ครีมฟอกสีขน ทำแล้วดีและได้ผลจริงไหม? เป็นอันตรายในระยะยาวหรือไม่

ครีมฟอกสีขน ดีและได้ผลจริงไหม

เส้นขนถึงแม้จะมีหน้าที่ลดการเสียดสี และช่วยลดแรงกระแทกของร่างกาย แต่ในปัจจุบันเรามีเสื้อผ้าและอุปกรณ์ป้องกันการกระแทก ดังนั้นเส้นขนจึงกลายเป็นอีกหนึ่งปัญหากวนใจใครหลาย ๆ คน เพราะอาจทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน จนอยากจะกำจัดขนให้ออกไป แต่ก็กลัวว่าการถอน การโกน การแว๊กซ์ขน อาจจะทำให้เส้นขนที่ขึ้นใหม่มีความหนาและแข็งกว่าเดิม ดังนั้นจึงเลือกครีมฟอกสีขนเพื่อปกปิดเส้นขนแทน วันนี้เราจึงจะพามาทำความรู้จักกับครีมฟอกสีขนว่า work จริงมั้ย มีอันตรายในระยะยาวหรือไม่?

ครีมฟอกสีขน คืออะไร?

ครีมฟอกสีขน คือเนื้อครีมที่มีการผสมสารเคมีชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่ในการกัดสีขนตามธรรมชาติ ซึ่งอาจจะเป็นเข้ม หรือ ดำเข้ม ให้เป็นสีที่อ่อนลง ซึ่งมีหลักการทำงานคล้ายกับน้ำยาฟอกสีผม ที่สามารถช่วยเปลี่ยนสีขนของเราให้กลายเป็นสีเหลืองอ่อน หรือสีใกล้เคียงกับสีผิวมากที่สุด ซึ่งสามารถทำได้ตามสถาบันเสริมสวย สปาหรืออาจซื้อมาทำเองที่บ้าน ซึ่งหลังการทำจะช่วยให้สีขนอ่อนลง จนมองในระยะไกลจะเห็นว่าผิวดูเนียนไม่เห็นเส้นขน ต่อการฟอกสีขนนั้นก็จะสามารถอยู่ได้เพียง 1-2 สัปดาห์เท่านั้น เพราะเส้นขนที่งอกขึ้นไม่ไม่ได้มีสีอ่อนตามไปด้วย จึงจำเป็นที่จะต้องมีการฟอกซ้ำบ่อยๆ

ส่วนประกอบของครีมฟอกสีขน

ส่วนประกอบสำคัญของครีมฟอกสีขนมีอะไรบ้าง

ในครีมฟองขน จะมีส่วนประกอบสำคัญที่มีชื่อว่า สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen peroxide) ซึ่งเป็นสารที่นิยมนำมาใช้ในเป็นส่วนผสมในยาสีฟัน ครีมย้อมผม ครีมกัดสีผม และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการฟอกย้อมต่างๆ รวมทั้งใช้ในอุตสาหกรรมฟอกหนัง หรือใช้ทําความสะอาด และใช้ในอุตสาหกรรมบางประเภท ดังนั้นหากมีการนำมาสัมผัสกับผิวโดยตรง ก็เสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่าย

หลักการทำงานของครีมฟอกสีขน?

ครีมฟอกสีขน มีหลักการในการทำงานเดียวกับครีมย้อมผม คือการใช้สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ซึ่งทำหน้าที่กัดสีขนและเนื้อผิวหนัง จึงทำให้เส้นขนเปลี่ยนสีให้อ่อนลงได้กว่าเดิม และผิวหนังดูกระจ่างใสขึ้น แต่สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ เป็นสารเคมีที่มีอันตรายโดยจะโดยการไปทำร้ายผิวหนังให้บางลง ยิ่งถ้าหากคนที่มีผิวหนังที่ไวต่อการแพ้ก็อาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย จึงไม่ใช่ทางออกที่ดีในการกำจัดเส้นขน แถมยังเป็นวิธีที่อันตรายอีกด้วย

การฟอกสีขนเหมาะกับใครบ้าง?

  • เหมาะกับคนที่มีผิวชุ่มชื้นผิวไม่แห้ง ไม่มีอาการแพ้ง่าย และผิวหนังไม่เคยผ่านการระคายเคืองสารเคมีมาก่อน
  • ผู้ที่มีเส้นขนลักษณะบาง และมีจำนวนไม่มาก
  • ผู้ที่มีความกังวลต่อปัญหาผิวจากการกำจัดขนด้วยการโกน การถอน การแว็กซ์ขน และยังไม่กล้าที่จะลองทำเลเซอร์กำจัดขน
  • ผู้ที่ต้องการกำจัดเส้นขนโดยที่ไม่ต้องการให้เกิดการบาดเจ็บใดๆ

ข้อควรรู้ก่อนใช้ครีมฟอกสีขน

การเตรียมตัวก่อนการฟอกสีขน

  • ก่อนการฟองสีขนต้องมั่นใจก่อนว่าบริเวณที่จะทำนั้นไม่มีแผล เพราะสารเคมีอาจทำปฏิกิริยาทำให้แผลเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อได้
  • เช็คสภาพเส้นขนตัวเองก่อนเสมอ ว่ามีสภาพแข็งแรงพร้อมสำหรับการฟอกสีขนหรือไม่
  • ผู้ที่จะทำการฟองสีขนต้องไม่เป็นโรคผิวหนัง และไม่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เพราะสารเคมีในครีมฟองขนอาจมีผลกระทบได้
  • ควรเลือกครีมฟอกสีขน ที่ผลิตมาจากธรรมชาติให้มากที่สุดเพื่อช่วยป้องกันผลข้างเคียงที่อันตราย

ขั้นตอนการฟอกสีขน

  1. ล้างทำความสะอาดเส้นขนในบริเวณที่ต้องการฟอกสีขน
  2. ทำการผสมครีมฟอกสีขนลงในถ้วยพลาสติก เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน
  3. ใส่ถุงมือทุกครั้งก่อนจะนำน้ำยามาผสมให้เข้ากัน
  4. ใช้ไม้พายหรือมือค่อย ๆ ลูบแล้วพอกให้ทั่วตรงบริเวณที่ต้องการเปลี่ยนสีขน
  5. ควรทิ้งครีมฟอกสีขนไว้ประมาณ 15 – 20 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด เท่านี้เส้นขนก็จะเปลี่ยนสีให้ดูอ่อนลงได้

การดูแลตัวเองหลังฟอกสีขน

  • หลังการฟอกสีขนอาจทำให้ผิวเกิดการแห้งเสีย หยาบกระด้าง หรือมีผื่นแดง ควรทามอยเจอไรเซอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวมากๆ
  • หลังการฟอกสีขนผิวที่ถูกสารเคมีอาจไวต่อแสง ดังนั้นหากเป็นการฟอกสีขนในบริเวณแขน ขาควรทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน
  • หากมีผื่นแดงหลังการฟองสีขน สามารถประคบเย็นเพื่อช่วยให้ผิวผ่อนคลายขึ้น
  • หากมีอาการแพ้รุนแรง มีผื่นคัน ตุ่มน้ำใสๆ ควรไปพบแพทย์ทันที

ครีมฟอกสีขนต้องทำบ่อยแค่ไหน?

จำนวนครั้ง หรือความถี่ในการฟอกสีขน จะขึ้นอยู่กับสภาวะการงอกใหม่ของเส้นขน (ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของแต่ละบุคคล) แต่โดยทั่วไปการฟอกสีขนมักจะมีการทำซ้ำอย่างน้อย 2 สัปดาห์ต่อครั้ง เพื่อให้เส้นขนคงสภาพสีที่ดีเอาไว้

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังการใช้ครีมฟอกสีขน

ผลข้างเคียงแบบทั่วไป

หลังการฟอกสีขน อาจทำให้ผิวหนังเกิดอาการระคายเคือง มีผื่นแดง หรือมีอาการคันได้ เนื่องจากในตัวเนื้อครีมฟอกสีขนมีสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ซึ่งเป็นสารที่สามารถก่ออันตรายต่อผิวหนังได้เมื่อมีการสัมผัสกับผิวโดยตรง

ผลข้างเคียงที่ควรพบแพทย์

หลังจากการฟอกสีขนแล้วเริ่มมีอาการแพ้อย่างรุนแรง หรือมีอาการอักเสบ เช่นมีผื่นแดง มีอาการแสบคัน หรือมีตุ่มน้ำใสๆ ภายใน 1-2 วัน แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด

ครีมฟอกสีขน อันตรายไหม?

เนื่องจากสาร ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen peroxide) เป็นสารที่อันตรายต่อผิวหนังและร่างกาย ดังนั้นหากมีการสัมผัสอยู่บ่อย ๆ เป็นระยะเวลานาน ก็อาจเกิดการสะสม จนทำให้เกิดผื่นแดง คันระคายเคือง เริ่มมีบาดแผลจนผิวหนังอักเสบและเสี่ยงต่อโรคมะเร็งผิวหนังได้ในระยะยาว (ขึ้นอยู่สภาพร่างกายของบุคคล)

แนะนำการกำจัดขนที่ปลอดภัย?

สำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดขนในระยะยาวได้อย่างปลอดภัย การทำเลเซอร์ขนด้วย Yag, Nd:YAG หรือที่เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “Long Pulse Nd:YAG” ถือเป็นตัวช่วยที่สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างมาก เนื่องจาก Long Pulse Nd:YAG เป็นเครื่องเลเซอร์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อการกำจัดขนโดยเฉพาะ ด้วยการนำพลังงานจากเลเซอร์ที่มีการปล่อยความยาวคลื่นถึง 1,064 นาโนเมตร ซึ่งสามารถลงไปกำจัดเส้นขนใต้ผิวหนังได้ลึกถึง 5-7 มิลลิเมตร
จึงสามารถทำลายได้ถึงระดับชั้นเซลล์ของรากขนเลยทีเดียว โดยมีหลักการในการทำงาน เพื่อช่วยทำลายเส้นขนลงลึกได้ถึงรากขนสามารถเข้าไปจับเส้นขนได้อย่างแม่นยำ แม้กระทั่งเส้นขนที่มีสีอ่อนและมีขนาดเล็กหรือบางมากๆ โดยไม่ทำร้ายผิวรอบข้าง สามารถกำจัดได้ให้เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรก และเมื่อทำอย่างต่อเนื่องเป็นประจำอย่างน้อย 3-5 ครั้งขึ้นไปก็จะเห็นผลที่ชัดเจนและถาวร จึงทำให้ Gentle-Focus (Long Pulse Nd:YAG) ได้รับรางวัลเลเซอร์กำจัดขนที่ดีที่สุดปี 2019

เลเซอร์กำจัดขนช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

  1. ช่วยให้รูขุมขนกระชับ ผิวดูละเอียดขึ้น เนื่องจากรูขุมขนดูมีขนาดที่เล็กลง
  2. ช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจน ให้ผิวกระจ่างใสขึ้น
  3. มีผลข้างเคียงที่เกิดกับผิวน้อยกว่าการกำจัดขนแบบอื่นๆ
  4. ช่วยให้ทำความสะอาดผิวเป็นเรื่องที่ง่าย และมีความหมดจดมากยิ่งขึ้น
  5. ช่วยให้ไม่ต้องทำการกำจัดเส้นขนซ้ำบ่อยๆ เพราะการทำเลเซอร์กำจัดขนจะมีการเว้นระยะ 3-4 สัปดาห์ต่อครั้ง และเมื่อทำต่อเนื่อง 5 ครั้งขึ้นไปสามารถเว้นระยะออกไปได้นานเป็นปีๆ

ผลข้างเคียงหลังทำเลเซอร์กำจัดขนมีอะไรบ้าง

  • หลังทำเลเซอร์ในช่วงแรก อาจมีรอยแดง ซึ่งรอยแดงนี้จะหายไปได้เองใน 1-2 ชั่วโมง
  • หลังการทำเลเซอร์ในช่วง 2-3 วันแรงผิวอาจแห้งมากกว่าปกติแนะนำให้ทามอยเจอไรเซอร์ และดื่มน้ำมากๆเพื่อคืนความชุ่มชื้นให้กับผิว

การทำเลเซอร์กำจัดขนดีกว่าการฟอกสีขนอย่างไร

  • ช่วยกำจัดขนได้ลึกถึงรากขน จึงเป็นวิธีที่แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
  • หลังการทำเลเซอร์อย่างต่อเนื่องสามารถกำจัดขนได้อย่างถาวร
  • หลังการทำทุกครั้งขนจะขึ้นใหม่จะมีจำนวนที่น้อยลง และขึ้นใหม่ได้ช้าลงเรื่อย ๆ
  • ช่วยลดปัญหาขนคุด การเกิดตอดำ หรือตุ่มหนังไก่ รอยดำคล้ำ และผิวไม่เรียบเนียน ซึ่งการฟอกสีขนไม่สามารถช่วยลดปัญหานี้ได้
  • ช่วยลดเหงื่อและกลิ่นกายไม่พึงประสงค์
  • ไม่ต้องเสี่ยงต่อการแพ้ การเกิดแผล หรือการเป็นมะเร็งในระยะยาว

เลเซอร์กำจัดขนให้ผลลัพธ์ที่ถาวรหรือไม่?

การทำเลเซอร์กำจัดขน ด้วย Long Pulse Nd:YAG ซึ่งในปัจจุบันเป็นเลเซอร์กำจัดขนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากเป็นหัตถการที่ตอบโจทย์มากสำหรับกลุ่มที่ต้องการกำจัดเส้นขน เพราะให้ผลลัพธ์การกำจัดผลถาวร หลังทำการรักษาประมาณ 5 ครั้งขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง แถมยังมีประสิทธิภาพที่ช่วย ช่วยในการรักษาขนคุดและผิวหนังไก่ ได้อีกด้วย

อ่านบทความเพิ่มเติม : เจาะลึก เลเซอร์กำจัดขนถาวร คืออะไร? แบบไหนดี ควรเตรียมตัวอย่างไร?

เลเซอร์กำจัดขนปลอดภัยไหม?

Long Pulse Nd:YAG อ่อนโยนต่อผิวหนังโดยรอบเป็นการกำจัดขนที่มีประสิทธิภาพให้ความปลอดภัยมากที่สุด ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย (FDA) ทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศ สามารถกำจัดขนได้ผลจริง และลดอัตราการเกิดขนใหม่ได้ถึง 80-90% สามารถทำได้ทุกส่วนของร่างกายโดยไม่เกิดอันตราย และสามารถกำจัดเส้นขนได้ทุกกับทุกสีผิวโดยไม่ทำให้เกิดการเบิร์น จึงสามารถเพิ่มความมั่นใจในการรักษาได้ทุกครั้ง

รีวิวเลเซอร์กำจัดขนแบบปลอดภัย

เลเซอร์-Long-Pulse-ND-Yag-กำจัดขนรักแร้
เลเซอร์กำจัดขนขา

สรุป

เพื่อไม่ทำให้เกินผลข้างเคียงในระยะยาว ก่อนการฟอกสีขนทุกครั้ง ควรศึกษาหาวิธีทุกขั้นตอนให้ถี่ถ้วนและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ฟอกสีขนที่มีส่วนผสมของสมุนไพรเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผิวหนังให้ได้มากที่สุด แต่หากยังไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ก็สามารถเลือกเข้ารับการรักษาโดยเลเซอร์ Long Pulse Nd:YAG ที่มีการรับรองมาตรฐาน หัตถการกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อลดความเสี่ยงของอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ สามารถกำจัดขนได้อย่างถาวร

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง