7 วิธีกำจัดขนน้องสาว ไม่คัน เจ็บน้อย วิธีไหนให้ผลลัพธ์แบบธรรมชาติ
การกำจัดขนน้องสาวในยุคปัจจุบันมีวิธีการหลากหลายมากขึ้นตามวิวัฒนาการและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปซึ่งทันสมัย ซึ่งสามารถปรับใช้ได้ตามปัจจัยเฉพาะของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นการโกน แว๊กซ์ ถอน หรือเลเซอร์ขนจิมิ ก็ตาม นอกจากความสวยงามแล้วก็ยังเป็นประโยชน์ ทั้งช่วยลดกลิ่นอับ และความสะอาด แต่ก็ควรเลือกวิธีการที่เหมาะสมเพื่อความปลอดภัย ไม่เกิดขนคุด ใครที่มองหาวิธีที่น่าสนใจอยู่ สามารถหาคำตอบได้จากบทความนี้เลย
สาเหตุที่ควรกำจัดขนน้องสาว
การที่มีขนขึ้นไม่ว่าจะบริเวณไหนล้วนก่อให้เกิดกลิ่นอับ รวมถึงการรักษาความสะอาดที่ยากขึ้นตามมา ซึ่งหากดูแลไม่ดีก็อาจกลายไปเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียได้อีกด้วย ดังนั้นการกำจัดขนจึงจำเป็นสำหรับผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ที่ต้องการควบคุมปัจจัยต่างๆ ตามที่กล่าวมา
การกำจัดขนน้องสาว ช่วยในเรื่องอะไรบ้าง?
- ช่วยให้เกิดความสวยงาม ดูเรียบร้อย
- สามารถแต่งชุดรัดรูป ชุดว่ายน้ำ ได้อย่างมั่นใจขึ้น
- รักษาความสะอาดได้ง่าย ไม่เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค
- ลดการเกิดกลิ่นอับ
- ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับคนที่ต้องการมีเพศสัมพันธ์
วิธีกำจัดขนน้องสาว แบบธรรมขาติ ข้อดี-ข้อเสีย ต่างกันอย่างไร?
วิธีการกำจัดขนน้องสาวสามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งจะได้ผลลัพธ์มากน้อยและคงทนถาวรแตกต่างกันไป รวมทั้งความเจ็บระหว่างทำ นอกจากนี้ก็ยังขึ้นอยู่กับพันธุกรรมหรือปัจจัยเฉพาะบุคคลที่ควรคำนึงถึงในการเลือกวิธีที่ใช้เช่นกัน โดยแต่ละวิธีมีข้อดี-ข้อเสียต่างกันดังนี้
1. เลเซอร์ขนน้องสาว
เลเซอร์ขนจิมิเป็นการใช้เครื่อง ยิงแสงและความร้อนไปที่เซลล์รากขนเพื่อลดและยับยั้งการเกิดขนใหม่ ที่ได้รับการยอมรับและประสิทธิภาพดีที่สุดก็จะเป็นเครื่อง Long Pulse ND Yag เพราะยิงแสงวงแคบได้เฉพาะจุดกว่ารุ่นอื่นๆ โดยในครั้งแรกๆ ที่ทำ ขนจะงอกขึ้นใหม่แล้วไม่นานจะหลุดร่วงไป และเมื่อทำต่อเนื่องหลายครั้ง ขนบริเวณจุดซ่อนเร้นก็จะไม่กลับมาขึ้นอีก ซึ่งสามารถเลือกทำได้ทั้งแบบเกลี้ยงเกลาทั่วทั้งบริเวณ หรือจะเลือกทำแค่ช่วงขอบบิกินี่ก็ได้เช่นกัน
วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง
การเลเซอร์ก็จะเหมาะกับคนที่ต้องการกำจัดขนในระยะยาว เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใส่ชุดว่ายน้ำ หรือคนที่อยากกำจัดขนน้องสาวโดยไม่ทำให้เกิดขนคุด อาการอักเสบ รวมถึงคนที่ต้องการลดกลิ่นอับและอยากรักษาความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้นให้ง่ายขึ้นนั่นเอง
ขั้นตอนการเลเซอร์กำจัดน้องสาวเป็นอย่างไร
เริ่มแรกก่อนทำเลเซอร์เจ้าหน้าที่จะทำการโกนขนและทำความสะอาดบริเวณน้องสาว จากนั้นอาจมีการแปะยาชาหรือประคบเจลเย็นให้ก่อนเพื่อลดความเจ็บขณะเลเซอร์ หลังจากนั้นก็เริ่มยิงเลเซอร์ไปทีละจุดจนทั่วบริเวณตามที่เลือกทรง ซึ่งอาจใช้เวลามากน้อยต่างกันไปตามปริมาณความหนาของขนจิมิด้วย จบท้ายด้วยการทายาหรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ลดการระคายเคืองเป็นอันเสร็จ
ข้อดีของวิธีนี้
- กำจัดขนน้องสาวได้ดีในระยะยาว ขนใหม่ขึ้นช้า ไม่ต้องทำถี่
- เจ็บน้อยกว่าวิธีอื่นๆ ในขณะที่ผลลัพธ์ออกมาดีกว่า
- ปลอดภัย เพราะเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการรับรองประสิทธิภาพแล้ว
- เรียบเนียน ไม่เกิดเป็นขนคุดที่ทำให้ผิวน้องสาวอักเสบตามมา
- ช่วยลดความหมองคล้ำที่เกิดการแรงเสียดสีได้ในระดับหนึ่ง
ข้อเสียของวิธีนี้
- ราคาค่อนข้างสูง
- อาจเกิดอาการแดงนิดๆ หลังทำเป็นระยะเวลาหลายนาที
- ต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งถึงจะเห็นผลชัดเจน
- หลังทำต้องดูแลเป็นพิเศษเพื่อป้องกันการเกิดอาการระคายเคือง
2. การโกนขนน้องสาว
การโกนเป็นวิธีที่ยอดฮิตที่สุดเพราะสามารถทำได้ง่าย ใช้อุปกรณ์เพียงอย่างเดียวนั่นคือมีดโกน ซึ่งในปัจจุบันก็มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบปกติไปจนเครื่องโกนไฟฟ้าที่ช่วยให้ทำง่ายและรวดเร็วขึ้น
- ข้อดี : สะดวก ไม่เจ็บ สามารถทำได้เองทุกเมื่อที่ต้องการ รวมถึงประหยัดเพราะสามารถใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วทำซ้ำได้หลายครั้ง
- ข้อเสีย : ขนขึ้นเร็วกว่าวิธีอื่นๆ และหากไม่ระวังอาจเกิดการบาดระหว่างโกนได้
3. การถอนขนน้องสาว
การถอนขนนับเป็นวิธีที่พื้นฐานและมีมานานที่สุดของวิวัฒนาการการกำจัดขน ปัจจุบันที่นิยมสุดก็คือการถอนด้วยแหนบ ซึ่งความเจ็บขณะทำถือว่าอยู่ในเกณฑ์ทนได้แต่ก็ต้องใช้เวลานานในการทำให้ครบทั่วทั้งบริเวณ
- ข้อดี : ใช้อุปกรณ์เพียงชิ้นเดียวก็สามารถทำได้เลย
- ข้อเสีย : เสี่ยงต่อการอักเสบ ขนคุด หรือเป็นฝีได้หากถอนไม่ดี
สาเหตุของการเกิดขนคุดสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ ขนคุด คืออะไร? รักษาด้วยวิธีไหนได้ผลดี?
4. ผลิตภัณฑ์กำจัดขนน้องสาว
ปัจจุบันยังมีผลิตภัณฑ์กำจัดขนที่ช่วยสลายขนจิมิให้อ่อนตัวลง แล้วเช็ดออกได้ในเวลาไม่กี่นาที ซึ่งมีทั้งในรูปแบบครีม หรือมูส สามารถทำได้เอง ง่าย มีหลายราคาให้เลือกตามความพึงพอใจดังนี้
- มูสหรือสเปรย์กำจัดขน เป็นมูสกำจัดขนที่มาในรูปแบบของขวดสเปรย์ที่ก่อนใช้จะต้องทำการเขย่าและบีบเนื้อมูสลงบนผิวที่ต้องการกำจัดเส้นขน จากนั้นก็จะต้องทิ้งไว้สักพักและทำการค่อยๆ เข็ดเอาเส้นออก
- ครีมกำจัดขน จะใช้วิธีการกำจัดขนคล้ายๆ กับมูสสเปรย์แต่จะเป็นเนื้อครีมที่มาพร้อมกับที่ปาดครีมเอาไว้ปาดเอาเส้นขนและตัวครีมออกซึ่งสามารถกำจัดขนได้อย่างเกลี้ยงเกลาแต่ไม่สามารถกำจัดเส้นขนได้ถึงรากขนได้จะคล้ายกับการโกนขนแต่ว่าลดแรงเสียดสีระหว่างใบมีดและผิวหนังนั่นเอง
- ข้อดี : ใช้เวลาไม่นาน ไม่เกิดการเจ็บจากการดึงเส้นขน
- ข้อเสีย : มีการใช้สารเคมีเข้ามาเกี่ยวข้อง อาจมีกลิ่นฉุน รวมทั้งก่อให้เกิดการแพ้หรือระคายเคืองผิวได้
5. การแว๊กซ์ขนน้องสาว
เป็นการใช้อุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นของเหลวซึ่งมีทั้งแบบร้อน แบบเย็น รวมทั้งแผ่นแว๊กซ์สำเร็จรูป สามารถทำได้โดยการทาของเหลวหรือแปะแผ่นแว๊กซ์ลงไปที่จุดขนจิมิ หลังจากนั้นแว๊กซ์จะจับตัวกันเป็นแผ่น และสามารถดึงเส้นขนให้หลุดออกมาพร้อมแว๊กซ์ได้ในครั้งเดียว
ข้อดี : ผิวเรียบเนียนทันทีหลังทำ ใช้เวลาไม่นานมาก สามารถเลือกได้ทั้งทำเองหรือทำที่คลินิกความงาม
ข้อเสีย : ค่อนข้างเจ็บ และไม่ได้กำจัดขนถึงราก ทำให้เส้นขนจะขึ้นมาใหม่ได้หลังจากนั้นไม่นาน
6. การตัดหรือเล็มขนน้องสาว
การเล็มขนน้องสาวอาจจะไม่ได้เป็นการกำจัดขนออกไปจนเกลี้ยงเกลาแต่ก็ช่วยทำให้เกิดความเรียบร้อย ไม่รกรุงรังได้ และยังสามารถเลือกความยาวได้ตามที่ต้องการอีกด้วย เหมาะกับคนที่ต้องการจัดแต่งน้องสาวเพื่อให้ดูแลรักษาความสะอาดง่ายขึ้น
- ข้อดี : ทำได้ง่าย ไม่เจ็บ ควบคุมความยาวได้ตามต้องการ
- ข้อเสีย : เส้นขนจะงอกยาวขึ้นมาใหม่ค่อนข้างไว
7. การฟอกสีขนน้องสาว
การฟอกสีจะเป็นการเปลี่ยนเส้นขนจิมิจากสีเข้มให้ดูอ่อนลง โดยใช้สารฟอกที่ทำจากส่วนผสมของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์และกำมะถัน ถือเป็นวิธีที่ชาวตะวันตกนิยมอยู่ในยุคหนึ่งเลยทีเดียว
- ข้อดี : ไม่เจ็บ ไม่ต้องมีการทำร้ายเส้นขน
- ข้อเสีย : เส้นขนไม่ลดลง ทำให้ไม่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการจัดระเบียบหรือรักษาความสะอาดน้องสาว และอาจเกิดการระคายเคือง หรือทำให้ผิวช่วงที่ฟอกซีดตามสีขนได้
กำจัดขนน้องด้วยวิธีไหน เจ็บและคันน้อยที่สุด
หากให้แนะนำวิธีกำจัดขนน้องสาวที่ดีที่สุด ก็ควรต้องคำนึงถึงความรู้สึกขณะทำและความถี่ในการทำแต่ละครั้ง เพราะผลลัพธ์ที่ได้หลังทำ จะส่งผลให้ขนบางและขึ้นช้าลง อย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังไม่ส่งผลให้เกิดอาการคันน้องสาวหลังทำด้วย
ดังนั้นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดขนน้องสาวที่ได้รับความนิยมสุดในปัจจุบันจึงต้องขอยกให้เป็นการทำเลเซอร์ขนจิมิ ด้วยเครื่อง Long Pulse ND YAG เพราะสามารถกำจัดขนจิมิได้ค่อนข้างถาวร ขนลดน้อยลง กลับมาขึ้นใหม่ช้าขึ้น คุ้มค่ากับราคาและความปลอดภัย และไม่รู้สึกเจ็บมากในช่วงระหว่างทำ มีเพียงอาการดีดเล็กน้อยเท่านั้นนั่นเอง
วิธีดูแลจุดซ่อนเร้นหลังกำจัดขนน้องสาว
- งดสครับผิวบริเวณน้องสาวและพื้นที่ใกล้เคียงเป็นเวลา 1 สัปดาห์
- งดอาบน้ำอุ่นอย่างน้อย 3 วัน
- เลี่ยงกิจกรรมที่อาจก่อการเกิดเหงื่อในช่วง 3 วันแรกหลังกำจัดขน
- หากรู้สึกแสบร้อนหรือระคายเคือง ควรทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ลดอาการที่อ่อนโยนและได้ประสิทธิภาพ
- แนะนำให้สวมใส่ชุดที่ไม่รัดรูปเพราะการทำให้เกิดการเสียดสีจนนำไปสู่อาการอักเสบได้
สรุปเลือกวิธีไหนดี
ทั้งหมด 7 วิธีก็จะเป็นวิธีพื้นฐานในการกำจัดขนน้องสาว ที่มีการทำอย่างแพร่หลายทั่วไป มีทั้งวิธีที่กำจัดได้เร็ว ง่าย แต่ก็อาจจะมาพร้อมผลลัพธ์ไม่ยั่งยืน และวิธีที่อาจต้องใช้เวลานาน ราคาสูง แต่ช่วยให้ผลลัพธ์ดีในระยะยาวก็มี ซึ่งจะเลือกใช้วิธีไหนก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและเงื่อนไขของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นความสะดวก หรือความรู้สึกขณะทำด้วยก็ตาม ถ้าหากยังไม่มั่นใจว่าวิธีไหนเหมาะสมที่สุด การลองหลายๆ แบบจนเจอวิธีที่ใช่ก็จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเช่นกัน