ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล ควรเติมฟิลเลอร์อีกเมื่อไหร่หลังฉีด
หลายๆคนคงกำลังกังวลถึงผลลัพธ์สำหรับการฉีด ออกมาแล้วสวยเป๊ะหรือเปล่า? จะได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยจริงหรือเปล่า? วันนี้กังนัมคลินิก จะมาตอบข้อสงสัยทั้งหมดให้กระจ่าง รวมถึงเผยทริคเด็ดในการที่จะทำให้ฟิลเลอร์ใต้ตาคงสภาพสมบูรณ์ที่สุด และอยู่กับเราได้นานขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันเห็นผล
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถเห็นผลถึงการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีด แต่จะให้ฟิลเลอร์มีสภาพคงตัวเต็มที่ ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ – 1 เดือนเป็นอย่างต่ำ ส่วนระยะเวลาการคงสภาพของฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานเท่าไหร่ โดยส่วนใหญ่สามารถคงสภาพได้นาน 6 -24 ขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อ เช่น ฟิลเลอร์ Juvederm อยู่ได้นาน 24 เดือน หรือ ฟิลเลอร์ Belotero อยู่ได้นาน 18 เดือน เป็นต้น
อีกทั้งการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะช่วงแรกหลังฉีด ที่ฟิลเลอร์กำลังค่อยๆ เติมเต็มใต้ตา ก็ช่วยให้ฟิลเลอร์แสดงผลลัพธ์ที่สมบูรณ์และอยู่กับเรานานขึ้น
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อาการปกติที่เจอมีอะไรบ้าง
ผลลัพธ์และอาการที่พบได้หลังฉีดฟิลเลอร์ ได้แก่ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน ถือเป็นเรื่องปกติที่ผู้ฉีดต้องเจอแต่ในผู้ฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรกก็อาจทำให้เกิดความกังวลใจได้ ดังนั้นแล้ว อาการเบื้องต้นอาจมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันในบริเวณที่ฉีด ถือเป็นเรื่องปกติ โดยอาการดังกล่าวจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน และจะหายเป็นปกติภายใน 1-2 สัปดาห์ ซึ่งอาการในลักษณะนี้ ดูแลง่าย เพียงแค่หลีกเลี่ยงการ แกะ เกา ขยี้ หรือกดนวดบริเวณที่ฉีด ก็จะไม่มีอาการอันไม่พึงประสงค์อื่นๆ ตามมา
วิธีปฎิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้หายบวมช้ำเร็วขึ้น ต้องทำอะไรบ้าง
- รับประทานยาตามที่แพทย์จ่ายให้ครบ อย่างเคร่งครัด
- หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ดื่มน้ำให้มากๆ อย่างน้อยวันละ 1-2 ลิตร เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวเร็วขึ้น
- งดออกกำลังกาย หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 48 ชั่วโมง
- งดการนวดคลึงบริเวณรอบดวงตาแรงๆ หลังฉีดฟิลเลอร์
- งดแต่งหน้า หรือทาครีมบำรุงผิว หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 12 ชั่วโมง
- งดนอนราบหลังฉีดฟิลเลอร์ 3-4 ชั่วโมง
- งดการจับ หรือเกาบริเวณใต้ตา เพราะจะทำให้ตำแฟน่งฟิลเลอร์เคลื่อนที่ ผิดรูป
- หลีกเลี่ยงการทำทรีทเม้นผิวหน้า รอบดวงตาอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการโดนความร้อน เช่น การเลเซอร์ การซาวน่า อบไอน้ำผม หรือกิจกรรมต่างๆ ที่ความร้อนกระทบรอบดวงตา เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วขึ้น
- งดดื่มแอลกอฮอล์ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพราะมีส่วนกระตุ้นให้ผิวอักเสบ และอาการบวมหายช้ากว่าปกติ
เลือกฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างไร ให้เหมาะกับตัวเองที่สุด
ก่อนที่จะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ผู้ที่สนใจจะต้องรู้คุณสมบัติของฟิลเลอร์อย่างละเอียดก่อน เพื่อที่จะได้เลือกใช้ฟิลเลอร์ได้เหมาะสมกับปัญหารอบดวงตาของตัวเองมาที่สุด โดยฟิลเลอร์ใต้ตาต้องมี 3 คุณสมบัติดังนี้
- การกระจายตัวของฟิลเลอร์
คุณสมบัตินี้จะใช้พิจารณาเพื่อดูว่าผิวแบบไหนควรเลือกฉีดฟิลเลอร์แบบใดเพื่อไม่ให้ฟิลเลอร์เป็นก้อน เพราะการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาต้องกระจายตัวให้เข้ากับผิวอันบอบบางรอบ ๆ บริเวณที่ฉีด - ความแข็งและยืดหยุ่นของฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ใต้ตาต้องการความยืดหยุ่นสูง เนื่องจากบริเวณที่ฉีดขยับบ่อย ๆ อย่างกระพริบตา ยิ้ม ขมับ และคิ้วที่ยกขึ้นลงระหว่างวัน - ขนาดของเม็ดฟิลเลอร์
การเลือกฟิลเลอร์ใต้ตา ต้องพิจารณาถึงขนาดของเม็ดฟิลเลอร์ ที่จะต้องมีขนาดเม็ดเล็กละเอียด เพราะฉีดในบริเวณที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง
ฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดใต้ตา แต่ละยี่ห้ออยู่ได้นานเท่าไหร่
ซึ่งการแก้ไขปัญหาใต้ตาด้วยฟิลเลอร์ หมอจะเลือกฟิลเลอร์ที่มีเนื้อละเอียด มีความนิ่ม ให้เหมาะกับผิวหนังอันบอบบางของบริเวณใต้ตามากที่สุด มีอยู่ 3 ยี่ห้อ ดังนี้
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Restylane ของสัญชาติสวีเดน
ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากแพทย์ทั่วโลก ที่ผลิตมาอย่างยาวนานโดยบริษัท Galderma ที่ครอบครอง 2 เทคโนโลยีอันโดดเด่นได้แก่ NASHA techology และ OBT technology ซึ่งรุ่นของฟิลเลอร์ Restylane ที่เหมาะสำหรับฉีดใต้ตามี 4 รุ่นดังนี้
Restylane Perlane Lyft
| ลักษณะฟิลเลอร์ | เหมาะกับใคร | อยู่ได้นานเท่าไหร่ |
|---|---|---|
| -เนื้อฟิลเลอร์จะมีจำนวนพันธะที่มาก -เป็นเม็ดละเอียด -คงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด -มีส่วนผสมของยาชา | ผู้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อเติมเต็มร่องลึก | 12 เดือน |
Restylane Defyne
| ลักษณะฟิลเลอร์ | เหมาะกับใคร | อยู่ได้นานเท่าไหร่ |
|---|---|---|
| -เนื้อเจลแข็งปานกลาง -มีความยืดหยุ่นและอุ้มน้ำได้ดี -มีส่วนผสมของยาชา | ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยลึกที่เกิดจากการยิ้ม ทำให้บริเวณปลายหางตามีรอยขีดเยอะ | 18 เดือน |
Restylane Vital Light
| ลักษณะฟิลเลอร์ | เหมาะกับใคร | อยู่ได้นานเท่าไหร่ |
|---|---|---|
| -เนื้อละเอียดมากที่สุด -เนื้อเจลอนุภาคเล็ก -มีส่วนผสมของยาชา | ผู้ที่ต้องการฟิลเลอร์เพื่อเก็บรายละเอียดใต้ตา ผิวชั้นตื้น | 6-12 เดือน |
Restylane Classic
| ลักษณะฟิลเลอร์ | เหมาะกับใคร | อยู่ได้นานเท่าไหร่ |
|---|---|---|
| -เนื้อเจลอนุภาคใหญ่ -เป็นเม็ดละเอียด -คงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด -มีส่วนผสมของยาชา | ใช้สำหรับฉีดเติมเต็มส่วนที่โหลลึกของบริเวณรอบดวงตา | 12 เดือน |
ฟิลเลอร์ใต้ต้า ยี่ห้อ Juvederm ของประเทศอเมริกา
นำเข้าโดยบริษัท Allergan Thailand (DSKH) อีกหนึ่งฟิลเลอร์ที่นิยมใช้กับการฟิลเลอร์ใต้ตา โดยมีคุณสมบัติอันโดดเด่นได้แก่
- เนื้อฟิลเลอร์จะมี Crosslink ทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
- สลายช้าลง อุ้มน้ำน้อยลง
- มีความเรียบเนียน
- ทำให้ฉีดแล้วไม่ฟูมาก
- มีความยืดหยุ่นสูง
- ทนต่อการขยับได้ดี
โดยฟิลเลอร์ Juvederm ที่เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา มี 3 รุ่นดังนี้
Juvederm Volite
| ลักษณะฟิลเลอร์ | เหมาะกับใคร | อยู่ได้นานเท่าไหร่ |
|---|---|---|
| เนื้อละเอียด ใช้เติมเต็มใต้ตาในระดับที่ตื้น | ผู้ที่มีผิวบางแต่ไม่มากเกินไป | 8-12 เดือน |
Juvederm Voluma
| ลักษณะฟิลเลอร์ | เหมาะกับใคร | อยู่ได้นานเท่าไหร่ |
|---|---|---|
| เนื้อแข็ง ฟูปานกลาง ยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำและให้ความเป็นธรรมชาติ | ผู้ที่ต้องการเติมเต็มใต้ตาให้ดูอิ่มฟู เนียนรับกับบริเวณขมับและรูปหน้า | 18 เดือน |
Juvederm Volux
| ลักษณะฟิลเลอร์ | เหมาะกับใคร | อยู่ได้นานเท่าไหร่ |
|---|---|---|
| เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นและคงตัว | ผู้ที่ตาโหล ใต้ตาลึก เพื่อฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก | 18-24 เดือน |
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Belotero ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์
เป็นฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติเพื่อนำมาแก้ปัญหาใต้ดวงตาอย่างแท้จริง ด้วยคุณสมบัติที่ครอบถ้วน ได้แก่ มีความยืดหยุ่นและคงตัว โดยรุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มี 2 รุ่นดังนี้
Belotero Volume
| ลักษณะฟิลเลอร์ | เหมาะกับใคร | อยู่ได้นานเท่าไหร่ |
|---|---|---|
| เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นและคงตัว | ผู้ที่มีผิวใต้ตาลึกมาก | 18 เดือน |
Belotero Soft
| ลักษณะฟิลเลอร์ | เหมาะกับใคร | อยู่ได้นานเท่าไหร่ |
|---|---|---|
| เนื้อละเอียด | ผู้ที่มรผิวบริเวณรอบดวงตาเหี่ยวย่น มีรอยเยอะ และต้องการแก้ไขเรียบเนียน | 6-12 เดือน |
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับผลลัพธ์ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
คำถาม : หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เอามือคลำแล้วเจอไตแข็ง เกิดจากอะไร
คำตอบ : อาการบวม คลำแล้วเป็นก้อน สามารถเกิดขึ้นได้ในช่วง 7 – 14 วันหลังฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งถือว่าเป็นอาการที่พบได้เป็นปกติ แต่หากนานวันเข้าอาการเหล่านั้นยังไม่หายไป ผิวใต้ตายังเป็นก้อน ไม่กระจายตัวอย่างที่ควรเป็น สาเหตุหลักๆ ที่มักเกิดขึ้นมีดังนี้
- ฉีดฟิลเลอร์ปลอม
- แพทย์ไม่เชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- เลือกใช้ชนิดของฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม
คำถาม : หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรงดกินอะไรบ้าง
คำตอบ : ควรงดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ผิวที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์มาเกิดอาการบวมนานกว่าปกติ และจะทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น
คำถาม : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยเรื่องตาคล้ำจากภูมิแพ้ได้ไหม
คำตอบ : ได้ และทำได้ดีเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ที่เป็นภูมิแพ้ มักจะมีขอบตาคล้ำ อันเนื่องมาจากน้ำมูกที่ไหลเป็นประจำไปขัดขวางการไหลเวียนของหลอดเลือดดำ ดังนั้น การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะช่วยปกปิดความคล้ำทันทีหลังทำ และจะช่วยให้หน้าดูกระจ่างใสขึ้น
คำถาม : มีถุงใต้ตา ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้หรือไม่
คำตอบ : สามารถฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อแก้ปัญหาถุงใต้ตาได้ โดยจะใช้วิธีฉีดเพื่อดันไขมันบริเวณใต้ตากลับลงไป หรือจะฉีดเพื่อปรับแต่งให้บริเวณใต้ตาเรียบเนียนขึ้นย่อมทำได้เช่นกัน
คำถาม : ถ้าฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วไม่ชอบ สามารถสลายได้ไหม
คำตอบ : สามารถทำได้ โดยการใช้สาร Hyaluronidase ฉีดเพื่อสลายฟิลเลอร์ แต่ฟิลเลอร์ที่ฉีดไปจะต้องเป็นฟิลเลอร์แท้ หรือสารชนิด ไฮยาลูโรนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) จึงจะฉีดและสลายออกได้ แบบ 100%
สรุป
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หากต้องการผลลัพธ์ที่ไวและดีที่สุด รวมถึงอยู่กับเราได้นานขึ้น นอกจากเรื่องของการดูแลตัวเอง และเลือกฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับตัวเองแล้ว การเลือกคลินิกที่พร้อมด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยเฉพาะก็เป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นแล้ว หากผู้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่เหมาะกับปัญหามากที่สุด และมีประสิทธิภาพสูงสุด สามารถเข้ามาปรึกษาพวกเราได้ที่ Gangnam clinic หรือแอดไลน์Line: @gangnamclinic เพื่อนัดหมาย/ ปรึกษา และขอรับบริการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้ที่กังนัมคลินิกทั้ง 20 สาขาทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล
