ใบหน้าไม่เท่ากัน เกิดจากอะไร? มีวิธีแก้ไข สัดส่วนหน้าแต่ละจุดอย่างไรบ้าง

หน้าไม่เท่ากัน แก้ได้ด้วยวิธีไหน

หน้าไม่เท่ากัน

ปัญหาใบหน้าไม่เท่ากันอาจจะทำให้ให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ หรือไม่มั่นใจกับใบหน้าของตัวเอง และยิ่งมองเห็นได้ชัดจากหน้าตรง หรือเวลาถ่ายรูป ซึ่งทำให้ต้องพยายามหลบมุมกล้องหรือคอยหันข้างอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ แต่ละสาเหตุจะมีวิธีการแก้ไขที่แตกต่างกันไป โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินการรักษาให้คนไข้อย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไรและควรแก้ไขด้วยวิธีไหน จึงเป็นการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด

หน้าสองข้างไม่เท่ากัน คืออะไร

หน้าไม่เท่ากัน คือ

ใบหน้าไม่เท่ากัน หรือ หน้าเบี้ยว คือลักษณะของใบหน้าที่มีปัญหาขาดความไม่สมดุลของเนื้อเยื่อบนใบหน้า หรือใบหน้ามีลักษณะทางด้านกายภาพที่มีความผิดปกติ ทำให้สามารถสังเกตได้ชัดจากการมองผ่านกระจกหน้าตรง หรือการถ่ายรูปหน้าตรง ว่าตำแหน่งของตาที่แตกต่างกัน, คางเบี้ยว, ปากเบี้ยว เป็นต้น หรือบางคนอาจมองเห็นได้ไม่ชัด แต่เมื่อลองเอาสัดส่วนของใบหน้าทั้ง 2 ข้างมาเทียบกันแล้ว ถึงจะพบว่าไม่สมมาตรกัน

สัดส่วนของใบหน้าที่เท่ากัน

ลักษณะและสัดส่วนใบหน้าที่ได้มาตรฐาน

สัดส่วนความสวยของใบหน้า ที่ได้มาตรฐานสวยงาม ดูแล้วสวยเป๊ะทุกมุมตามสัดส่วนทองคำบนใบหน้า หรือที่เรียกว่า Face Golden Ratio ซึ่งเป็นทฤษฎีความงามของลีโอนาโด ฟีโบนัชชี (Leonardo Fibonacci) นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลี จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน จะต้องมีสัดส่วนที่เท่ากัน แบบ 1:1:1 ได้แก่

  • ส่วนบนของใบหน้า โดยวัดตั้งแต่ขอบไรผมจนถึงหัวคิ้ว
  • ส่วนกลางของใบหน้า โดยวัดตั้งแต่หัวคิ้วจนถึงปลายจมูก
  • ส่วนล่างของใบหน้า โดยวัดจากปลายจมูกจนถึงปลายคาง

สาเหตุของปัญหาหน้าไม่เท่ากัน เกิดจากอะไร?

สาเหตุของปัญหาใบหน้าที่ไม่เท่ากันสามารถเกิดขึ้นได้จากสาเหตุหลักๆ ดังนี้

  • กรรมพันธุ์ : ซึ่งเป็นปัญหาใบหน้าไม่เท่ากันตั้งแต่กำเนิด ซึ่งเกี่ยวข้องกับพัฒนาการของร่างกายที่ส่งผลต่อลักษณะของใบหน้า
  • การบาดเจ็บบนใบหน้า : การบาดเจ็บบนใบหน้าเช่น การประสบอุบัติเหตุ อาจส่งผลให้ใบหน้าทั้งสองข้างมีความแตกต่างกัน
  • อายุที่มากขึ้น : อาจทำให้กล้ามเนื้อและกระดูกเกิดการยุบตัว ส่งผลให้เกิดความหย่อนคล้อยจนใบหน้าทั้ง 2 ข้างมีความแตกต่างกัน
  • การสะสมของไขมัน : บนใบหน้าของทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากัน
  • การผ่าตัดศัลยกรรม : หรือการรักษาด้วยเทคนิคทางการแพทย์ เช่นการผ่าตัดกระดูกโครงหน้า การผ่าตัดขากรรไกร
  • การเคี้ยวอาหาร : การเคี้ยวอาหารเฉพาะข้างที่ถนัด อาจทำให้กล้ามเนื้อกรามของทั้งสองข้างมีขนาดที่แตกต่างกัน

ปัญหาหน้าไม่เท่ากัน ถือว่าเป็นอันตรายไหม?

การมีใบหน้าที่ไม่เท่ากันจากการยุบตัวของกล้ามเนื้อและกระดูก หรือการสลายของไขมันบนใบหน้า ถือเป็นเรื่องปกติที่ไม่ถือว่าเป็นอันตราย หากไม่ได้อาการที่เป็นสัญญาณบอกว่ามีภาวะการบาดเจ็บหรืออาการไม่ปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย

4 จุดที่ทำให้หน้าไม่เท่ากัน มีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง?

รู้ได้อย่างไรว่าหน้าไม่เท่ากัน? โดยทั่วไปแล้วองค์ประกอบหลักของใบหน้าจะมี 4 จุดด้วยกัน ซึ่งหากจุดใดจุดหนึ่งเกิดข้อแตกต่างก็อาจจะส่งผลทำให้องค์ประกอบโดยรวมของใบหน้าทั้งหมดดูเบี้ยวเอียง หรือดูไม่เท่ากัน โดยสามารถวิเคราะห์เทียบสัดส่วนของใบหน้าทั้งสองด้านของตัวเองได้จากการมองหน้าตัวเองผ่านกระจก หรือถ่ายรูปหน้าตรงแล้วขีดเส้นแบ่งครึ่งหน้า แล้วค่อยๆวัดสัดส่วนบนใบหน้าตามตัวอย่างด้านบนว่ามีส่วนไหนที่เบี้ยว เอียงไม่เท่ากันหรือไม่

โหนกแก้มไม่เท่ากัน

เป็นปัญหาที่สามารถพบได้บ่อยซึ่งอาจลักษณะที่โหนกแก้มทั้งสองข้างมีขนาดที่แตกต่างกัน หรือมีลักษณะของตำแหน่งของกระดูกโหนกแก้มที่ต่างกัน จึงทำให้ส่วนกลางของใบหน้าทั้งสองข้างไม่เท่ากันอย่างเห็นได้ชัดเจน วิธีรักษาที่เหมาะ คือ การผ่าตัดศัลยกรรมเป็นวิธีที่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด โดยศัลยแพทย์จะทำการตัด กรอ หรือยุบโหนกแก้ม ตามความเหมาะสมเพื่อปรับลดขนาดให้มีความเหมาะสม ซึ่งสามารถแก้ปัญหาไม่เท่ากันได้อย่างถาวร เห็นผลทันทีหลังการผ่าตัด และจะเห็นผลชัดเจนหลังหายจากอาการบวมต่างๆดีแล้ว 3-6 เดือน

แก้มไม่เท่ากัน

แก้มไม่เท่ากันโดยส่วนมากมักจะเกิดขึ้นจากการมีไขมันส่วนเกินบริเวณแก้มที่ไม่เท่ากัน ทำให้ใบหน้าส่วนล่างมีลักษณะที่ดูแตกต่างกันอย่างชัดเจน

วิธีรักษาที่เหมาะ การแก้ไขปัญหาหน้าไม่เท่ากันจากไขมันสามารถแก้ไขได้หลายวิธี ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาเลือกวิธีที่เหมาะกับแต่ละบุคคล สามารถแก้ไขได้หลายวิธี เพื่อให้ตอบโจทย์ของปัญหาและความต้องการของคนไข้มากที่สุด ได้แก่

ฉีดแฟตลดแก้ม
  • ฉีดเมโสแฟตลดแก้มให้เท่ากัน

เมโสแฟต เป็นการฉีดตัวยาสลายไขมัน ที่มีการออกฤทธิ์ช่วยเร่ง ระบบการเผาผลาญไขมันของร่างกาย และลดกระบวนการเกิดเซลล์ไขมันใหม่ของร่างกายในอนาคต สามารถเห็นผลรวดเร็วใน 7-14 วัน และผลลัพธ์ชัดเจนใน 1 เดือน

hifu ยกกระชับใบหน้าให้เท่ากัน
  • HIFU ยกกระชับใบหน้าให้เท่ากัน

HIFU เป็นการใช้พลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ที่มีความเข้มข้นสูงส่งลงไปยังใต้เนื้อเยื่อผิวในระดับลึกถึงชั้น Superficial Muscular Aponeurotic System หรือ SMAS เพื่อให้เนื้อเยื่อเกิดการหดตัว ซึ่งจะช่วยลดไขมันใต้ผิวและเร่งการสร้างคอลลาเจน จึงส่งผลให้ไขมันแก้มลดลง ผิวดูยกกระชับขึ้น เห็นผลประมาณ 20% หลังทันที และเห็นผลชัดเจนใน 1-2 เดือน

อ่านเพิ่มเติม : 10 ข้อควรรู้ก่อนทำ Hifu คืออะไร? มีกี่แบบ? เลือกยี่ห้อไหนดี ให้เหมาะกับเรา

  • Ulthera ยกกระชับแก้ม

Ulthera เป็นการใช้เทคโนโลยียกกระชับแบบ Original ในรูปแบบของคลื่นเสียงความถี่สูงและมีความเฉพาะเจาะจงสูง เพื่อจะให้เกิดความร้อน 60-70°C ด้วยพลังงานขนาด 1 mm. ที่มีลักษณะเป็นจุดไข่ปลาเล็ก ๆ ใต้ชั้นผิว เพื่อเป็นการจัดระเบียบการเรียงตัวของชั้นไขมัน และแก้ไขปัญหาแก้มห้อย ผิวหน้าหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ให้มีความยกกระชับมากขึ้น เห็นผลหลังทำทันทีประมาณ 30% และผลชัดเจนภายใน 1-3 เดือน

  • Thermage ยกกระชับกรอบหน้า
thermage ยกกระชับกรอบหน้าให้เท่ากัน

Thermage เป็นเทคโนโลยีที่มีการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียว (Monopolar) ส่งผ่านพลังงานก้อนความร้อนขนาด 3-16 cm2 ลงไปยังชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) และไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous) ซึ่งอยู่ลึกสุดของโครงสร้างผิว เพื่อให้เกิดการแยกโมเลกุลของน้ำออกจากเส้นใยคอลลาเจน เพื่อให้คอลลาเจนหดตัวทันที จึงทำให้ใบหน้าเกิดการยกกระชับ ช่วยให้ใบหน้าทั้ง 2 ข้างมีความใกล้เคียงกันมากขึ้น โดยจะค่อยๆเห็นผลภายในระยะเวลา 3-6 เดือน

  • ร้อยไหม

ร้อยไหม เป็นอีกหนึ่งวิธียกกระชับผิว โดยใช้ไหมละลายที่มีเงี่ยงใส่เข้าไปใต้ชั้นผิว เพื่อให้เกิดการยึดเกาะกับชั้นผิวและดึงยกกระชับขึ้นได้ตามที่ต้องการ จึงสามารถประให้ใบหน้าทั้ง 2 ข้างมีความใกล้เคียงกันได้ไม่ยาก นอกจากนี้ยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นได้อีกด้วย เห็นผลหลังทำทันทีและเห็นผลที่ชัดเจนใน 1 เดือน

  • ฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าให้เท่ากัน
ฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าให้เท่ากัน

ฟิลเลอร์ เป็นการปรับรูปหน้าด้วยสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid หรือ HA ซึ่งเป็นสารที่ถูกสร้างขึ้นมาเรียนแบบโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharide) ซึ่งที่มีอยู่ในร่างกายเช่น ผิวหนังและกระดูกอ่อน จึงสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ โดนฉีดลงไปยังชั้นเนื้อเยื่อ SMAS (Superficial MusculoAponeurotic system) เพื่อเสริมชั้นใต้ผิวหนังดูเต็มขึ้น อวบอิ่มฟูขึ้น และช่วยแก้ไขปัญหาใบหน้าทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากันได้ทันที โดยเฉพาะปัญหาใบหน้าไม่เท่ากันจากกล้ามเนื้อและไขมันยุบตัว โดยจะเห็นผลการรักษาจะอยู่ได้นาน 6-18 เดือน

อยากรู้ว่าฉีดฟิลเลอร์แต่ละจุดช่วยอะไร สามารถอ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ แต่ละจุดช่วยเรื่องอะไร ครบทุกเรื่อง ที่ควรรู้ก่อนฉีดครั้งแรก 2023

  • ดูดไขมันหน้า

ดูดหรือฉีดไขมัน เป็นการแก้ไขปัญหาหน้าทั้ง 2 ฝั่งไม่เท่ากันจากปริมาณการสะสมของไขมัน ซึ่งการดูไขมันหน้าหรือการฉีดไขมันถือเป็นการศัลยกรรมชนิดหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ใบหน้าช่วงแก้มของทั้ง 2 ข้างใกล้เคียงกัน และทำให้ใบหน้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้น เห็นกรอบหน้าชัดขึ้น ซึ่งสามารถเห็นผลได้ทันทีและเห็นผลชัดเจนใน 3-6 เดือน

การผ่าตัด การผ่าตัด เป็นการตัดไขมันที่อยู่ในชั้นไขมันกระพุ้งแก้มออก ซึ่งจะช่วยทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาหน้าใบหน้าไม่เท่ากันได้ เนื่องจากในบางคนอาจมีปัญหาใบหน้าไม่เท่ากันจากการมีไขมันกระพุ้งแก้มทั้ง 2 ฝั่งไม่เท่ากัน แต่การแก้ไขด้วยวิธีนี้แพทย์จะไม่ค่อยแนะนำเนื่องจากหลังการผ่าตัดเห็นความแตกต่างน้อย และอาจจะต้องมีการพักฟื้นหลายวัน

กรามไม่เท่ากัน

ปัญหากรามทั้ง 2 ข้างมีขนาดไม่เท่ากันอาจทำให้ใบหน้าส่วนล่างดูเบี้ยว หรือมีลักษณะกรามใหญ่ ซึ่งอาจทำให้หลายๆ คนหมดความมั่นใจ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งจากกระดูกและกล้ามเนื้อ ดังนั้นจึงต้องเลือกวิธีการแก้ปัญหาให้ตรงจุด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด วิธีรักษาที่เหมาะ สามารถแก้ไขได้หลายวิธี เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการและแก้ไขปัญหาของคนไข้ได้อย่างตรงจุด ได้แก่

  • ฉีดโบท็อกลดกราม
หน้าไม่เท่ากัน ฉีดโบลดกราม

โบท็อก เป็นการฉีดสารโบทูลินั่มท็อกซิน (Botulinum toxin Type A) ที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) ซึ่งมีหน้าที่ช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อกราม ส่งผลให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลง เป็นการแก้ไขที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อกรามมีขนาดไม่เท่ากัน ส่งผลทำให้หน้าดูเบี้ยว ซึ่งจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ภายใน 7 วัน

  • ศัลยกรรมผ่าตัดกราม

ศัลยกรรม เป็นการผ่าตัดบริเวณตรงกรามเพื่อปรับให้มุมกรามทั้ง 2 ข้ามอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้เคียงกัน และลดขนาดกรามของทั้งสองข้างให้เท่ากัน ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหากรามไม่เท่ากันที่เกิดจากการที่กระดูกได้อย่างตรงจุด ให้ผลลัพธ์ถาวร แต่อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นค่อนข้างนาน และเห็นผลชัดเจนหลังการผ่าตัดไปแล้ว 3-6 เดือน

  • การถอนหรือผ่าฟันคุด

ถอนฟัน การที่มีฟันเรียงซ้อนทับกันมากๆ อาจจะทำให้การบดเคี้ยวอาการเป็นไปได้ยาก และทำให้เคี้ยวอาหารได้เฉพาะฝั่งที่ถนัดเท่านั้น ซึ่งอาจทำให้กรามทำงานหนักจนใบหน้าดูเบี้ยวเอียงไปฝั่งใดฝั่งหนึ่งได้ ซึ่งการถอนฟันที่ซ้อนทับกันออกไปจะช่วยทำให้การเคียวอาหารดีขึ้น แต่ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาหน้าไม่เท่ากันโดยตรง

  • จัดฟันให้หน้าเท่ากัน

จัดฟัน การจัดฟันเป็นการรักษาแนวเรียงฟันให้เข้าที่และมีความสวยงามมากขึ้น รวมถึงช่วยแก้ไขรูปปากได้บางส่วน เพราะเมื่อรูปฟันมีการเปลี่ยนแปลงรูปปากก็จะมีการเปลี่ยนแปลงไปด้วย แต่ไม่ใช้วิธีที่จะช่วยรักษาให้ใบหน้ามีความเท่ากันได้โดยตรง เพราะการจัดฟันไม่สามารถแก้ไขปัญหาของกล้ามเนื้อหรือกระดูกบริเวณกรามได้

ขากรรไกรไม่เท่ากัน

กระดูกขากรรไกร หน้าเบี้ยวที่เกิดจากความผิดปกติของขากรรไกรมักจะมีลักษณะ คางหดสั้นมาก คางยาว คางยื่นผิดปกติ หรือมีหน้าเบี้ยวเอียงบิดเบี้ยวผิดรูป ขากรรไกรบนยื่นจนปิดปากให้สนิทได้ยาก ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติของกระดูกบริเวณขากรรไกรโดยเฉพาะ โดยมีวิธีรักษาที่เหมาะดังนี้

  • ผ่าตัดขากรรไกร

ศัลยกรรมขากรรไกรร่วมกับการจัดฟัน เป็นวิธีที่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดมากที่สุด โดยศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดเลื่อนขากรรไกรบนและล่างให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ร่วมกับการจัดฟันเพื่อให้แนวฟันมีการเรียงตัวเป็นปกติ ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนานที่สุด และมีค่าใช้จ่ายสูงที่สุดอีกด้วย

ท่าบริหารใบหน้าให้เท่ากัน

ออกกำลังกายช่วยแก้ใบหน้าไม่เท่ากันได้ไหม?

สำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าไม่เท่ากันที่มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมต่างๆ ที่ส่งผลต่อกล้ามเนื้อของใบหน้า คุณสามารถแก้ไขด้วยการลองออกกำลังกายตามท่าบริหารใบหน้าต่างๆ ที่ออนนี่เตรียมมาฝากดังนี้

  • กระชับผิว ในบางกรณีความหย่อนคล้อยของผิว ด้วยท่า Kiss the sky หรือการทำปากจู๋ แล้วยิ้มให้ปากขยับน้อยที่สุด เพื่อให้กล้ามเนื้อในบริเวณนี้เกิดความกระชับมากที่สุด แนะนำให้ทำซ้ำอย่างน้อย 10 ครั้ง/วัน
  • กระชับกล้ามเนื้อหน้า เพื่อเป็นการช่วยให้กล้ามเนื้อใบหน้าทั้งสองข้างกระชับขึ้น โดยเริ่มจากการเอามือทั้งสองข้างมาประกบที่ใบหน้า จากนั้นฝืนการยิ้มเอาไว้ โดยมือประกบเอาไว้อยู่อย่างนั้น ทำอย่างน้อย 10 ครั้ง/วัน
  • ยืดยกแก้ม เพื่อให้กล้ามเนื้อและผิวหนังแก้มได้มีการยืดหดตัวได้อย่างเท่าเทียมกัน โดยเริ่มจากการพองลมที่แก้ม จากนั้นสูดลมเข้าไป แล้วผลักลมไปทางแก้มฝั่งซ้ายและขวาสลับกันไปมา 4 ครั้ง นับเป็น 1 เซ็ต แนะนำทำอย่างน้อย 5 เซ็ต/วัน วิธีนี้ซึ่งจะช่วยปรับให้ใบหน้าทั้ง 2 ข้างดูเท่ากันมากขึ้น
  • ยืดคอ การบริหารเพื่อให้เห็นโครงหน้าที่ชัดเจนขึ้น หรือให้กล้ามเนื้อบริเวณลำตัวเกิดการกระชับขึ้น โดยการเบิกตาให้กว้าง เลิกคิ้วขึ้น และแลบลิ้นออกมา ค้างไว้ 60 วินาที แนะนำให้ทำต่อเนื่อง 10 ครั้ง/วัน

การดูแลตัวเองป้องกันปัญหาหน้าไม่เท่ากัน

  • เปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร โดยการเลิกเคี้ยวอาหารข้างเดียว โดยเฉพาะอาหารแข็งๆหรืออาหารเหนียวๆ
  • บริหารใบหน้า เพื่อให้กล้ามเนื้อทุกส่วนได้มีการขยับไปพร้อมๆกัน เช่น การอ้าปาก หรือพูดเสียงอา อี อู
  • ฉีดโบท็อกลดกรามเพื่อให้กล้ามเนื้อกรามทั้งสองข้างมีขนาดที่ใกล้เคียงกันอยู่เสมอ
  • หลีกเลี่ยงการยกคิ้วข้างเดียว กาายิ้มมุมปาก และหลีกเลี่ยงการนอนทับหน้าด้านใดด้านหนึ่ง
  • ทำทรีทเม้นบำรุงผิวอยู่เสมอ เพื่อให้ผิวมีความแข็งแรง ไม่เกิดการหย่อนคล้อยได้ง่าย

เลือกคลินิกปรับรูปหน้าแก้ปัญหาหน้าไม่เท่ากันอย่างไรดี

  • เลือกคลินิกคลินิกเฉพาะทางที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำอยู่ที่สาขา เพื่อขนได้สามารถได้รับการประเมินปัญหา และใช้วิธีการแก้ไขได้อย่างตรงจุด
  • เลือกคลินิกที่มีหลายเทคโนโลยีสำหรับการแก้ไขปัญหา เพื่อให้สามารถแก้ไขใบหน้าที่ไม่เท่ากันได้จบในที่เดียวกัน
  • เลือกคลินิกที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS, MRT เพื่อให้สามารถเดินทางได้อย่างสะดวก และไม่ต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางมาก
  • เลือกคลินิกที่มีการขึ้นทะเบียน และมีเลขที่ประกอบกิจการ 11 หลัก อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
  • เลือกคลินิกที่มีความใส่ใจในทุกขั้นตอนการรักษา ตั้งแต่การรักษาความสะอาด การฆ่าเชื้อ การรักษา และการติดตามอาการ
  • เลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจากแหล่งที่เชื่อถือได้เพื่อให้ช่วยตัดสินใจได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องกังวล หรือเสียเวลาทดลองด้วยตัวเอง

สรุปวิธีไหนดีที่สุด

การเลือกวิธีแก้ปัญหาใบหน้าไม่เท่ากัน ก่อนอื่นจะต้องทราบถึงต้นเหตุของปัญหาเสียก่อนว่าเกิดจากอะไร เช่นเกิดจากกล้ามเนื้อ กระดูก และไขมัน ซึ่งสามารถแก้ไขได้หลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการฉีดโบท็อก เมโสแฟต การฉีดฟิลเลอร์ Hifu เป็นต้น ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้วิเคราะห์การแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด เพื่อปรับให้ใบหน้าของคนไข้มีสัดส่วนที่สมดุลและมีมิติสวยงาม

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง