Hyaluronic Acid คืออะไร มีประโยชน์และช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

Hyaluronic Acid คือ

Hyaluronic acid (ไฮยาลูโรนิด แอซิดหรือกรดไฮยาลูโรนิค) เป็นสารที่เราคุ้นหูกันบ่อยๆ อาจเคยเห็นว่าเป็นส่วนผสมหลักของครีมบำรุงผิวโดยใช้ชื่อว่า ไฮยาลูรอน  นอกจากนี้ยังเป็นสารเติมเต็มฉีดเข้าโดยตรงที่ผิวหน้าเพื่อเติมความชุ่มชื้น หรือแม้แต่วิตามินบางตัวก็เคลมว่ามีส่วนผสมของสารไฮยาลูโรนิคแอซิดด้วย

เคยสงสัยไหมว่า จริงๆแล้วสารนี้มาจากไหน?  มีประโยชน์อะไรบ้าง? บทความนี้จะมาเปิดโลกไฮยาลูโรนิคแอซิด สารที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกยอมรับว่าเป็นเคล็บลับชะลอวัย

Hyaluronic Acid คืออะไร?

hyaluronic acid (HA) เป็นที่รู้จักกันในชื่อ ไฮยาลูรอน คือ สารธรรมชาติที่ร่างกายสร้างขึ้นเอง ประกอบด้วยโมเลกุลน้ำตาลสายยาวพันเกี่ยวกัน (polysaccharide) ลักษณะเป็นเจลหนืดอุ้มน้ำ ไม่จับตัวรวมกับน้ำตาลกลุ่มอื่นๆ โดยกระจายอยู่ทั่วไปในเนื้อเยื่อส่วนต่างๆของร่างกาย พบมากที่สุดที่กระดูกข้อต่อ ผิว เส้นผม รองลงมาคือ ดวงตา ริมฝีปากและเหงือก

โดยปกติรูปแบบธรรมชาติของกรดไฮยาลูโรนิคสามารถละลายน้ำได้โดยจะมีเอมไซม์ชนิดหนึ่ ทำให้ HA ตามธรรมชาตินี้มีอายุอยู่ได้เฉลี่ย 24 วันเท่านั้น และร่างกายของมนุษย์จะทำการผลิต HA ออกมาได้น้อยลงเมื่ออายุเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคนที่มีอายุเยอะจะมีปัญหาผิวแห้งได้มากกว่ากลุ่มวัยรุ่นและวัยกลางคน

Hyaluronic-acid-คืออะไร

Hyaluronic acid หรือ กรดไฮยาลูรอน มีหน้าที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น สร้างเส้นใยอิลาสตินในผิวเพื่อให้คอลลาเจนเกาะได้มากขึ้น ทำให้ผิวแข็งแรงและชุ่มชื้นซึ่งเป็นคีย์หลักของศาสตร์ชะลอวัย นักวิทยาศาตร์ถึงกับกล่าวว่า ไฮยาลูรอนคือมอยเจอร์ไรเซอร์ธรรมชาติ ด้วยจุดเด่นอุ้มน้ำได้ดีนี้จึงมีการสังเคราะห์กรดไฮยาลูรอนขึ้นมาเลียนแบบธรรมชาติแต่ยืดอายุให้คงอยู่ในเนื้อเยื่อของเราได้นานขึ้น HA จึงเป็นสารประกอบสำคัญในฟิลเลอร์ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน โดยมีคุณสมบัติสำคัญ คือ เติมเต็มร่องลึก ชะลอการเกิดริ้วรอย เติมน้ำในผิวทำให้ผิวชุ่มชื้นเรียบเนียน

คุณสมบัติที่สำคัญของกรดไฮยาลูรอน Hyaluronic Acid (HA)

คุณสมบัติของ Hyaluronic Acid (HA)
  • ไฮยาลูรอน มีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดีมากจึงนิยมใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
  • ไฮยาลูรอนช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่
  • ไฮยาลูรอน ช่วยสร้างเส้นใยอิลาสตินสำหรับตรึงคอลลาเจน ทำให้ผิวอิ่มฟูอุ้มน้ำ
  • ไฮยาลูรอนในฟิลเลอร์ถูกออกแบบให้มีขนาดโมเลกุลที่หลากหลาย ขนาดโมเลกุลเล็กจะช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก ส่วนเมโลกุลใหญ่จะช่วยเติมเต็มน้ำในผิวให้ผิวชุ่มชื้นเรียบเนียน

Hyaluronic Acid อยู่ในรูปแบบผลิตภัณฑ์อะไรบ้าง?

ไฮยาลูโรนิคแอซิดในปัจจุบันมี 3 รูปแบบดังนี้

  1. เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ทาผิวหน้า ครีมบำรุงผิว มอยเจอร์ไรเซอร์ จะใส่ไฮยาลูรอนมีความเข้มข้น 0.25% ถึง 2.00%
  2. หัตถการทางความงาม เช่น หัตถการเมโส และหัตถการฟิลเลอร์ ซึ่งฟิลเลอร์ถือเป็นสารที่มีไฮยาลูรอนเข้มข้น มีขนาดโมเลกุลที่หลากหลายสำหรับฉีดเข้าผิวหน้าโดยตรงเพื่อแก้ไขปัญหาใบหน้าแบบเฉพาะจุด ใช้แพร่หลายในคลินิกความงามภายใต้การดูแลของแพทย์
  3. รูปแบบวิตามินเสริม สามารถกินได้ มักใช้ในกลุ่มคนไข้ที่มีปัญหากระดูกและข้อ ภายใต้การดูแลของแพทย์ สามารถกินเสริมได้วันละ 80-200 มิลลิกรัม

ประโยชน์ของ Hyaluronic Acid

หากจะให้พูดถึงคุณประโยชน์สำคัญของสาร Hyaluronic Acid นั้นก็ถือว่าสามารถใช้ได้ทั้งในเรื่องของการรักษาผิวและการรักษาโรค ดังนี้

ประโยชน์ของ Hyaluronic Acid ต่อผิวพรรณ

  • ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึก : ไม่ว่าจะเป็นรอยตีนกา ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ริ้วรอยหน้าผาก
  • ช่วยรักษาปัญหาการยุบตัวของกระดูก : อย่างปัญหาขมับตอบ กระดูกใต้ตายุบตัวลงทำให้เกิดปัญหาตาลึก ตาโหลเป็นต้น
  • ช่วยปรับรูปหน้า : เช่นใช้ในการเสริมความยาวให้คาง เสริมริมฝีปากให้อวบอิ่มมากยิ่งขึ้น
  • ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น : เนื่องจากตัวสาร Hyaluronic Acid จะเข้าไปช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น
  • ช่วยปรับผิวให้มีความเรียบเนียน : เช่น การฉีดเติมเพื่อแก้ปัญหาหลุมสิว เป็นต้น

ประโยชน์ของ Hyaluronic Acid ในการรักษาโรค

ปัจจุบันได้มีการนำตัวสาร Hyaluronic Acid เข้ามาเป็นส่วนช่วยในการรักษาโรคบางชนิดได้ ดังนี้

  • รักษาแผลในปาก ทำให้แผลสมานตัวกันไวมากยิ่งขึ้น
  • รักษาโรคข้อเข่าเสื่อม
  • ช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อส่วนบริเวณข้อต่อได้ดี
  • ช่วยบรรเทาอาการตาแห้ง
  • ช่วยรักษาอาการต้อกระจก

Hyaluronic Acid อันตรายไหม?

ไฮยาลูรอนเป็นสารที่ค่อนข้างปลอดภัย อัตราการแพ้ต่ำ สามารถทดสอบได้บนผิวหนัง บางรายอาจแพ้โปรตีนที่สังเคราะห์สารไฮยาลูรอน ไฮยาลูรอนไม่แนะนำให้ใช้ในกลุ่มสตรีมีครรรภ์รวมถึงสตรีอยู่ระหว่างให้นมบุตร รวมถึงกลุ่มผู้ป่วยมะเร็ง จากงานวิจัยพบว่ามะเร็งอาจโตหรือลุกลามได้หากมีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอน

ฉีดสารไฮยาลูรอน ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

ไฮยาลูรอน ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
  1. ไฮยาลูรอน (HA) มีส่วนสำคัญในการเติมเต็มร่องลึกในผิว ให้กลับมาเนียนเรียบและสดใสอีกครั้ง
  2. ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว สร้างอิลาสตินใหม่ให้ผิวแข็งแรง กรดไฮยาลูโรนิคแอซิด ทั้งที่เกิดเองตามธรรมชาติหรือมาจากฟิลเลอร์ กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ในผิว แม้ฟิลเลอร์ที่ฉีดไปจะสลายตามอายุของยาแต่คอลลาเจนที่ถูกสร้างแล้วจะยังคงอยู่ ดังนั้นผลลัพธ์ของคนไข้หลังฉีดฟิลเลอร์แม้ยาจะสลายไปแล้วแต่ผิวจะกระชับขึ้นกว่าตอนที่ยังไม่เคยฟิลเลอร์ค่ะ
  3. มีส่วนช่วยในการรักษา ฟื้นฟูและสมานร่องรอยของแผลบนผิวหน้าให้หายเร็วขึ้น กรณีคนไข้เคยฉีดฟิลเลอร์เติมความชุ่มชื้นให้ผิวมาก่อนแล้วไปเลเซอร์ผิวหน้า หลังเลเซอร์ผิวลอกตกสะเก็ด กรดไฮยาลูโรนิคจะช่วยให้ผิวกลับมาสมานกันได้เร็วขึ้น
  4. ช่วยในการสมานกระดูกข้อต่อต่างๆในร่างกาย อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น นอกจาก HA จะพบมากในผิวหนังแล้ว ยังพบมากในข้อต่อกระดูกด้วย ทำงานร่วมกับคอลลาเจนช่วยให้กระดูกอ่อน ข้อต่อต่างๆแข็งแรงขึ้นไม่บาดเจ็บง่ายและไม่มีเสียงเวลาเคลื่อนไหว
  5. มีส่วนช่วยในการชะลอการเกิดริ้วรอยบนผิวหน้า เพราะสาร HA ที่ฉีดเข้าไปกระตุ้นการสร้างอิลาสตินและคอลลาเจนใหม่ ทำให้ริ้วรอยใหม่เกิดช้าลงนั่นเอง
  6. ช่วยลดอาการผิวหนังลอก เป็นขุย หรือผิวหนังอักเสบ เพราะไฮยาลูรอนมีคุณสมบัติเติมน้ำในผิว ทำให้ผิวชั้นนอกชุ่มชื้น ลดอาการผิวเป็นขุยอย่างเห็นได้ชัด
  7. มีส่วนช่วยทำให้ผิวที่คล้อยดูกระชับขึ้น เพราะคุณสมบัติอุ้มน้ำและยืดหยุ่นของไฮยาลูรอน ตัวยาฟิลเลอร์ที่ฉีดจะช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัยให้เกิดช้าลง ผิวแข็งแรง และกระชับขึ้น

จุดเด่นของไฮยาลูรอนในฟิลเลอร์

  • แก้ไขปัญหาเติมเต็มร่องลึก ลบเลือนได้ทั้งริ้วรอยลึกและตื้น
  • เติมเต็มวอลลุ่มปรับรูปหน้าและจุดต่างๆบนใบหน้า
  • สร้างเส้นใยอิลาสตินเพิ่มพื้นที่ยึดเกาะให้คอลลาเจนทำให้ผิวแข็งแรงจากภายใน
  • ชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่
  • ทำให้ผิวชุ่มชื้น อุ้มน้ำ เรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ

อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ แต่ละจุดช่วยเรื่องอะไร ครบทุกเรื่อง ที่ควรรู้ก่อนฉีดครั้งแรก 2022

การฉีดสาร Hyaluronic Acid ในฟิลเลอร์อันตรายหรือไม่

ปัจจุบันตัวสารเติมเต็มผิวประเภท Hyaluronic Acid หรือที่เราเรียกว่า “ฟิลเลอร์” นั้นส่วนใหญ่มักสกัดขึ้นมาจากธรรมชาติทำให้มีความใกล้เคียงกับสาร Hyaluronic Acid เดิมในร่างกายมนุษย์ทำให้มีความปลอดภัยสูง และยังสามารถสลายได้เองในร่างกายโดยไม่ทิ้งสารตกค้าง แต่ทั้งนี้ปัจจุบันก็ได้มีฟิลเลอร์ของปลอมระบาดกันจำนวนมากซึ่งกลุ่มฟิลเลอร์ปลอมเหล่านั้นจะมีส่วนผสมของซิลิโคน ที่ไม่สามารถสลายได้ในร่างกาย เมื่อเวลาผ่านไปเลยทำให้ฟิลเลอร์ไหลจนหน้าผิดรูปได้ ดังนั้นก่อนฉีดก็ควรตรวจสอบด้วยว่าฟิลเลอร์เป็นของแท้ที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยหรือไม่

มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์

  • มีความปลอดภัยสูง หากฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและฉีดด้วยฟิลเลอร์ของแท้
  • สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 4-18 เดือน
  • หลังทำไม่ต้องพักฟื้น
  • หลังทำไม่มีบาดแผล
  • หลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์

  • ไม่สามารถเห็นผลลัพธ์แบบถาวรได้
  • หลังทำอาจมีอาการบวมแดงเกิดขึ้นได้ในช่วงแรก ๆ
  • มีราคาที่ค่อนข้างสูง

ยี่ห้อสารเติมเต็มผิวประเภท Hyaluronic Acid ที่พบได้ในไทย

ปัจจุบันถือว่ามียี่ห้อฟิลเลอร์ให้เราได้เลือกอย่างมากมายหลายยี่ห้อด้วยกัน ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็ล้วนมีจุดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีการผลิตที่ทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์และอายุการเห็นผลที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • Restylane (ประเทศสวีเดน) ใช้เทคโนโลยี NASHA และ OBT ในการผลิต มีทั้งหมด 8 รุ่น เห็นผลได้นานประมาณ 6-18 เดือน
  • Juvederm (ประเทศอเมริกา) ใช้เทคโนโลยี Hylacross และ Vycross ในการผลิต มีทั้งหมด 6 รุ่น เห็นผลได้นานประมาณ 6-12 เดือน
  • Belotero (ประเทศสวิตเซอร์แลนด์) ใช้เทคโนโลยี CPM ในการผลิต มีทั้งหมด 6 รุ่น เห็นผลได้นานประมาณ 6-18 เดือน
  • Neuramis (ประเทศเกาหลี) ใช้เทคโนโลยี The SHAPE ในการผลิต มีทั้งหมด 3 รุ่น เห็นผลได้นานประมาณ 6-8 เดือน
  • Flore (ประเทศเกาหลี) ใช้เทคโนโลยี HCCL™ ในการผลิต มีทั้งหมด 5 รุ่น เห็นผลได้นานประมาณ 6-12 เดือน
  • Definisse (ประเทศอิตาลี) ใช้เทคโนโลยี XTR ในการผลิต มีทั้งหมด 4 รุ่น เห็นผลได้นานประมาณ 8-18 เดือน

สามารถฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid ร่วมกับการทำหัตถการอื่น ๆ ได้หรือไม่

การฉีดฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid นั้นเราสามารถทำร่วมกับหัตถการดูแลผิวอื่น ๆ ได้ตามปกติ แต่ทั้งนี้อาจมีข้อควรระวังในเรื่องของระยะเวลาในการทำ ดังนี้

  • การทำร่วมกับหัตถการฉีดเมโสหน้าใส ฉีดโบท็อกซ์ สามารถฉีดร่วมกันได้เลยเนื่องจากว่าส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการฉีดในคะชั้นผิว
  • การทำร่วมกับหัตถการ Skin Booster สามารถทำร่วมกันได้เลยในคราวเดียวซึ่งจะเป็นการช่วยเรื่องของการฟื้นฟูเซลล์ผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวให้เพิ่มมากขึ้น
  • การทำร่วมกับการใช้เครื่องยกกระชับผิว เช่น Hifu, Ulthera, Ultraformer, Thermage สามารถทำร่วมกันได้แต่ข้อแนะนำคือให้ทำเครื่องยกกระชับก่อนแล้วค่อยฉีดสารเติมเต็ม หรือหากมีการฉีดสารเติมเต็มผิวไปแล้วอยากทำเครื่องยกกระชับก็ควรเว้นระยะห่างประมาณ 1 เดือนและแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำทุกครั้ง

สรุป

ไฮยาลูรอน เป็นสารที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายและเป็นที่ยอมรับของแพทย์ผิวหนังทั่วโลก ช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก ตรึงอิลาสตินคอลลาเจนให้ผิวแข็งแรง รวมถึงเป็นเกราะปกป้องผิวจากมลภาวะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยจากมลภาวะภายนอกที่เราเลี่ยงไม่ได้ หากถูกใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การใช้สารไฮยาลูรอนในฟิลเลอร์จะเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด

แหล่งที่มา:
https://www.healthline.com/nutrition/hyaluronic-acid-benefits

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง