หน้าตอบ แก้มตอบ คืออะไร? สาเหตุเกิดจาก? ข้อดี ข้อเสีย แต่ละวิธีเหมาะกับใครบ้าง?

หน้าตอบ ขมับตอบ แก้ด้วยวิธีไหนดี

ใครหลายๆ คนอาจจะกำลังประสบกับปัญหามีใบหน้าโทรม หรือมีใบหน้าซูบผอมจนดูแก่กว่าวัยอยู่ และมีความกังวลใจจนอยากจะหาวิธีรักษาและแก้ไขว่าเกิดจากอะไรและมีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง ในบทความนี้เราจะรวบรวมคำตอบเกี่ยวกับปัญหาหน้าตอบ แก้มตอบมาไว้ให้แล้ว

หน้าตอบ แก้มตอบ คืออะไร ?

หน้าตอบ แก้มตอบ คืออะไร

ลักษณะของรูปแก้มที่มีการยุบตัวลงกลายเป็นแอ่งอยู่ระหว่างบริเวณโหนกแก้มและส่วนคาง ที่เกิดขึ้นจากการยุบตัวของชั้นผิวซึ่งเมื่อถูกแสงกระทบจะยิ่งทำให้เห็นชัดมากขึ้น ซึ่งส่งผลทำให้ใบหน้าดูไม่สดใส ดูอ่อนล้าและโทรม พร้อมทั้งยังทำให้ใบหน้าดูมีอายุที่มากกว่าวัยอีกด้วย

สาเหตุ หน้าตอบ แก้มตอบ เกิดจากอะไรได้บ้าง ?

ปัญหาหน้าตอบ แก้มตอบนั้นหลักๆ เกิดมาจากการยุบตัวของชั้นผิวแต่นอกจากนั้นยังสามารถเกิดขึ้นได้จากอีกหลายสาเหตุปัจจัย ดังนี้

สาเหตุของ หน้าตอบ แก้มตอบ
  • กรรมพันธุ์
    ถือเป็นปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากลักษณะโครงสร้าง และรูปร่างของใบหน้าเรามีการส่งต่อกันทางพันธุกรรมเป็นทอดๆ ดังนั้นหากเรามีคนในครอบครัวมีลักษณะโครงหน้าที่มีแก้มตอบก็อาจส่งผลทำให้เรามีลักษณะแก้มตอบ หน้าตอบได้เช่นกัน
  • การจัดฟัน
    ในการจัดฟันนั้นจะส่งผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโครงใบหน้าของเราอย่างมาก ซึ่งนั้นก็รวมไปถึงการเกิดปัญหาแก้มตอบ หน้าตอบขึ้นได้ เนื่องจากในการจัดฟันนั้นเราจะต้องเปลี่ยนเหล็กในทุกๆ เดือนซึ่งจะทำให้เรารู้สึกปวดฟันจนส่งผลทำให้เราเกิดการเคี้ยวอาหารได้น้อยลงและทำให้กล้ามเนื้อของใบหน้าเกิดการลีบลงได้ด้วย
  • อายุที่มากขึ้น
    เมื่อคนเรามีอายุที่เพิ่มมากขึ้นจะทำให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนออกมาได้น้อยลงจนทำให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ ตามมารวมไปถึงการยุบตัวของชั้นผิวเกิดเป็นอาการหน้าตอบ แก้มตอบ หรือริ้วรอย ร่องลึกขึ้นได้
  • ลักษณะการมีโหนกแก้มที่สูง
    เกิดจากลักษณะของโครงใบหน้ามีโหนกแก้มที่สูง จึงทำให้เกิดการดึงผิวบริเวณแก้มขึ้นไปที่บริเวณโหนกแก้ม ทำให้เกิดเป็นลักษณะหน้าตอบ แก้มตอบขึ้นนั่นเอง
  • น้ำหนักที่ลดลง
    การลดน้ำหนักลงอย่างรวดเร็วจะส่งผลทำให้ร่างกายเกิดการสูญเสียไขมันในจุดต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งรวมไปถึงการเสียไขมันของใบหน้าที่จะเกิดใบหน้าที่เรียวเล็กขึ้นหรือเกิดเป็นลักษณะหน้าตอบ แก้มตอบลงอย่างเห็นได้ชัด
  • การถูกรังสี UV ทำร้ายผิว
    รังสี UV, แสง และมลภาวะต่างๆ ถือเป็นส่วนสำคัญในการทำลายผิวจนทำให้ผิวเกิดการสูญเสียคอลลาเจนและเนื้อเยื่อลง ซึ่งก็นำไปสู่ปัญหาผิวต่างๆ อย่างมากมาย
  • โรคและความผิดปกติของร่างกาย
    ปัญหาทางสุขภาพก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดหน้าตอบแก้มตอบขึ้นได้เช่น โรคคลั่งผอม, วัณโรค, ปัญหาไขมันฝ่อ เป็นต้น
  • การฉีดโบท็อก (Botox) ลดกราม
    การฉีดโบท็อกลดกรามนั้นสามารถเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดแก้มตอบได้ แต่ว่าไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกราย โดยส่วนใหญ่แล้วจะเกิดกับการฉีดโบท็อกโดยหมอที่ไม่เชี่ยวชาญ ที่อาจฉีดตัวยาโบท็อกมากเกินไปจนทำให้แก้มยุบได้นั่นเอง
  • การฉีดเมโสแฟตแก้ม
    การฉีดเมโสแฟตจะเป็นการฉีดตัวยาที่เข้าไปสลายเซลล์ไขมัน ซึ่งหากฉีดในปริมาณที่มากเกิดไปอาจทำให้เกิดปัญหาแก้มตอบได้

หน้าตอบ แก้มตอบ ส่งผลอย่างไรบ้าง เป็นอันตรายไหม ?

หน้าตอบ แก้มตอบ ส่งผลอย่างไรบ้าง

ปัญหาหน้าตอบแก้มตอบนั้นไม่ได้มีความอันตรายต่อร่างกายหากไม่ได้เกิดขึ้นจากโรคและความผิดปกติของร่างกาย แต่จะส่งผลในด้านความมั่นใจและโหวงเฮ้งเท่านั้น

  • ส่งผลต่อความมั่นใจ
    เนื่องจากการมีใบหน้าที่ตอบ มีแก้มที่ตอบนั้นจะทำให้เราดูมีใบหน้าที่ดูโทรม ไม่สดใส และทำให้ใบหน้าดูแก่ขึ้นกว่าวัยซึ่งหากใครที่มีปัญหาแก้มตอบเยอะๆ ก็อาจจะต้องสูญเสียความมั่นใจเมื่อถูกผู้คนรอบตัวทัก
  • ส่งผลทางด้านหลักโหวงเฮ้ง
    ความหมายของการมีแก้มตอบ หน้าตอบในหลักของโหวงเฮ้งนั้นจะหมายถึงการบริวารที่ไม่ดี เจอแต่คนไม่จริงใจ ทำอะไรก็จะพบเจอแต่ความขัดสนอยู่ตลอด

วิธีแก้ปัญหาหน้าตอบ แก้มตอบ แบบธรรมชาติ มีอะไรบ้าง ?

มาถึงส่วนวิธีแก้ปัญหาหน้าตอบ แก้มตอบกันบ้าง ซึ่งก็มีอยู่ด้วยกันหลายวิธีโดยเรามาดูวิธีการแก้ปัญหาแบบธรรมชาติกันก่อนว่าจะมีวิธีไหน

ดื่มน้ำเยอะๆ

การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายอย่างน้อย 8 แก้วต่อวันถือเป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยทำให้ผิวพรรณมีความชุ่มชื้นและเป็นการช่วยทำให้ร่างกายเกิดการผลัดเซลล์ผิวใหม่ได้ดี และทำให้ผิวพรรณมีความกระจ่างใส มีน้ำมีนวลขึ้นอีกด้วย

เลี่ยงแสงแดด

เนื่องจากแสงแดดถือเป็นการสำคัญในการทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้คอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินเกิดการเสื่อมโทรมจนทำให้ชั้นผิวเกิดการยุบตัวลงไปดังนั้นการเลี่ยงแสงแดดก็ถือเป็นอีกวิธีป้องกันการเกิดปัญหาหน้าตอบ แก้มตอบได้ดี และข้อสำคัญควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันในก่อนออกแดดประมาณ 30 นาทีเพื่อป้องกันแสงแดดทำร้ายผิว

เลือกทานอาหารบำรุงผิว

การทานอาหารถือเป็นอีกตัวช่วยในการฟื้นบำรุงผิว ดังนั้นจึงควรเลือกทานอาหารที่เป็นประโยชน์อย่างกลุ่มวิตามินที่พบได้ในผลไม้ตระกูลส้ม และพวกคอลลาเจนที่พบได้จากเนื้อปลา เนื้อสัตว์ น้ำซุปกระดูก ไข่ขาว ผักใบเขียวเป็นต้น

การเพิ่มน้ำหนัก

ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเพิ่มไขมันในร่างกายทำให้ร่างกายมีน้ำมีนวล อวบอิ่มมากขึ้น แต่แน่นอนว่าก็ถือเป็นวิธีที่ไม่สามารถการันตีได้ว่าจะช่วยแก้หน้าตอบ แก้มตอบได้ไหมเพราะในบางคนอาจจะเกิดไขมันสะสมในส่วนอื่นเช่น ต้นขน ต้นแขนแทนใบหน้านั่นเอง

ทานวิตามิน

การทานวิตามินก็ถือเป็นอีกทางเลือกที่ดี ซึ่งในปัจจุบันก็ได้มียี่ห้อและชนิดของวิตามินให้เลือกอย่างหลากหลายตัว แต่ตัวที่แนะนำเลยก็คือกลุ่มวิตามินซี คอลลาเจน วิตามินรวมเป็นต้น เนื่องจากเป็นกลุ่มวิตามินที่มีความจำเป็นต่อผิวพรรณนั่นเอง

ใช้เทคนิคการแต่งหน้าลบหน้าตอบ

ใช้เทคนิคการแต่งหน้า

การแต่งหน้าก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการช่วยอำพรางปัญหาหน้าตอบ แก้มตอบได้ดี ซึ่งเทคนิคก็คือการใช้การปัดแก้มในลักษณะวงกลมในจุดโหนกแก้มด้วยสีโทนชมพู เพื่อเป็นลวงทำให้ใบหน้าดูเด็ก และมีลักษณะกลมน่ารักขึ้น

วิธีแก้หน้าตอบ แก้มตอบ แบบเร่งด่วน ด้วยวิธีทางการแพทย์

แน่นอนว่าการแก้ปัญหาหน้าตอบ แก้มตอบนั้นไม่ได้มีแค่วิธีแบบธรรมชาติที่จะต้องใช้ระยะเวลาในการดูแลตัวเองเท่านั้น แต่ในยุคนี้เราได้มีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยแก้ปัญหาหน้าตอบ แก้มตอบได้อย่างรวดเร็วนั่นก็คือ

เติมฟิลเลอร์แก้มตอบ

การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) หรือการฉีดสารไฮยารูรอนิค แอซิด (Hyaluronic acid) ซึ่งเป็นสารเติมเต็ม ที่ถูกสกัดมาจากธรรมชาติ มีลักษณะเป็นเนื้อเจลใสมีความคงตัวสูง และสามารถยึดเกาะผิวได้ดี ซึ่งตัวสารฟิลเลอร์นี้จะเข้าไปทำหน้าที่ในการเติมเต็มชั้นผิวที่ยุบตัวลงไป ทำให้ผิวมีความเต็มมากขึ้น โดยวิธีนี้จะใช้จำนวนฟิลเลอร์อยู่ที่ 1-2 CC ต่อข้างหรือขึ้นอยู่กับที่แพทย์ประเมิน

โดยมีข้อดีคือสามารถเห็นผลได้ทันทีหลังฉีด ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายและสามารถอยู่ได้นานถึง 6-12 เดือน ซึ่งในปัจจุบันก็ได้มียี่ห้อฟิลเลอร์ให้เลือกกันอย่างมากมาย เช่น Belotero, Juvederm, Restylane และ Neuramis เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเพราะสามารถทำได้ง่ายๆ และหากทำแล้วไม่พอใจผลลัพธ์ก็สามารถแก้ไขได้ง่ายกว่าวิธีอื่นๆ

ฟิลเลอร์แก้มตอบ

ฉีดไขมันที่แก้ม

การฉีดไขมันนั้นเป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีหลักการคล้ายคลึงกับการฉีดฟิลเลอร์แต่จะมีการเปลี่ยนตัวสารไฮยารูรอนิค แอซิดเป็นไขมันในร่างกายของคนไข้เอง ซึ่งวิธีนี้คนไข้จะต้องทำการดูดไขมันส่วนเกินออกจากจุดต่างๆ ของร่างกายก่อน เช่น ต้นแขน หน้าท้อง ต้นขา เป็นต้น และแพทย์จะนำไขมันดังกล่าวไปเข้าสู่กระบวนการปั่นเพื่อคัดกรองไขมันดีแล้วจึงนำไขมันดีนั้นมาฉีดเติมเต็มในบริเวณหน้าแก้ม

วิธีนี้หลังฉีดจะเกิดโอกาสในการแพ้ที่ต่ำมากๆ หรือแทบจะไม่เกิดขึ้นเลย แต่ก็มีข้อเสียคือมีราคาที่สูงและจะต้องเจ็บตัวในจุดที่ดูดไขมันออกมาอีกด้วยถือว่าเป็นการเจ็บตัวแบบ 2 ต่อ นอกจากนั้นหากน้ำหนักตัวลดลงก็อาจทำให้ไขมันเกิดการสลายตัวไปได้อีกด้วย

ผ่าตัดเสริมซิลิโคน

เป็นอีกวิธีในการใช้ซิลิโคนเกรดทางการแพทย์เข้ามาเสริมชั้นผิวในจุดที่แก้มตอบลง โดยวิธีนี้คนไข้จะต้องเข้าประเมินกับแพทย์เพื่อทำการออกแบบตัวซิลิโคนให้เหมาะสมกับร่องแก้มที่ยุบตัวลงไปเสียก่อน และด้วยเทคโนโลยีทำให้ในปัจจุบันจะใช้การผ่าตัดที่มีแผลในช่องปากแทนเลยทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแผลเป็น

แต่ก็มีข้อเสียคือหากดูแลตัวเองไม่ดีก็อาจก่อให้เกิดการเคลื่อนตัวของซิลิโคนจนทำให้เกิดการผิดรูปขึ้นได้เช่นกัน นอกจากนั้นหากทำแล้วไม่พึงพอใจในผลลัพธ์จะต้องทำการผ่าตัดแก้ไขใหม่ซึ่งถือเป็นการผ่าตัดที่ยากมากๆ

ร้อยไหมแก้มตอบ

วิธีนี้ถือเป็นอีกวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาแก้มตอบได้ ด้วยเทคนิคการใช้ไหมละลายในการร้อยเข้าไปในช่วงกะเปาะแก้มเพื่อดึงผิวขึ้นไปเต็มในส่วนหน้าแก้มให้ตึงขึ้นทำให้ช่วยอำพรางปัญหาหน้าแก้มตอบได้ดี ซึ่งวิธีนี้สามารถอยู่ได้นาน 1-3 ปี แต่ก็จะเหมาะกับผู้ที่มีเนื้อแก้มที่ค่อนข้างเยอะเท่านั้น ดังนั้นจึงควรเข้าปรึกษาแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง

ร้อยไหมแก้ม

สรุป

ปัญหาแก้มตอบ หน้าตอบนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุอย่างอายุที่มากขึ้น กรรมพันธุ์หรือการลดน้ำหนักแบบรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้ใบหน้าดูแก่ ดูไม่สดใส แต่ก็สามารถแก้ได้หลายวิธีอย่างวิธีที่เห็นนานที่สุดคือการผ่าตัดเสริมซิลิโคนและการฉีดไขมันที่จะสามารถเห็นผลได้อย่างถาวร แต่ก็มีอีก 2 วิธีอย่างการร้อยไหมที่สามารถอยู่ได้นาน 1-2 ปี และการฉีดฟิลเลอร์ที่ถึงแม้ว่าจะเห็นผลได้ 6-12 เดือนแต่ก็เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดนั่นเอง

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง