วงอดอาหาร (Fasting) ซึ่งนิยมวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Lean Gains กิน 8 ชั่วโมง และอด 16 ชั่วโมง ทำให้ในช่วงเวลาที่อดร่างกายมีการดึงไขมันที่สะสมออกมาใช้

13. การออกกำลังกายลดหน้าท้อง

การควบคุมอาหารและการออกกำลังกายอย่างถูกวิธีควบคู่กันไปจะช่วยทำให้การไขมันหน้าท้องลดลงไปได้ในเวลาที่รวดเร็วขึ้น แต่ต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง 5 ท่าออกกำลังกายลดพุงที่เห็นผลมากที่สุดได้แก่

  1. Crunches
  2. Flutter Kicks
  3. Planks
  4. Russian Twist
  5. Low Belly Leg Reach

14. ใส่ที่รัดพุง

สายรัดลดพุง

การใส่ที่รัดพุง หรือสเตย์รัดหน้าท้อง ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ถูกยกกระชับ ด้วยผ้ายืดแผ่นใหญ่ที่รัดหน้าท้องเอาไว้ ไม่ได้เคลื่อนไหวไปตามธรรมชาติ อาจช่วยให้คุณดูผอมลงภายในไม่กี่วินาที แต่เมื่อใช่เป็นประจำต่อเนื่องทุกวันเป็นเวลานาน อาจทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องอ่อนแอลง จนเป็นสาเหตุของหน้าท้องย้วย และเกิดการลงพุงในอนาคตได้ง่ายกว่าเดิม

การลดพุงใน ผู้หญิง กับ ผู้ชาย ต่างกันไหม?

สำหรับการลดพุงของผู้หญิงและผู้ชาย สามารถใช้วิธีเดียวกันได้ โดยแพทย์จะเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมกับปริมาณไขมันที่แตกต่างของแต่ละบุคคล แต่อาจจะต่างกันที่จำนวนครั้งของการรักษา เนื่องจากผู้ชายมักมีการใช้พลังงานมากกว่า จึงทำให้ไขมันส่วนเกินน้อยกว่าผู้หญิงนั่นเอง

พุงผู้ชาย
พุงผู้หญิง

ข้อควรระวังเกี่ยวกับการลดพุง ลดหน้าท้อง

การลดพุงควรอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ดังนั้นสำหรับใครที่ต้องการลดพุงด้วยตัวเองควรมีการปฏิบัติย่างพอดีไม่หักโหมร่างกายจนเกิดอันตราย และหากใครที่ต้องการลดพุงอย่างถูกต้อง ก็ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในคลินิกที่มีมาตรฐานเชื่อถือได้ เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด

ลักษณะพุง มีกี่แบบ?

ลักษณะของพุงหรือไขมันที่สะสมบริเวณหน้าท้อง และรอบเอว มักเป็นไขมันสะสมที่เอาออกได้ยาก ซึ่งแบ่งเป็น 5 แบบดังนี้

  • พุงกลม (Alcohol Tummy)
  • พุงป่อง (Bloated Tummy)
  • พุงป่องช่วงล่าง (The Little Pooch)
  • พุงเครียด (Stress Tummy)
  • พุงคนท้อง (Mommy Tummy)

ดังนั้นการที่เรารู้จักลักษณะของพุงแต่ละแบบว่าพุงของตัวเองมีลักษณะเป็นแบบไหน ก็จะสามารถเลือกวิธีลดพุงได้เหมาะสมและแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดอีกด้วย

พุงเป็นชั้น คืออะไร

พุงแบบไหนลดยาก

พุงที่ลดยากคือ พุงที่มีไขมันไปสะสมใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) ไม่ว่าจะเป็นพุงกลม (Alcohol Tummy) , พุงป่องช่วงล่าง (The Little Pooch) อันเกิดจากพฤติกรรมการกินเป็นหลัก เพราะนอกจากจะลดยากแล้ว เมื่อไขมันเหล่านี้ลามไปสะสมในช่องท้อง ก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้เกิดโรคร้ายต่างๆ ได้มากมาย เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคอ้วน และโรคเบาหวาน เป็นต้น

การดูแลตัวเองไม่ให้มีพุงใหญ่ พุงยื่น

วิธีดูแลตัวเองไม่ให้มีพุงใหญ่ พุงยื่น
  1. หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, น้ำอัดลม และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
  2. ลดอาหารที่คาร์โบไฮเดรต, ไขมันทรานส์ และรับประทานโปรตีนให้เพียงพอในแต่ละวัน
  3. ทานอาหารที่มีโปรไบโอติกส์และอาหารไฟเบอร์
  4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที
  5. พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมงในช่วงเวลา 22.00น. เป็นต้นไป และหลีกเลี่ยงความเครียด

รีวิวสลายไขมันหน้าท้อง ที่กังนัมคลินิก

รีวิว ZwaveZlipo ลดพุง

สรุป

การมีไขมันสะสมในช่องท้องมาก ๆ หรือการอ้วนลงพุงสามารถลดได้ไม่ยาก หากเข้าใจและรู้จักเลือกวิธีที่เหมาะสม เพื่อรักษาหุ่นและสุขภาพที่ดี สำหรับใครที่ทดลองลดพุงด้วยตัวเองแล้วไม่เห็นผล หรือเห็นผลช้าไม่เป็นไปตามที่ต้องการ ที่กังนัมคลินิกเราแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลรูปร่างไว้คอยให้คำแนะนำ พร้อมทั้งมีเทคโนโลยีสลายไขมันหลายรูปแบบที่สามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรก

references :

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง