8 วิธีทําให้รักแร้ขาว แบบเร่งด่วน วิธีไหนช่วยให้รักแร้เนียนไม่มีขน ลดผิวหนังไก่ ได้ผลดี

วิธีทำให้รักแร้ขาว เนียนไม่มีขน

มีใครเป็นแบบนี้บ้าง อยากใส่เสื้อแขนกุด สายเดี่ยว โชว์ผิวใต้วงแขนแบบมั่นใจทีไร ก็ต้องตัดใจทุกที เพราะดันมีผิวใต้วงแขนที่ไม่เรียบเนียน รักแร้ดำ เป็นหนังไก่ ทำให้เวลาจะยกแขนหยิบจับอะไรก็ต้องคอยระมัดระวังกลัวว่าคนอื่นจะมองเห็นน้องไก่ ที่มีลักษณะแห้ง สาก เป็นตุ่มนูนๆ เล็กๆ เหมือนตุ่มหนังไก่ (ตามชื่อเรียก) ที่ดูแล้วไม่น่ามองเอาซะเลย

ซึ่งสาเหตุหลักของการเกิดผิวหนังไก่นี้ ก็มาจากการกำจัดขนที่ผิดวิธี การดูแลผิวใต้วงแขนที่ไม่ถูกต้อง การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารเคมี จนทำให้เคราติน หรือโปรตีนที่ทำหน้าที่ปกป้องผิวจากการติดเชื้อ และ สารอันตรายต่างๆ มีเจริญเติบโตจากการสะสมจนเกิดการบล็อกรูขุมขน ทำให้ขนใหม่งอกออกมาไม่ได้ ดังนั้นการเกิดผิวหนังไก่จึงมักมีการจับมือมาพร้อมกับปัญหาขนคุดและปัญหารักแร้ดำนั่นเอง

สาเหตุที่ทำให้รักแร้ดำคล้ำ

แน่นอนว่าปัจจัยที่ส่งทำให้เกิดรักแร้ดำคล้ำขึ้นมีอยู่ด้วยกันหลายสาเหตุปัจจัยทั้งในเรื่องของพฤติกรรม และปัญหาทางสุขภาพ ดังนี้

  • พฤติกรรมการกำจัดขนอย่างการถอนขน แว็กซ์ขน การโกนขน ที่จะไปทำผิวหมองคล้ำขึ้นได้
  • การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลรักแร้บางตัวที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอม
  • โรคอ้วน เมื่ออินซูลินในร่างกายมากขึ้นจะไปกระตุ้นการสร้างเม็ดสีจึงทำให้คนอ้วนมักมีจุดสีคล้ำตามข้อพับต่างๆ
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งมักพบในกลุ่มสตรีที่กำลังตั้งครรภ์
  • ปัญหาสุขภาพ อย่างเช่น โรคมะเร็ง กลุ่มอาการคุชชั่งซินโดรม โรคสะเก็ดเงิน ผิวหนังอักเสบ และภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ เป็นต้น
  • การแพ้ผลิตภัณฑ์ดูแลรักแร้ มักเกิดขึ้นได้ง่ายในกลุ่มคนที่มีสภาพผิวบอบบาง แพ้ระคายเคืองได้ง่าย ซึ่งในช่วงเกิดแรกๆ อาจมีอาการคันเป็นผื่น จนทำให้รักแร้เกิดรอยคล้ำในที่สุด

วิธีทําให้รักแร้ขาว แบบธรรมชาติ ข้อดี-ข้อเสีย ต่างกันอย่างไร?

รักแร้ขาว แบบธรรมชาติ

แนะนำวิธีง่ายๆที่จะช่วยทำให้รักแร้ที่หมองคล้ำให้กลับมาขาวกระจ่างใสขึ้น โดยเริ่มจากวิธีตามธรรมชาติเช่น การใช้ผักผลไม้มาสครับขัดผิวใต้วงแขน การพักผ่อนให้เพียงพอ ไปจนถึงการดูแลผิวใต้วงแขนด้วยการทาครีม และ วิธีอื่นๆอีกหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็จะให้ผลลัพธ์และใช้เวลาในการเห็นผลที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

1. การสครับผิวรักแร้

วิธีเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยผลัดเซลล์ผิวรวมไปถึงสิ่งสกปรกขี้ไคลต่างๆ ให้หลุดออกมาไวยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยทำให้ผิวรักแร้มีความเรียบเนียนกระจ่างใสขึ้นเล็กน้อย ซึ่งวิธีนี้สามารถทำอาทิตย์ละ 1 ครั้งด้วยสครับที่เม็ดละเอียด อ่อนโยน และใช้การขัดอย่างเบามือ

ซึ่งในปัจจุบันก็มีสูตรขัดหรือสครับรักแร้มากมายหลายสูตรด้วยกัน โดยเราจะขอนำเสนอ 3 สูตรยอดฮิต ดังนี้

1.1 สูตรมะนาว + น้ำตาล

สูตรมะนาว + น้ำตาล

เป็นวิธีที่หลายๆคนนำมาใช้เพื่อช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวใต้วงแขน เนื่องจากมะนาวมีส่วนประกอบของวิตามินซี ที่เชื่อว่าจะช่วยให้ขาวกระจ่างใสเรียบเนียนขึ้น และ ขนรักแร้ขึ้นน้อยลง ซึ่งวิธีนี้มีหลายคนที่ทำแล้วเห็นผล และ มีอีกหลายคนที่บอกว่าเป็นวิธีที่ไม่ค่อยได้ผลในการทำครั้งแรก ต้องทำบ่อยๆ และอาจต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล

รายละเอียดและขั้นตอนในการทำ

  • ส่วนผสมที่ใช้ : มะนาว และ น้ำตาล
  • วิธีทำ : นำมะนาว 1 ซีกผสมกับน้ำตาล 1 ช้อนชา คนให้ทั้งสองอย่างเข้ากันแล้วจึงนำมาสครับใต้วงแขนเบาๆ จากนั้นทิ้งไว้ 10 – 15 นาที แล้วค่อยล้างออก

วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร

คนที่ชอบโกนหรือถอนขนรักแร้บ่อยๆ จนมีความหมองคล้ำแต่อาจทำให้บางคนจะต้องทนกับอาการแสบ หรือ รอยแดงที่เกิดจากการระคายเคืองของผิวได้

1.2 สูตรมะขามเปียก + น้ำผึ้ง

สูตรมะขามเปียก + น้ำผึ้ง

สูตรการทำให้รักแร้ขาวขึ้นด้วยน้ำมะขามเปียก และ น้ำผึ้ง เป็นสูตรขัดผิวที่มีมาอย่างยาวนาน เพราะเชื่อกันว่ามะขามเปียกและน้ำผึ้งจะช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่ง กระจ่างใสขึ้น วิธีนี้อาจจะต้องใช้ระยะการเห็นผลที่ยาวนาน และ ต้องทำอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง จึงจะค่อยๆเห็นผล

รายละเอียดและขั้นตอนในการทำ

  • ส่วนผสมที่ใช้ : มะขามเปียก และ น้ำผึ้ง
  • วิธีทำ : น้ำมะขามเปียกมาแช่ในน้ำสะอาดให้เกิดการอิ่มตัว ประมาณ 5-10 นาที แล้วคั้นเอาแต่น้ำ จากนั้นนำน้ำมะขามเปียกที่ได้มาผสมกับน้ำผึ้ง ในอัตราส่วน 1:1 คนให้ส่วนผสมเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำมาขัดรักแร้เบาๆแล้วพอกทิ้งไว้ประมาณ 5 – 10 นาที แล้วค่อยล้างออก

วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร

คนที่อยากมีผิวใต้วงแขนขาว ริ้วรอยแลดูจางลง จากการผลัดเซลล์ผิวของมะขามเปียก และ ให้ความชุ่มชื้นกับผิวจากส่วนผสมของน้ำผึ้ง

1.3 สูตรเบกกิ้งโซดา

เบกกิ้งโซดาถือเป็น ผลิตภัณฑ์สารพัดประโยชน์ ที่สามารถนำมาดูแลผิวพรรณได้หลายส่วนของร่างกาย ไม่เว้นแม้กระทั่งบริเวณ รักแร้ ที่สาวๆหลายคนได้มีการนำเอาเบกกิ้งโซดามาสครับให้ผิวเพื่อให้เกิดความเรียบเนียนขึ้น แต่อาจจะยังเป็นวิธีที่ยังไม่ค่อยเห็นผลชัดเจนมาก และยังต้องคอยระวังเพราะเบกกิ้งโซดาอาจทำให้ผิวแห้งจนเกิดการระคายเคืองได้

รายละเอียดและขั้นตอนในการทำ

  • ส่วนผสมที่ใช้ : เบกกิ้งโซดา และ น้ำสะอาด
  • วิธีทำ : นำเบกกิ้งโซดามาผสมกับน้ำสำอากเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อให้ได้ส่วนผสมที่มีความเข้มข้น จากนั้นให้นำมาสครับที่รักแร้เบาๆ (ห้ามใช้การขัดถูแรงๆเด็ดขาดเพราะอาจเป็นการทำร้ายผิวใต้วงแขนได้) จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วค่อยล้างออก

วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร

คนที่มีปัญหาผิวหนังไก่ และ ขนคุด ที่ทำให้ใต้วงแขนดูไม่เรียบเนียน แต่ไม่เหมาะกับสาวๆที่มีผิวแห้ง เพราะเบกกิ้งโซดาจะทำให้ผิวของสาวๆแห้งลอกเป็นขุยๆได้

2. งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมี

งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมี

บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่า การที่รักแร้ดำและเป็นผิวหนังไก่ส่วนหนึ่งเกิดมาจาก การใช้ผลิตภัณฑ์ใต้วงแขนที่มีส่วนผสมของสารเคมี เมื่อใช้ในระยะเวลานานๆจนเกิดการสะสม ก็อาจจะทำให้ผิวใต้วงแขนเกิดการหมองคล้ำลงเรื่อยๆ จนเกิดรอยดำเป็นปื้นๆ ขนรักแร้มีเส้นหนาขึ้น และ มีผิวหนังไก่จากโปรตีนของสารเคมีที่ตกค้างอยู่ชั้นบนของผิว ทำให้ขนไม่สามารถดันออกมาได้จึงเป็นสาเหตุให้ต้องเผชิญกับปัญหาขนคุด

วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร

สาวๆที่ชอบใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย น้ำหอม หรือ ผลิตภัณฑ์กำจัดขนรักแร้ที่มีส่วนผสมของสารเคมี แอลกอฮอล์ และ น้ำหอม ซึ่งส่งผลทำร้ายผิวใต้วงแขนอย่างไม่รู้ตัว แนะนำให้สาวๆดูแลผิวใต้วงแขนด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อการดูแลรักแร้ให้ขาวกระจ่างใสอย่างปลอดภัยโดยเฉพาะ

3. ออกกำลังกายลดน้ำหนักตัว

ออกกำลังกายลดน้ำหนักตัว

ถ้าลองสังเกตดูดีๆจะเห็นว่าคนอ้วนหรือคนที่มีน้ำหนักตัวมาก มักจะมีรอยดำตามข้อพับต่างๆ เช่น ขาหนีบ และ รักแร้ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเสียดสีของเนื้อเยื่อผิวหนังเป็นเวลานานๆ ทำให้เกิดการระคายเคือง และ ความอับชื้น จนมีรอยดำ เนื่องจากกลไกร่างกายตามธรรมชาติ ซึ่งการออกกำลังกายลดน้ำหนักตัวถือเป็นวิธีที่จะช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดที่สุด เพราะ ช่วยลดการเสียดสีตามข้อพับต่างๆได้โดยตรง

วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร

คนที่เป็นโรคอ้วน มีน้ำหนักตัวมาก ที่มักจะมีการเสียดสีของผิวหนังจากการเคลื่อนไหวตลอดเวลา จนทำให้เกิดการสร้างเม็ดสีเพิ่มขึ้นตามข้อพับ หรือจุดที่มีการเสียดสีบ่อยๆ เช่น รักแร้ ซึ่งการออกกำลังกายลดน้ำหนักตัวนอกจากจะช่วยลดการเสียดสีแล้ว ยังทำให้มีสุขภาพ และ รูปร่างที่ดีขึ้นอีกด้วย

4. การทาครีมบำรุงผิวรักแร้

การทาครีมบำรุงผิวรักแร้

เป็นอีกวิธีที่สามารถทำได้ทุกวัน ซึ่งวิธีนี้จะเป็นการบำรุงผิวรักแร้ที่มีความบอบบางให้ชุ่มชื้นขึ้น และนอกจากนั้นในปัจจุบันกลุ่มครีมทารักแร้ต่างๆ ก็ได้มีส่วนผสมของสารกลุ่มไวท์เทนนิ่งอย่าง วิตามินซี วิตามินอี และวิตามินเอหรือเรตินอล เข้ามาอีกด้วย

วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร

คนที่ไม่มีเวลาหรืองบค่าใช้จ่ายในการเข้าคลินิกเพื่อทำการรักษาอาการรักแร้ดำ รวมไปถึงคนที่อยากจะดูแลบำรุงผิวส่วนรักแร้ที่มีความบอบบางให้มีความชุ่มชื้นและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

5. งดการใส่เสื้อผ้ารัดรูป

การใส่เสื้อผ้าที่รัดรูปบ่อยๆ นั้นจะทำให้ผิวเราของเกิดการเสียดสีกับเสื้อผ้าจนทำให้ผิวเกิดรอยดำคล้ำขึ้นได้โดยเฉพาะบริเวณรักแร้ที่เป็นจุดที่ผิวมีความบอบบาง เสี่ยงต่อการระคายเคืองง่ายมากๆ ดังนั้นการหากต้องการแก้ปัญหารักแร้ดำคล้ำก็ควรที่จะเลี่ยงการใส่เสื้อที่รัดผิวส่วนรักแร้จึงจะดีที่สุด

วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร

คนที่ต้องการป้องกันและรักษาปัญหารักแร้ดำคล้ำ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดูแลตัวเองรวมกับการใช้วิธีแบบอื่นๆ

6. การใช้ปิโตรเลี่ยมเจลหรือออลย์

การใช้ปิโตรเลี่ยมเจลหรือออลย์

ตัวปิโตรเลี่ยมเจลหรือออลย์นั้นมีส่วนสำคัญอย่างมากในการช่วยบำรุงผิวรักแร้ให้มีความชุ่มชื้น และช่วยปลอบประโลมผิวได้ดีมากๆ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีการโกนขนรักแร้บ่อยๆ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยทำให้เส้นขนใหม่มีความอ่อนนุ่ม ไม่เป็นตอแข็งและช่วยลดแรงเสียดสีของผิวได้ดีอีกด้วย

วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร

เหมาะมากกับคนที่ชื่นชอบการกำจัดขนด้วยการโกนหรือแว็กซ์ขนที่จะเป็นการทำร้ายผิวรักแร้ด้วยการเสียดสี ดังนั้นหากต้องการลดปัญหาขนคุด รักแร้ดำ ควรทาปิโตรเลี่ยมเจลหรือออลย์หลังโกนหรือแว็กซ์ขนทุกครั้ง

7. หยุดใช้วิธีการกำจัดขนรักแร้แบบเดิมๆ

วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ควรหลีกเลี่ยงมากๆ เพราะการกำจัดขนรักแร้แบบเดิมๆ ถือเป็นการทำร้ายผิวใต้วงแขนได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการแว๊กซ์ขน ที่เสี่ยงต่อการทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้ง่าย และ เสี่ยงต่อการแพ้ผลิตภัณฑ์ได้สูง การโกนที่อาจทำให้ผิวใต้วงแขนถูกทำร้ายจนเกิดการหมองคล้ำ นอกจากนี้การโกนขนรักแร้ยังทำให้ขนขึ้นใหม่ได้ รวดเร็ว โดยขนที่ขึ้นใหม่จะมีลักษณะเป็นตอแข็งๆ และ การถอนนั้น ก็ช่างเป็นวิธีที่ทำให้รูขุมขนเกิดการอักเสบได้ง่าย ให้ความรู้สึกเจ็บในขณะทำ ใช้เวลานาน ที่สำคัญทำให้เกิดขนคุดได้ง่ายมากๆ

8. การเลเซอร์ขนรักแร้

เลเซอร์รักแร้

สำหรับใครที่มีปัญหาหนักใจต้องการกำจัดขนรักแร้อย่างไรไม่ให้ทำร้ายผิว แนะนำให้ใช้การทำเลเซอร์กำจัดขนด้วยเครื่องเลเซอร์ที่ได้มาตรฐาน และ อ่อนโยนกับผิวอย่าง Long Pulse Nd Yag แทนเพราะนอกจากจะเป็นวิธีที่ไม่ทำร้ายผิวแล้วยังช่วยแก้ปัญหาขนคุด ผิวหนังไก่ และ ช่วยกำจัดเส้นขนได้อย่างถาวรอีกด้วย

วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร

ผู้ที่ต้องการกำจัดเส้นขนรักแร้ บวกกับมีปัญหารักแร้ดำ รูขุมขนอักเสบ รักแร้เป็นผิวหนังไก่ และมีขนขุดเกิดขึ้นจนทำให้ขาดความมั่นใจ เพราะว่านี้นอกจากจะช่วยกำจัดเส้นขนให้หลุดออกไปแล้วยังสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวให้ผิวเรียบเนียนขึ้น และยังช่วยทำลายเม็ดสีในชั้นผิวทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นอีกด้วย

อ่านเพิ่มเติมแบบเต็มๆ : 7 วิธีกําจัดขนรักแร้ ไม่ให้เป็นตอ ข้อดี-ข้อเสีย วิธีไหนให้ผลลัพธ์ถาวร แบบธรรมชาติ

รีวิวเลเซอร์ขนรักแร้ ขนดูบางลง

วิธีทำให้รักแร้ขาว แบบเร่งด่วน ด้วยเลเซอร์รักแร้ขาว

การทำเลเซอร์รักแร้ขาวเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะสามารถทำให้รักแร้กระจ่างใสขึ้นได้ทันทีหลังการทำเพียงครั้งแรก ซึ่งเหมาะมากๆกับคนที่มีปัญหารักแร้ดำ ปัญหาขนคุด ผิวหนังไก่ และ ปัญหารักแร้มีริ้วรอยไม่เรียบเนียน เพราะพลังงานจากเลเซอร์สามารถเข้าไปกระตุ้นคอลลาเจน และ การสร้างอีลาสตินใต้ผิวหนังได้โดยตรง นอกจากนี้ยังช่วยลดการสร้าง เม็ดสีเมลานินใต้ผิวหนังได้อีกด้วย

ผลลัพธ์หลังเลเซอร์รักแร้ขาว

ใครที่อยากมีรักแร้กระจ่างใสเรียบเนียน เห็นผลรวดเร็วชัดเจน แนะนำว่าสามารถเลือกทำวิธีนี้ได้เลยค่ะ นอกจากนี้การทำเลเซอร์รักแร้ขาว ยังสามารถทำร่วมกับการเลเซอร์กำจัดขนรักแร้ไปพร้อมๆกันโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆกับผิวหนัง เนื่องจากมีความอ่อนโยนสูง โดยจะเห็นผลตังแต่ครั้งแรก และ เห็นผลชัดเจนเมื่อทำต่อเนื่อง 3-5 ครั้ง

วิธีนี้เหมาะกับใคร : เหมาะกับคนที่ต้องการให้รักแร้ขาวเรียบเนียนขึ้นอย่างเร่งด่วน อีกทั้งยังต้องการกำจัดปัญหาผิวหนังไก่ และปัญหาขนคุดไปพร้อมๆกัน

ข้อดีของการทำเลเซอร์รักแร้ขาว

  • ช่วยกำจัดเม็ดสีในผิวทำให้ผิวรักแร้ค่อยๆ กระจ่างใสขึ้น
  • ช่วยกำจัดเส้นขนรักแร้ได้ถึงต้นตอ ทำให้เส้นขนขึ้นช้าลงและมีเส้นขนที่บางลง
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ช่วยแก้ปัญหาผิวหนังไก่
  • ช่วยป้องกันการเกิดปัญหาขนคุด
  • ใช้เวลาในการทำที่น้อยและไม่มีผลข้างเคียงหลังทำที่เป็นอันตราย

การดูแลรักแร้ให้ขาว เพื่อลดความหมองคล้ำ

การดูแลรักแร้ให้ขาว

การดูแลผิวใต้วงแขนให้กระจ่างใส เป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองได้อีกหนึ่งวิธี แต่จะต้องเลือกทำให้ถูกต้องเพื่อการเห็นผลจริง และ มั่นใจว่าจะไม่เพิ่มปัญหาให้กับผิวได้วงแขนอีก ซึ่งการดูแลรักษารักแร้อย่างถูกวิธีมีดังนี้

  • ใช้ครีมทารักแร้ขาวของกังนัม เป็นสูตรเฉพาะที่ผ่านการวิจัยและทนลองแล้วว่ามีความอ่อนโยนสูง แต่มีประสิทธิภาพในการทำให้รักแร้กระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ลดน้ำหนัก เพื่อลดการเสียดสีของผิวหนัง ทำให้ผิวไม่เกิดการระรายเคือง และ นอกจากนี้ยังช่วยลดการสร้างเม็ดสีบริเวณรักแร้ได้ด้วย
  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่กำจัดขนรักแร้ด้วยวิธีเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นการถอนขนรักแร้ การโกน หรือ การแว็กซ์ขน ที่เป็นการทำร้ายผิวให้เกิดความหมองคล้ำ และ ปัญหาผิวใต้วงแขน
  • งดการสครับขัดผิวแรงๆ หรืองดการใช้สารเคมีกับผิวใต้วงแขน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระคายเคืองจนรักแร้หมองคล้ำ
  • ทำเลเซอร์รักแร้ขาว เพื่อช่วยกำจัดเม็ดสีบนผิวหนังให้แตกตัวเป็น โมเลกุลเล็กๆ จนเม็ดเลือดขาวจะดูดซึม และ ย่อยสลาย ออกไปจากร่างกายโดยไม่เป็นอันตราย

สรุปเลือกวิธีไหนดี

การทำเลเซอร์รักแร้ขาว และ การทำเลเซอร์กำจัดขนเป็นนวัตกรรมแบบใหม่ที่จะช่วยทำให้ รักแร้ขาว เรียบเนียนไร้เส้นขน ไม่เป็นหนังไก่ ซึ่งกำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว เหมาะกับคนที่ต้องการเห็นผลแบบเร่งด่วน โดยไม่ต้องกังวลถึงผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อผิว เนื่องจากการทำเลเซอร์นั้นมีความอ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิวหนังชั้นนอก ไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง เพื่อให้คุณสาวๆพร้อมสำหรับการโชว์ผิวใต้วงแขนที่ขาวเรียบเนียนได้อย่างมั่นใจไร้กังวล

ข้อมูลจาก : healthline, health.clevelandclinic

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง