ผิวหนังไก่ คืออะไร? เกิดจากสาเหตุใด? มีวิธีรักษาแบบไหนได้บ้าง

ปัญหาผิวหนังไก่ วิธีแก้และรักษา

ปัญหาผิวหนังไก่ถือเป็นอีกหนึ่งสภาพผิวที่เชื่อว่าใครๆ ก็คงไม่อยากจะมีกันอย่างแน่นอน เพราะมันทำให้เกิดผิวไม่เรียบเนียน และไม่สวยงามเอาเสียเลย ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังมีปัญหาผิวหนังไก่มาคอยกวนใจจนพาลทำเอาหมดความมั่นใจในการแต่งตัวอยู่ละก็ ในบทความนี้เราได้รวบรวมถึงสาเหตุและวิธีแก้ปัญหาผิวหนังไก่มาไว้ให้แล้ว

รู้จักกับสภาพผิวหนังไก่ คืออะไร?

สภาพผิวหนังไก่ คืออะไร

คือลักษณะผิวที่มีความไม่เรียบเนียน เมื่อสัมผัสจะรู้สึกถึงความสากๆ และมีตุ่มนูนแดงขึ้นมา ถือเป็นสภาพผิวที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการที่ผิวถูกทำร้ายด้วยการถูกแรงถึงกระชากจนทำให้ผิวเกิดลักษณะไม่เรียบเนียน สวยงามนั่นเอง

ผิวหนังไก่ เกิดจากสาเหตุอะไร

สาเหตุการเกิดปัญหาผิวหนังไก่นั้นเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยที่จะเข้ามาเป็นตัวกระตุ้น แต่หากจะให้พูดถึงสาเหตุส่วนใหญ่นั้นจะพบได้ 3 สาเหตุด้วยกัน ดังนี้

ผิวหนังไก่ เกิดจากอะไร
  • การอักเสบจากแรงเสียดสีของผิวหนัง
    ไม่ว่าจะเป็นการกำจัดขนที่ผิดวิธี เช่นการถอนขน การแว็กซ์ขน การโกนขน ที่จะเป็นตัวการทำให้รูขุมขนเกิดการอักเสบและขยายตัวจนทำให้เกิดผิวที่ไม่เรียบเนียนเกิดขึ้นนั่นเอง
  • การอักเสบจากการแพ้สารเคมี
    สารเคมีบางตัวก็อาจก่อให้เกิดอาการอักเสบของผิวจนทำให้เกิดความผิดปกติของเซลล์ผิวหนังขึ้นได้ จนทำให้รูขุมขนเกิดการขยายตัว หรือในบางรายอาจทำให้เส้นขนใหม่ไม่สามารถงอกขึ้นมาได้จนทำให้เกิดการอักเสบเป็นตุ่มหนองคล้ายสิวเกิดขึ้น
  • เกิดจากระบบฮอร์โมนในร่างกาย
    ระบบฮอร์โมนถือเป็นตัวแปรสำคัญของร่างกายมนุษย์อย่างมากเลยทีเดียวโดยเฉพาะในเพศหญิงที่อยู่ในช่วงกำลังเข้าสู่วัยรุ่น ที่ร่างกายจะมีการปรับเปลี่ยนระบบฮอร์โมนอย่างมากซึ่งในบางรายอาจไปกระตุ้นทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตันจนทำให้เกิดปัญหาผิวหนังไก่ขึ้นได้เลยทีเดียว

ลักษณะของผิวหนังไก่ เป็นอย่างไร?

ลักษณะของผิวหนังไก่คือผิวหนังที่มีความไม่เรียบเนียน มีตุ่มนูนแดงโผล่ขึ้นมาในบางรายจะมีลักษณะที่สามารถเห็นรูขุมขนของผิวหนังที่ชัดเจนหรือรูขุมขนกว้างมากๆ จนทำให้มีลักษณะเหมือนกับผิวหนังของไก่ตอนที่ไม่มีขน จึงทำให้ถูกเรียกสั้นๆ ว่าผิวหนังไก่ นั่นเอง

ผิวหนังไก่พบได้ที่ส่วนไหนของร่างกายบ้าง

สภาพผิวหนังไก่นั้นในความเป็นจริงแล้วสามารถเกิดขึ้นได้หลายตำแหน่งไม่ว่าจะเป็นแขน ขน แก้มก้น และอีกจุดที่สามารถพบได้บ่อยและง่ายที่สุดก็คือบริเวณรักแร้ หรือที่เรียกว่ารักแร้หนังไก่ มักเกิดจากการกำจัดขนรักแร้แบบผิดวิธีด้วยการใช้การถอนขน แว็กซ์ขนหรือโกนขนรักแร้นั่นเอง

ผิวหนังไก่มีกี่ประเภท

ในปัจจุบันผิวหนังไก่สามารถจำแนกออกได้เป็นทั้งหมด 4 ประเภทด้วยกัน ซึ่งในแต่ละประเภทนั้นจะมีความเหมือนและความแตกต่างกันดังนี้

  • มีรอยจุดสีแดงเกิดขึ้นบนผิวที่มีความเรียบเนียน
    ถือเป็นลักษณะประเภทของผิวหนังไก่ที่สามารถพบได้ในกลุ่มคนที่เพิ่งเป็นในระยะแรก เนื่องจาก อาการอักเสบของผิวจะมีแค่เป็นรอยแดงเล็กๆ เกิดขึ้น แต่สภาพผิวยังมีความเรียบเนียน ซึ่งในประเภทนี้ถือเป็นประเภทที่ทำการรักษาได้ง่ายที่สุดด้วยการทาครีมบำรุงหรือการใช้ยาทาผิว
  • มีรอยจุดสีแดงเกิดขึ้นบนผิวที่มีความไม่เรียบเนียน
    ผิวหนังไก่ประเภทนี้ถือเป็นลักษณะอาการอักเสบของผิวที่มีความรุนแรงในระดับที่ 2 โดยอาการจะมีรอยแดงเล็กๆ เกิดขึ้นร่วมกับสภาพผิวที่เริ่มมีความขรุขระไม่เรียบเนียน ซึ่งจะสามารถใช้การทายาและทาครีมเพื่อช่วยรักษาเบื้องต้นได้แต่จะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาที่นานมากยิ่งขึ้น
  • มีรอยจุดสีน้ำตาลเกิดขึ้นบนผิวที่มีความเรียบเนียน
    ประเภทนี้จะเปลี่ยนจากจุดสีแดงเป็นสีน้ำตาลแต่ยังมีสภาพผิวที่เรียบเนียนอยู่ ซึ่งในประเภทนี้สามารถใช้ตัวกรดซิตริกในการเข้าช่วยเพื่อลดรอยสีน้ำตาลให้จางลงได้
  • มีรอยจุดสีน้ำตาลเกิดขึ้นบนผิวที่มีความไม่เรียบเนียน
    ถือเป็นประเภทที่มีการรักษาที่ยากที่สุด เนื่องจากจะมีรอยจุดสีน้ำตาล ร่วมกับสภาพผิวขรุขระไม่เรียบเนียนซึ่งวิธีนี้จะรักษาด้วยการพบแพทย์เพื่อทายาในการรักษาหรือใช้แสงเลเซอร์ในการเข้าช่วยลบรอยสีน้ำตาลและปรับผิวให้กลับมาเรียบเนียนขึ้น

ใครมีโอกาสเกิดหนังไก่ได้บ้าง

  • ผู้ที่มีพฤติกรรมการกำจัดเส้นขนด้วยการถอนขน แว็กซ์ขนและโกนขน
  • เพศหญิงที่อยู่ในช่วงกำลังเข้าสู่วัยรุ่น
  • ผู้ที่มีสภาพผิวแห้ง
  • ผู้ที่มีประวัติโรคภูมิแพ้
  • อยู่ที่อาศัยอยู่พื้นที่อากาศเย็น
  • ผู้ที่ชอบสวมใส่เสื้อผ้ารัดรูปจนทำให้เกิดการเสียดสีของผิว

ผิวหนังไก่ส่งผลเสียอย่างไรบ้าง

การมีสุขภาพผิวหนังไก่นั้นไม่เพียงแต่จะส่งผลต่อความมั่นใจและความสวยงามของผิวพรรณในร่างกายเท่านั้น แต่ยังส่งผลในด้านของความรู้สึก เนื่องจากในบางรายอาจมีอาการ แสบ คัน หรือรู้สึกระคายเคืองผิวได้ตลอดเวลาร่วมด้วย

วิธีแก้ผิวหนังไก่ รักษาด้วยวิธีไหนได้บ้าง

แน่นอนว่าสภาพผิวหนังไก่นั้นสามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยหลายวิธีด้วยกันซึ่งแต่ละวิธีก็จะมีข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกันออกไปดังนี้

สครับผิว

สครับผิวหนังไก่

การขัดหรือสครับผิวจะช่วยในเรื่องการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกให้หลุดออกซึ่งจะทำให้พวกตุ่มหรือสภาพผิวหนังไก่ค่อยๆ หายไปทีละนิด ซึ่งถือเป็นวิธีที่ง่ายสามารถทำเองได้ที่บ้าน มีค่าใช้จ่ายที่น้อยและจะต้องใช้ระยะเวลาที่นานกว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ซึ่งข้อแนะนำคือควรทำอย่างสม่ำเสมออาทิตย์ละ 2 ครั้งและควรขัดผิวอย่างเบามือเพื่อป้องกันอาการระคายเคืองผิว

ทาครีมบำรุงผิว

การทาครีมบำรุงผิวให้มีความชุ่มชื้นขึ้นนั้นจะช่วยทำให้ผิวของเรามีความยืดหยุ่นและทำให้รูขุมขนของเรากระชับมากยิ่งขึ้น และยังช่วยป้องกันปัญหาผิวแห้งหยาบกร้านได้ดีอีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันก็มีผลิตภัณฑ์ครีมทาผิวกายให้เลือกหลากหลายตัวไม่ว่าจะเป็นแบบครีม แบบออยล์ แบบบอดี้บัตเตอร์หรือแบบบอดี้โลชั่น

3. ใช้ยาทาแก้หนังไก่

การทายาถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาหนังไก่ได้ดีมากๆ โดยส่วนใหญ่แล้วยาที่ใช้จะเป็นจะเป็นกลุ่มเรตินเอ หรือกลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ ที่มีความเข้มข้นอยู่ที่ 0.05% หรือ 0.025% แต่ทั้งนี้วิธีนี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เนื่องจากตัวสารเรติเอนั้นสามารถก่อให้เกิดอาการระคายเคืองที่ผิวได้ง่ายมากๆ

งดโกนและถอนขน

การหยุดพฤติกรรมกำจัดขนแบบการโกนขนหรือถอนขนนั้นก็ถือเป็นป้องกันโอกาสการเกิดปัญหาผิวหนังไก่ที่ดีมากๆ เนื่องจากปัญหาส่วนใหญ่ของการเกิดขนคุดนั้นก็จะมาจากการถอนหรือโกนขน รวมไปถึงการแว็กซ์ขนนั่นเอง

งดอาบน้ำร้อน

การอาบน้ำจะยิ่งทำให้สภาพผิวมีความแห้งและหยาบกร้านมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดปัญหาหนังไก่ได้ง่ายกว่าปกติมากๆ ดังนั้นควรเลือกอาบน้ำในอุณหภูมิปกติ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีฤทธิ์ความเป็นกรดต่ำ หรือเลือกใช้ครีมอาบน้ำแบบออยล์ที่จะทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นและไม่แห้งตึงอีกด้วย

ทำเลเซอร์ผิว

การทำเลเซอร์ผิวนั้นถือเป็นทั้งวิธีการรักษาและการป้องกันการเกิดหนังไก่ที่ดีมากๆ เนื่องจากแสงพลังงานของเลเซอร์ที่นอกจากจะช่วยกำจัดเส้นขนให้หลุดร่วงไปแบบง่ายดายโดยไม่ต้องพึ่งการโกนหรือถอนขนแล้ว ตัวพลังงานเลเซอร์ยังมีส่วนสำคัญในการช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวทำให้ผิวมีความเรียบเนียนและช่วยลดรอยแดง รอยน้ำตาลได้ดีมากๆ อีกด้วย

Long Pulse ND Yag laser รักแร้ผิวหนังไก่

ซึ่งตัวเครื่องเลเซอร์ที่เหมาะกับคนเอเชียที่สุดก็คือ เครื่อง Long Pulse ND Yag laser ที่มีค่าพลังงานที่สูงถึง 1,064 นาโนเมตรที่สามารถทำได้ทั้งการกำจัดขน ช่วยลดเม็ดสีเมลานินในผิว ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนทำให้ผิวเรียบเนียน ที่สามารถเห็นผลไว เห็นผลนานและเหมาะกับทุกสภาพขน และทุกสีขน ทั้งยังมีความพิเศษที่มาพร้อมกับระบบ Dynamic Cooling Device ที่จะช่วยทำให้ระหว่างทำรู้สึกเย็นสบายอีกด้วย

สรุป

ปัญหาผิวหนังไก่สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การอักเสบของผิวหนังหรือแม้การการกำจัดขนด้วยการถอนขน โกนขน แว็กซ์ขน ซึ่งปัญหาหนังไก่นั้นก็ได้มีวิธีการรักษาที่หลายวิธีด้วยกันทั้งแบบการทาโลชั่นบำรุงผิว การทายา รวมไปถึงการเลเซอร์ที่จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ดีและไวกว่าวิธีอื่นๆ หลายเท่า

ดังนั้นหากใครที่กำลังประสบปัญหาหนังไก่ มีผิวไม่เรียบเนียนอยู่สามารถเข้ามาปรึกษาที่กังนัมคลินิกเพื่อให้คุณหมอช่วยตรวจและหาวิธีการรักษาได้อย่างตรงจุดและเห็นผลไว สนใจสอบถามรายละเอียดและข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ Line : @gnagnamclinic

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง