โกนขนแล้วคัน กี่วันหาย? มีวิธีแก้และบรรเทาอาการอย่างไร ให้หายคัน?

โกนขนแล้วคัน-แก้อย่างไร

การโกนขนอาจจะเป็นวิธีกำจัดขนที่หลายๆคนเคยเลือกใช้ เพราะเป็นวิธี่ที่ง่าย ทำได้รวดเร็ว และเป็นวิธีที่ประหยัดสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ถึงแม้ว่าหลังจากโกนขนแล้วผิวจะเรียบเนียน แต่ก็ต้องใช้ความระวังเป็นอย่างมาก เพราะอาจทำให้บาดเจ็บจากใบมีดได้ อีกทั้งพอผ่านไปไม่เท่าไรขนก็ขึ้นเป็นตอ ทำให้มีอาการผื่นแดง และมีอาการคันยุบยิบ

ซึ่งเป็นปัญหาที่คนชอบโกนขนนั้นมักเจอบ่อยๆ มักจะทำให้รู้สึกรำคาญใจเป็นอย่างมาก วันนี้กังนัมคลินิกจึงไม่รอช้าที่จะมาแนะนำวิธีแก้ปัญหาโกนขนแล้วคัน เพื่อให้คุณรู้สึกสบายผิวไม่ต้องทนกับอาการคันหลังการโกขนซึ่งวิธแก้จะมีอะไรบ้าง ใช้เวลากี่วันหายตามมาดูกันเลย

โกนขนแล้วคัน เกิดจากอะไร ลักษณะอาการเป็นอย่างไรบ้าง

โกนขนแล้วมีอาการคัน

การโกนขนแล้วคัน หรือ ผื่นแดงหลังการโกนขน (Razor Burn) เป็นอาการที่เกิดขึ้นจากการระคายเคืองของผิวหนัง จนทำให้มีอาการคัน หรือแสบร้อนจากใบมีด จนมีลักษณะเป็นตุ่มหนอง ผื่นแดง ตอขนทำให้รู้สึกคัน ซึ่งโกนขนแล้วคันเกิดจากหลายสาเหตุได้แก่

  • การโกนขนขนผิดวิธี : อาการคันมักเกิดขึ้นหลังจากที่มีการโกนขนโดยไม่มีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ป้องกันการระคายเคืองกับผิว รวมทั้งยังโกนผิวเร็ว หรือแรงเกินไปจึงทำให้ผิวหนังเกิดรอยแผล หรือการบาดเจ็บจากใบมีดจนเกิดการระคายเคืองตามมาได้
  • การเสียดสีผิวหนัง : การโกนขนอาจทำให้ผิวหนังเสียดสีจากการโกนขนที่เดิมซ้ำ ๆ กันไปมาอยู่เป็นประจำ ซึ่งทำให้ผิวชั้นบนสุดเกิดการระคายเคืองจึงทำให้มีอาการคันหลังโกนขนตามมา
  • การใช้มีดหรืออุปกรณ์โกนที่ไม่เหมาะสม : การใช้มีดหรืออุปกรณ์โกนที่ไม่เหมาะสม เช่นการใช้ใบมีดโกนที่มีขนาดเล็กหรือใหญ่เกินไป การใช้ใบมีดไม่คม หรือใช้เครื่องโกนขนที่ผ่านการใช้งานมาแล้วอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและคัน
  • การไม่ทำความสะอาดผิวหนัง : การไม่ทำความสะอาดผิวหนังหลังจากการโกนขนอาจทำยังมีคราบแบคทีเรียและสิ่งสกปรกติดค้างอยู่บนผิว จึงทำให้เกิดการระคายเคืองและคันได้ง่าย
  • เกิดการแตกต่างของสารเคมีในผิวหนัง : การโกนขนผิดทิศทางอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในผิวหนังที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและคัน

โกนขนแล้วคัน กี่วันถึงจะหาย

อาการคันจากการโกนขนเป็นอาการที่เกิดจากการระคายเคืองที่ผิว ซึ่งเกิดขึ้นได้ทั้งหลังการโกน มักจะมีระยะเวลาการหายขึ้นอยู่กับบุคคลและสาเหตุของคันด้วย ดังนั้นไม่สามารถบอกได้ว่าคันจะหายในกี่วัน แต่โดยส่วนใหญ่มักจะดีขึ้นใน 3-4 วันหลังการโกนขน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการดูแลสุขภาพผิวหนังของแต่ละบุคคล แต่อย่างไรก็ตาม การดูแลสุขภาพผิวหนังอย่างเหมาะสม โดยการเช็คความสะอาดและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง ก็จะช่วยลดอาการคันหลังการโกนขนให้หายได้เร็วยิ่งขึ้น

วิธีแก้อาการคันจากการโกนขน

วิธีแก้ปัญหาโกนขนแล้วคัน

การแก้ปัญหาโกนขนแล้วคัน หรือผื่นแดงที่เกิดขึ้นหลังการโกน ซึ่งอาจทำให้รู้สึกทรมาน และไม่สบายตัว สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีต่างๆดังนี้

ทาออยล์หลังโกนขน

เนื่องจากการโกนขนอาจสร้างความระคายเคืองให้กับบริเวณที่ถูกโกนขน จนทำให้ผิวแห้งเป็นขุยได้ ดังนั้นการทาออยล์ที่ให้ความชุ่มชื้อกับผิว เพื่อช่วยในการกักเก็บน้ำหลังจากโกนขน จะช่วยลดความแห้งกร้าน ลดการระคายเคืองของผิว และลดอาการคันหลังโกนขนลงได้เป็นอย่างดี

เลือกใช้ใบมีดที่คมและสะอาด

ในบางครั้งใบมีโกนที่เคยผ่านการใช้งานอาจทำให้ความคมของใบมีดลดลง และอาจมีคราบสิ่งสกปรกติดอยู่บนใบมีด ซึ่งหากนำมาใช้โกดขนก็อาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองจากเชื้อแบคทีเรียที่ใบมีดได้ ดังนั้นการใช้ใบมีดที่คมและสะอาดจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียน หมดจด ลดอาการคันหลังการโกนได้

ทาน้ำมันมะพร้าว

น้ำมันมะพร้าวเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดอาการคันหลังการโกนขนได้ เนื่องจากในน้ำมันมะพร้าวมีสารฆ่าเชื้อแบบอ่อนๆ ดังนั้นการทาน้ำมันมะพร้าวเป็นประจำหลังโกนขน จึงสามารถช่วยลดอาการระคายเคือง คันยุบยิบที่ผิวได้ รวมถึงช่วยลดการอักเสบของผิวหนังได้ดีอีกด้วย

ทาน้ำผึ้ง

การใช้น้ำผึ้งชโลมผิวหลังการโกนขนเป็นวิธีที่อาจช่วยลดอาการคันได้ เนื่องจากน้ำผึ้งมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโดยเฉพาะแบคทีเรีย ดังนั้นการทาน้ำผึ้งบนผิวหนังที่มีอาการคันหลังโกนขนทิ้งไว้เป็นเวลา 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำเย็น ซึ่งจะช่วยลดอาการคันและช่วยฟื้นฟูผิวหนังหลังการโกนขนให้กลับมาแข็งแรงขึ้นอีกด้วย

งดการโกนขน

การงดการโกนขนเป็นวิธีที่จะช่วยลดอาการคันได้อย่างตรงจุด เนื่องจากการโกนขนอาจทำให้ผิวหนังมีความแห้งกร้าน เพราะการโกนขนส่งผลต่อการสร้างคอลลาเจนของผิวหนัง ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดอาการคัดได้แล้ว ยังทำให้ผิวหนังเกิดริ้วรอยได้อีกด้วย ดังนั้นใครที่ไม่อยากเจอกับปัญหาคันหลังการโกนขน ควรเลือกวิธีกำจัดขนที่มีประสิทธิภาพและไม่ทำร้ายผิว

จุดไหนบ้างที่มักเกิดอาการคันหลังโกนขน

การโกนขนบนผิวหนังอาจทำให้เกิดคันได้หลายสาเหตุ โดยส่วนใหญ่จะเกิดจาก การตัดขนออกจากรากของขน ซึ่งอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของผิวหนังเสียหาย โดยบริเวณที่มักมีอาการคันหลังการโกนขน ได้แก่

  • การโกนขนบริเวณหน้า
  • การโกนขนบริเวณหนวด
  • การโกนขนบริเวณหน้าอก
  • การโกนขนบริเวณน้องสาว

ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นบริเวณที่มีความบอบบางของผิว และเป็นบริเวณที่ผิวไวต่อความรู้สึก จึงทำให้เกิดการระคายเคืองหรืออาการคันได้ง่ายกว่าบริเวณผิวหนัวทั่วไป เช่น บริเวณแขน ขนา เป็นต้น ซึ่งหากผู้ใดที่ต้องการกำจัดขนในบริเวณดังกล่าวด้วยการโกน อาจจะต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ หรือใช้วิธีที่อื่นที่อ่อนโยนต่อผิวแทนการโกน

การกำจัดขนในแบบอื่นๆ โดยไม่ต้องโกนขน

  • ถอนขน
    การถอนขนเป็นวิธีหนึ่งในการกำจัดขนที่มีผลดีในระยะสั้น แต่อาจมีผลข้างเคียงและอาจเป็นอันตรายได้หากไม่ทำอย่างถูกวิธี เช่นรูขุมขนอักเสบ เลือดออกที่รูขุมขน การเกิดขนคุด ดังนั้นหากต้องการกำจัดขนด้วยวิธีการถอนขนควรใช้ความระมัดระวังเพื่อไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บที่รูขุมขน ซึ่งอาจทำให้เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย อีกทั้งการถอนขนยังเป็นเพียงแค่การกำจัดขนแบบชั่วคราวเท่านั้น
  • แว็กซ์ขน
    แว็กซ์ขน หรือ Waxing คือวิธีการกำจัดขนโดยใช้ผลิตภัณฑ์แว็กซ์ เป็นกระบวนการที่นิยมใช้กันในการกำจัดขนเนื่องจากสามารถทำได้เองที่บ้าน มีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน สามารถทำได้ทุกส่วนของร่างกาย เช่น ขา, แขน, รักแร้, หน้าอก, และการกำจัดขนน้องสาว ซึ่งการแว็กซ์ขนจะทำให้เส้นขนถูกดึงออกจากผิวหนังอย่างเร็ว และแรงจึงทำให้เส้นขนเกิดการขาดออกจากรากได้ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดขนคุด รูขุมขนอักเสบ ให้ความรู้สึกเจ็บปวดและแสบร้อนชั่วคราวหลังการทำได้
  • เลเซอร์ขน
    เลเซอร์ขน (Laser hair removal) เป็นการกำจัดขนโดยใช้เทคโนโลยีแสงเลเซอร์ที่มีความเข้มของแสงสูง ส่งตรงลงไปยังใต้ผิวหนัง เพื่อทำลายเซลล์ของรากขน ซึ่งจะป้องกันการเจริญเติบโตของขนในอนาคต ดังนั้นการทำเลเซอร์ขนจึงสามารถกำจัดขนได้ถาวร และมีผลดีในการกำจัดขนทุกส่วนของร่างกาย เช่น แขน, ขาหน้าอก, หลัง, ขนรักแร้, ขนหน้า, ขนหนวด ซึ่งถือเป็นวิธีกำจัดขนที่มีความปลอดภัยสูง เพราะดูแลโดยเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้วยเครื่องเลเซอร์ที่มีคุณภาพสูง ผ่านการรับรองมาตรฐานจากอ.ย. เพื่อลดความเสี่ยงจากการใช้งาน แต่การใช้เลเซอร์ขนอาจมีผลข้างเคียงเช่น แดง บวม เล็กน้อยซึ่งจะหายไปได้เองใน 1-2 วันโดยไม่เป็นอันตราย
  • ครีมกำจัดขน
    ครีมกำจัดขนเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับใช้กำจัดขนที่อยู่บนผิวหนัง ซึ่งมักจะมีส่วนประกอบของสารเคมีชนิดต่างๆ ที่มีฤทธิ์เป็นด่างสูง เช่น แคลเซี่ยม ไฮดรอกไซด์ เพื่อทำลายโปรตีนที่อยู่ในเส้นขนให้อ่อนแอลง ทำให้เส้นขนหลุดออกจากรากได้อย่างง่าย โดยไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ เพียงแค่ทาทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วเช็ดออก ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองกับผิวได้บ้าง ในบริเวณที่ผิวมีความ sensitive และวิธีนี้ก็ไม่สามารถกำจัดเส้นขนออกได้ทั้งราก จึงไม่ใช้วิธีกำจัดขนที่ถาวร นอกจากนี้ยังทำให้มีขนขึ้นใหม่ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
โกนขนบ่อยมีผลเสียไหม

อาการคันที่เกิดจากการโกนขน ทำให้เกิดอันตรายไหม

การโกนขนแล้วคันอาจมีความอันตรายได้ ถ้าไม่ทำอย่างถูกต้อง แต่ปกติแล้วการโกนขนไม่ได้ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายมากนัก แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดอาการแพ้ที่ผิวหนัง หรืออาจเกิดการเป็นแผลบนผิวหนังได้ ดังนั้นก่อนการโกนขนจึงควรการทำความสะอาดด้วยน้ำหรือ ผลิตภัณฑ์สำหรับการโกนขน นอกจากนี้การใช้มีดที่สะอาดและคมมีความสำคัญ เพราะจะไม่ก่อให้การระคายเคืองที่ผิวมากนัก อีกทั้งควรใช้ครีมหลังจากโกนขนเพื่อช่วยลดการแสบร้อนและป้องกันการเกิดแผลบนผิวหนังด้วย

หากโกนขนแล้วคันต้องทิ้งระยะการโกนขนครั้งต่อนานไหม

ไม่จำเป็นต้องทิ้งระยะการโกนขนครั้งต่อไป เพราะไม่มีหลักฐานวิจัยใดๆที่ระบุว่าการโกนขนแล้วคันจะต้องทิ้งระยะเวลาให้ผิวหนังฟื้นตัว แต่หากมีอาการคันหลังจากโกนขน การทาครีมบำรุงผิวหนังหลังการโกนขนเพื่อให้ผิวหนังฟื้นตัวได้เร็วขึ้น แต่ใครมีความกังวลว่าโกดขนแล้วจะเกิดอาการคัน แนะนำให้ศึกษาและทดลองการกำตัดขนด้วยวิธีอื่น เช่น การทำเลเซอนร์ขนที่สามารถกำจัดขนได้หมดจดทั้งราก จึงไม่ทำให้เกิดอาการคัน

สรุป

การแก้ปัญหาโกนขนแล้วคันสามารถทำได้หลายวิธี และหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการทำเลเซอร์กำจัดขน ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่สามารถกำจัดขนได้อย่างถาวร เพราะพลังของเลเซอร์จะถูกส่งลงไปทำลายรากขนได้โดยตรง จึงทำให้เส้นขนอ่อนแอและหลุดออกได้ง่าย อีกทั้งยังเป็นวิธีที่สามารถลดอาการคัดได้จากต้นเหตุ มีความปลอดภัยสูง ทำโดยผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ยังการทำเลเซอร์ขนยังเป็นวิธีที่ช่วยแก้ปัญหารักแร้หนังไก่ รูขุมขนอักเสบแถมยังช่วยลดการเกิดขนใหม่ได้อีกด้วย

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง