ตาโหล เบ้าตาลึกทำไงดี? มารู้จักสาเหตุและวิธีแก้ตาโหลให้กลับมาสดใสอีกครั้ง

ตาโหล-เบ้าตาลึก

ใคร ๆ ก็อยากมีใบหน้าที่ดูสดใสอ่อนกว่าวัยกันทั้งนั้น แต่ถ้าต้องเจอกับปัญหาตาโหล เบ้าตาลึก การมีใบหน้าที่สดใสนั้นก็คงเป็นไปได้ยาก เพราะตาโหลนั้นส่งผลโดยตรงที่ทำให้ใบหน้าดูหมองคล้ำ อิดโรย ไม่สดใส ดูโทรม เหมือนคนง่วงนอนอยู่ตลอดเวลา วันนี้เราจึงจะมาเผยสาเหตุตาโหล เบ้าตาลึก และแนะนำวิธีการแก้ไขที่ถูกต้อง เพื่อช่วยป้องผิวรอบดวงตาของคุณได้ทันเวลา ซึ่งสิ่งที่จะต้องรู้เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหามีอะไรบ้าง สามารถศึกษาข้อมูลได้จากบทความนี้

ตาโหล เบ้าตาลึก คืออะไร?

ตาโหล เบ้าตาลึก

ตาโหล ตาโบ๋ เบ้าตาลึก (Sunken eyes) คือปัญหาผิวใต้ตาที่เกิดร่องลึกขึ้นส่วนรอบดวงตา ซึ่งในบางรายที่มีอาการตาโหลมาก ๆ นั้นจะทำให้สามารถเห็นชั้นตาเป็นชั้น ๆ และเห็นส่วนขอบกระดูกเบ้าตาได้ชัดเจนมากทั้งส่วนด้านบนและด้านล่างของดวงตา ทำให้ส่วนดวงตาดูโบ๋ลึกเข้าไปในผิวจนมองเห็นเป็นวง มีลักษณะเหมือนเบ้าตาฝรั่ง หรือในบางกรณีอาจดูมีชั้นตาหลายชั้น ซึ่งจะทำให้ใบหน้าดูมีอายุแก่กว่าวัย มีรอยคล้ำใต้ตา ใบหน้าดูเศร้าไม่สดใส ดูอิดโรย ดูเหนื่อยล้า

สาเหตุของตาโหล เบ้าตาลึก เกิดจากอะไร?

สาเหตุของเบ้าตาลึกสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต และองค์ประกอบอื่นๆ เช่น

  • กรรมพันธุ์ โดยส่วนใหญ่จะพบในคนที่มีเชื้อแขก เกิดจากโครงสร้างกะโหลกบริเวณเบ้าตาที่ลึกและมีไขมันที่เบ้าตาน้อยตั้งแต่เกิด
  • อายุที่เพิ่มขึ้น เมื่ออายุเพิ่มขึ้นอาจทำให้เกิดการยุบของมวลกระดูก และไขมันมีการฝ่อตัวยุบลง จึงทำให้ผิวบางลง จนเกิดปัญหาตาโหล เบ้าตาลึก เห็นขอบตาดำได้อย่างชัดเจน
  • เคยทำตาสองชั้น โดยทำชั้นตาให้สูงเกินไปจนดูไม่เห็นธรรมชาติ หรือไขมันใต้ชั้นตาเหลือน้อยเกินไป จึงทำให้ตาดูโหลเบ้าตาลึก
  • การนอนดึก ส่งผลทำให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพและไขมันหายไปได้เร็วกว่าปกติ จนทำให้ใต้ตาเกิดการยุบตัวเป็นเบ้าตาลึกได้
  • ภูมิแพ้ เนื่องจากการไหลเวียนของเลือดไม่ดี ทำให้เส้นเลือดฝอยไปคั่งที่โพรงจมูก จนปิดกั้นการไหลเวียนของเลือดทำให้ใต้ตาดูดำคล้ำ
  • การขี้ตาบ่อยๆ การขยี้ตาอาจทำให้เซลล์ผิวหนังเสื่อมสภาพจนเกิดรอยพับ กลายเป็นริ้วรอย และทำให้เกิดการสร้างเม็ดสีเมลานิน บริเวณดวงตาเพิ่มขึ้น
  • โรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง จะทำให้เปลือกตาไม่สามารถเปิดได้สุด และทำให้เกิดร่องลึกอยู่เหนือเปลือกตาซึ่งจะเห็นได้ว่าเบ้าตามีความลึกกว่าปกติ

ตาโหล เบ้าตาลึก ดูยังไง สังเกตุได้จากอะไร ?

ตาโหล-เบ้าตาลึก-เป็นอย่างไร

การที่มีปัญหาตาโหล เบ้าตาลึกสามารถสังเกตุได้ง่ายๆดังนี้

  • เมื่อส่องกระจกจะสามารถสังเกตุเห็นกระดูกบริเวณเบ้าตาหรือใต้คิ้วได้อย่างชัดเจน
  • ดวงตาไม่สดใส ใบหน้าดูเหนื่อย และดูอิดโรยตลอดเวลา
  • มีชั้นตาเป็นหลายชั้น หรือมีชั้นตาที่ลึกเข้าไปในเบ้าตา
  • รอบดวงตาดูคล้ำมากกว่าปกติ ใต้ตามีริ้วรอยที่เห็นชัด

ลักษณะของผู้ที่มีตาโหล เบ้าตาลึก ?

เบ้าตาลึก
  • บริเวณเหนือชั้นตาจะมีร่องลึกตรงเปลือกตา
  • ใบหน้าดูดุ แข็งทื่อ เนื่องจากเห็นขอบกระดูกเบ้าตา บริเวณใต้คิ้วชัดเจน
  • ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ดวงตาไม่สดใส ดูอิดโรย ดูโทรม เหมือนคนอดนอน
  • ตาปรือ ลืมตาไม่สุด เนื่องจากมีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงร่วมด้วย
  • ชั้นตาดูหน้า ชั้นตาสูงดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือมีหลายชั้นทำให้ชั้นตาดูลึก

วิธีแก้ตาโหล-เบ้าตาลึก แต่ละวิธีเหมาะกับใคร?

สำหรับใครที่มีปัญหาตาโหลเบ้าตาลึก อย่าเพิ่งกังวลเพราะปัจจุบันได้มีวิธีแก้ไขตาโหลเบ้าตาลึกทั้งด้วยวิธีทางการแพทย์ และการแกไขด้วยตัวเอง ซึ่งมีข้อดี-ข้อเสีย และความเหมาะสมที่แตกต่างกันดังนี้

1. ฉีดฟิลเลอร์แก้ใต้ตาลึก

ก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์ แก้ตาโหล เบ้าตาลึก

ฟิลเลอร์ใต้ตา (Under-Eye Filler) เป็นการฉีดสารเติมผิวที่มีชื่อว่ากรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic acid) เข้าสู่ใต้ผิวหนังตรงบริเวณร่องน้ำตาที่ลึก (Tear Trough) เพื่อช่วยให้ผิวหนังเต็มขึ้น ช่วยแก้ไขปัญหารอบดวงตาได้ทุกปัญหาได้อย่างปลอดภัย เหมาะกับผู้อายุ 25 ปีขึ้นไป ที่มีปัญหาใต้ตาจะยุบลงทุกผู้ที่มีปัญหาใต้ตาหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น มีถุงใต้ตา ตาบนลึกโหล มีใต้ตาดำมาจากพันธุกรรม มีโรคภูมิแพ้ มีเอ็นรอบดวงตาหย่อนคล้อย กระดูกเบ้าตาใต้ดวงตาลดลง สามารถเห็นผลได้ประมาณ 2-4 สัปดาห์หลังการฉีด

ข้อดีและข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถช่วยแก้ปัญหาใต้ตาเหี่ยวย่น แก้ปัญหาตาลึกโหล ร่องน้ำตา ร่องใต้ตาลึกแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ปรับโหงวเฮ้งของใบหน้า แก้ปัญหาถุงใต้ตา เติมฐานกระดูกเพื่อทดแทนไขมันที่หายไปได้อย่างปลอดภัย เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังการฉีด
  • ข้อเสียการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือไม่สามารถอยู่ได้ถาวร เนื้อฟิลเลอร์จะสลายไปตามระยะเวลา 4-18 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อ จำเป็นต้องฉีดซ้ำเพื่อรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน หลังทำอาจมีอาการบวมแดง แต่จะหายไปเองใน 2-3 วัน

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ลดปัญหาใต้ตาลึกและคล้ำ ให้ดูสดใส ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

2. การเติมไขมันใต้ตา

เติมไขมันใต้ตา คือการแก้ไขปัญหาริ้วรอยและร่องลึกตรงบริเวณใต้ตาเป็นการเติมไขมันของคนไข้เอง โดยแพทย์จะทำการเลือกไขมันส่วนเกินของคนไข้ แล้วดูดไขมันออกมา ก่อนนำไปปั่นเพื่อแยกสกัดเอาสเต็มเซลล์ออกมาใช้ ผสมกับเนื้อเยื่อไขมันแล้วนำไปเติมเต็มบริเวณใต้ตาให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ใต้ตาบุ๋ม ร่องใต้ตาลึก เพื่อช่วยให้ใบหน้าเด็กลง สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนขึ้นประมาณ 1-2 เดือน

ข้อดีและข้อเสียของการเติมไขมันใต้ตา

  • ข้อดีของเติมไขมันใต้ตา เป็นการใช้ไขมันตัวเองจึงไม่ต้องเสี่ยงต่อการแพ้ สามารถช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาบุ๋มลึก ผิวใต้ตาหมองคล้ำ ลดริ้วรอย ส่งผลให้ใบหน้าดูสดใสแลดูอ่อนเยาว์เสมอ
  • ข้อเสียของเติมไขมันใต้ตา หากให้ฉีดเข้าหลอดเลือดอาจส่งผลให้เนื้อตายหรือตาบอดได้ และสามารถแก้ไขได้ยากต้องใช้วิธีการผ่าตัดเท่านั้น

3. ศัลยกรรมตาสองชั้น

การทำศัลยกรรมตาสองชั้น เป็นการทำศัลยกรรมตาสองร่วมกับการปรับกล้ามเนื้อตา โดยจักษุแพทย์หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำศัลยกรรมตา เพื่อเย็บกล้ามเนื้อให้มีความกระชับขึ้น และตัดหนังตาที่หย่อนคล้อย เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ตาเศร้าและตาง่วงนอน ซึ่งจะสามารถเห็นผลได้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ หากครบ 3 เดือน ตาจะหวานขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ข้อดีและข้อเสียของการศัลยกรรมตา

  • ข้อดีของศัลยกรรมตาสองชั้น ได้ชั้นตาที่สวย แผลเล็กใช้เวลาพักฟื้นน้อย ให้ผลลัพธ์แบบถาวร
  • ข้อเสียของศัลยกรรมตาสองชั้น อาจเกิดอาการปวดแดง หรือมีการอับเสบขึ้นได้ ในช่วงเวลา 1-2 สัปดาห์ และเสี่ยงต่อการทิ้งรอยแผลเป็น

4. ผ่าตัดรักษาถุงใต้ตา

การผ่าตัดเพื่อเอาถุงไขมันหรือหนังตาส่วนเกินออก ซึ่งการทำให้ผิวหนังบริเวณใต้ตาดูตึงและเรียบเนียนมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่อายุน้อย หรือ มีไขมันเกิน ถุงใต้าหย่อนคล้อยมาก เพื่อช่วยปรับหนังผิวให้ดูเรียบเนียนกระชับขึ้น สามารถเห็นผลได้ใน 1 – 2 สัปดาห์ หลังจากที่อาการยุบบวมเริ่มดีขึ้น และเห็นผลที่ชัดเจนเมื่อแผลหายเต็มที่ภายใน 3 – 6 เดือน

ข้อดีและข้อเสียของการผ่าตัดรักษาถุงใต้ตา

  • ข้อดีการผ่าตัดถุงใต้ตารักษา ช่วยเก็บผิวหนัง กระชับผิวใต้ตา ให้ใบหน้สกลับมาดูสดใสอ่อนเยาว์มากขึ้น
  • ข้อเสียการผ่าตัดถุงใต้ตารักษา อาจใช้เวลาพักฟื้นนาน และอาจเกิดอาการปวดบวมขึ้น บางรายอาจถึงขั้นติดเชื้ออับเสบได้

5. การทาครีมบำรุงใต้ตา

การทาครีมบำรุงใต้ตาที่มีส่วนผสมของวิตามิน C, เรตินอล (Retinol), กรดโคจิก (Kojic acid), ลิโคไรซ์ (Licorice Extract), อาร์บูติน (Arbutin), ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) หรือกรดผลไม้ (AHA) จากนั้นนวดให้เบาๆ เพื่อให้ครีมซึมซาบลงสู้ผิวได้ดีขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีตาโหลและมีริ้วรอยใต้ตาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อปรับให้ผิวใต้ตาเรียบเนียนและกระจ่างใส่ขึ้น แต่อาจต้องใช้ความสม่ำเสมอและความอดทนในการรักษา

ข้อดีและข้อเสียของการทาครีมบำรุงใต้ตา

  • ข้อดีการทาครีมบำรุงใต้ตา ช่วยป้องกันริ้วรอยรอบดวงตา ลดรอยเหี่ยวหย่น ช่วยฟื้นบำรุงผิวรอบดวงตาให้มีความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี
  • ข้อเสียการทาครีมบำรุงใต้ตา เห็นผลช้าอาจต้องใช้ระยะเวลาในการเห็นผลอย่างน้อย 1-3 เดือนขึ้นไป หรือในบางกรณีอาจจะไม่เห็นผลเลย

6. การมาส์กใต้ตา

มาร์กใต้ตา

การมาส์กใต้ตา เป็นการใช้แผ่นบำรุงขนาดเล็กที่อุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารที่จำเป็นต่อผิวแปะไว้บริเวณใต้ตาอย่างน้อย 20-40 นาที เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ชะลอริ้วรอย ลดความหมองคล้ำ ไปจนถึงช่วยลดอาการบวมบริเวณใต้ตาโดยเฉพาะ หากใช้เป็นประจำอย่างพอเหมาะก็จะช่วยให้ใต้ตาดูสดใสมีชีวิตชีวามากขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำ ผิวรอบดวงตาหย่อนคล้อยและมีริ้วรอย เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวกลับมาอิ่มน้ำอีกครั้ง โดยมีระยะการเห็นผลอยู่ที่ 1-2 สัปดาห์หากทำอย่างต่อเนื่อง

ข้อดีและข้อเสียของการมาส์กใต้ตา

  • ข้อดีของการมาส์กใต้ตา เป็นวิธีที่ช่วยกระชับผิวหนังใต้ตา ลดความหมองคล้ำ ลดริ้วรอย เพิ่มความกระจ่างใส ช่วยปรับสีผิวให้ดูสดใสขึ้นแบบประหยัด และไม่ต้องเจ็บตัว
  • ข้อเสียของการมาส์กใต้ตา แผ่นมาร์คบางยี่ห้ออาจทำให้เกิดการระคายเคือง รวมถึงมีอาการคันจนเกิดการอักเสบติดเชื้อตามมาได้

7. การพักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นวิธีอีกอย่างหนึ่งที่สามารถช่วย คืนสภาพผิวใต้ตาให้กลับมาสดใสได้อีกครั้ง ควรนอนให้ได้ 7 – 8 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นการพักผ่อนที่มีคุณภาพ เพื่อช่วยให้ใบหน้าสดใส ดูสุขภาพดี แข็งแรงยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวคล้ำใต้ตา จนทำให้ดวงตาดูอ่อนล้าง่วงนอนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการพักผ่อนอย่างเต็มที่ติดต่อกัน 3-7 วัน จะช่วยให้ใต้ตากลับมาสดใสได้

ข้อดีและข้อเสียของการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ

  • ข้อดีการพักผ่อน การพักผ่อนจะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอต่าง ๆ ของร่างกายจากการปรับสมดุลของสารเคมีต่าง ๆ ทำให้หัวใจและหลอดเลือดได้พักผ่อน เพื่อให้ขบวนการเรียบเรียงและจัดเก็บในสมอง พร้อมดึงกลับมาใช้และเรียนรู้สิ่งใหม่ ได้อย่างเต็มที่และเพื่อผิวพรรณที่เปล่งปลั่งอ่อนเยาว์อยู่เสมอ
  • ข้อเสียการพักผ่อน หากมีการพักผ่อนที่มากจนเกินไปอาจทำให้ น้ำหนักเพิ่มขึ้น สุขภาพและความจำแย่ลง รวมถึงความต้องการทางเพศลดลง จนเกิดอาการซึมเศร้า ภูมิต้านทานอ่อนแอลงได้

8. การร้อยไหมฟิลเลอร์ด้วยไหม Volume

คือวิธีการร้อยไหมยกกระชับผิวปรับผิวให้มีความเต่งตึง เรียบเนียนขึ้น ทั้งยังมีส่วยช่วยในการเติมเต็มผิว ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวให้มีความเอิบอิ่มมากยิ่งขึ้นจึงทำให้สามารถช่วยแก้ปัญหาเบ้าตาลึก ตาโหลได้ดี นอกจากนั้นไหมตัวนี้ยังสามารถสลายได้เองโดยไม่ก่อให้เกิดความอันตรายใดๆ แต่ร่างกาย

ข้อดีและข้อเสียของการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ

  • ข้อดี ช่วยลดใต้ตาดำ ลดริ้วรอย ช่วยปรับยกหางตา ถุงใต้ตาให้กระชับขึ้น และสามารถเห็นผลได้ทันทีหลังทำ และหลังทำไม่ต้องพักฟื้นและสามารถเห็นผลได้นานถึง 6-8 เดือนหรือบางรายสามารถเห็นผลได้นาน 12 เดือน
  • ข้อเสีย ไม่สามารถเห็นผลได้แบบถาวรและยังไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องการกลัวเข็มหรือหัตถการฉีดต่างๆ

ตาโหล เบ้าตาลึก อันตรายไหม ?

โดยทั่วไปตาโหล ตาโบ๋ ไม่ใช่อาการที่ส่งผลอันตรายต่อสุขภาพของร่างกาย แต่เป็นสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าดูโทรม และดูเหนื่อยล้า ใบหน้าดูโทรมไม่สดใส จนส่งผลต่อความมั่นใจ ในเรื่องของบุคลิกภาพ นอกจากนี้ตาโหล เบ้าตาลึกยังเป็นโหงวเฮ้งที่ไม่ดีอีกด้วย

ตาโหล เบ้าตาลึก สามารถป้องกันได้หรือไม่?

วิธีป้องกันอาการตาโหล เบ้าตาลึก

การป้องกันปัญหาตาโหล เบ้าตาลึกที่เกิดจาปัจจัยภายนอกและพฤติกรรมการใช้ชีวิตสามารถป้องกันได้ด้วยวิธีต่างๆดังต่อไปนี้

  • หลีกเลี่ยงการขยี้ตา เพื่อลดการเสียดสีที่อาจเป็นสาเหตุขอกการยุบตัวของไขมันบริเวณรอบดวงตาและป้องกันริ้วรอย
  • หลีกเลี่ยงความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ และทำให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อลดการเกิดภูมิแพ้
  • ควรดื่มน้ำสะอาดวันละ 8-10 แก้ว เพราะน้ำจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยทำให้ผิวใต้ตาดูอิ่มฟูขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และงดการสูบบุหรี่เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ ทำให้ผิวไม่ชุ่มชื่นและยุบตัว
  • หมั่นทาครีมบำรุงผิวใต้ตาให้มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ เนื่องจากสภาพผิวแห้งจะทำให้เกิดริ้วรอยใต้ตา เบ้าตาลึก ตาโหลได้ง่ายกว่า

การคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้ได้มาตรฐาน

  • เลือกคลินิกที่เปิดให้บริการอย่างถูกฎหมาย มีมาตรฐาน มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำค่อยให้คำปรึกษา
  • เลือกคลินิก ที่มีการรักษาด้วยหลายเทคนิค เพื่อให้คนไข้สามารถได้รับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมมากที่สุด
  • เลือกคลินิกที่ผ่านการรับรองจาก กระทรวงสาธารณสุข เพื่อความปลอดภัยของตัวคนไข้เอง
  • เลือกคลินิกทำหัตถการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถใช้เทคนิคการรักษาได้เป็นอย่างดี
  • เลือกคลินิก ที่มีหลายสาขา มีที่จอดรถอย่างกว้างขวาง หากเปิดในห้างสรรพสินค้าได้ก็ยิ่งดี
  • เลือกคลินิกที่มีการเปิดเผยราคาอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเปรียบเทียบและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
    รีวิวการแก้ไขตาโหล เบ้าตาลึก

สรุป แก้ไขตาโหล เบ้าตาลึกอย่างไรดี

ก่อนรักษาตาโหล ตาลึก ใต้ตาดำคล้ำ ควรได้รับการพิจารณาถึงต้นเหตุให้แน่ชัดก่อนว่าเกิดจากอะไร เพื่อจะได้เลือกวิธีที่เหมาะสมและรักษาได้อย่างตรงจุด เช่นการรักษาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาซึ่งเป็นสารเติมเต็มกลุ่มไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ในผู้ที่มีปัญหาตาโหล เบ้าตาลึก ที่เกิดจากการยุบตัวของกระดูกและไขมัน
ดังนั้นเพื่อให้แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด คนไข้จำเป็นต้องเลือกเข้ารับการปรึกษาและรักษากับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อช่วยวิเคราะห์ปัญหา รวมถึงได้เลือกวิธีรักษาได้อย่างเหมาะสม ปลอดภัย คุ้มค่า และเห็นผลลัพธ์อย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด

ข้อมูลอ้างอิง

Sunken Eyes: Causes and Treatment. https://myvision.org/eye-conditions/sunken-eyes/

What to Know About Under Eye Hollows. https://www.webmd.com/beauty/what-to-know-under-eye-hollows

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง