ขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ เกิดจากอะไร? พร้อมเปิดวิธีแก้ขอบตาดำแบบเร่งด่วน

ปัญหาขอบตาดำ เหมือนหมีแพนด้า

ขอบตาดำเป็นหมีแพนด้าไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับคนที่นอนดึกเพียงอย่างเดียวเสมอไป แต่อาจมีสาเหตุเกิดขึ้นได้จาก กรรมพันธุ์ โรคภูมิแพ้ หรือการเสื่อมสภาพของโครงสร้างเนื้อเยื่อบริเวณใต้ตา ซึ่งวันนี้เราจะพามาดูกันว่าการทาอายครีมเพียงอย่างเดียวจะสามารถแก้ไขปัญหาขอบตาดำได้จริงไหม หรือหากต้องการลดรอยขอบตาหมีแพนด้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั้นต้องทำร่วมกับวิธีไหน?

ขอบตาดำ คืออะไร มีลักษณะอย่างไร?

ขอบตาดำ คือรอยสีดำหรือรอยหมองคล้ำที่ปรากฏอยู่บริเวณใต้ดวงตา ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นรอยดำหรือหรือเป็นรอยคล้ำแบบวงรีอยู่ที่ใต้ตา แต่สำหรับบางคนก็อาจจะมีรอยแดงบวมที่บริเวณขอบตาร่วมด้วย

สาเหตุที่ทำให้เกิดขอบตาดำ มีอะไรบ้าง?

ผิวหนังใต้ตามีสีคล้ำกว่าสีผิวปกติ ซึ่งเกิดจากความเข้มข้นของสีเมลานิน (melanin) ในผิวหนัง หรือเกิดจากเส้นเลือดรอบดวงตาไหลเวียนไม่สะดวก ทำให้เกิดการขยายตัวของเส้นเลือดดำ จึงทำให้ใต้ตาเกิดเป็นรอยดำ ซึ่งมักแบ่งสาเหตุหลักๆได้ดังนี้

  • เกิดจากอายุที่มากขึ้น
    อายุที่เพิ่มขึ้นถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาขอบตาดำหรือรอยคล้ำใต้ตา เนื่องจากเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นจะทำให้ผิวหนังบางลง และเกิดการยุบตัวของเนื้อเยื่อต่างๆใต้ผิวซึ่งทำให้เห็นเส้นเลือดและเม็ดสีเมลานินใต้ผิวหนังชัดเจนขึ้น
  • เกิดจากกรรมพันธุ์
    ขอบตาดำที่เกิดจากกรรมพันธุ์ มักเกิดจากโครงบนใบหน้าของคนในครัวครัว ที่มีลักษณะเบ้าตาลึก ทำให้เมื่อมีแสงตกกระทบเกิดเป็นเงามืดที่บริเวณขอบตา ซึ่งเป็นการถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากรุ่นสู่รุ่น เช่น พ่อแม่ พี่น้องเป็นต้น
  • เกิดจากโรคภูมิแพ้
    การเกิดอาการแพ้ อาจทำให้เกิดการอักเสบหรือระคายเคืองบริเวณรอบดวงตาซึ่งจะส่งผลทำให้การไหลเวียนของเลือดในบริเวณใต้ตาและจมูกทำงานได้ไม่สะดวก จึงเกิดอาการบวมปิดกั้นการไหลเวียนของเลือด ส่งผลทำให้เกิดเลือดคั่งอยู่ที่บริเวณผิวใต้ตา จนเป็นที่มาของขอบตาดำ คล้ำนั่นเอง
  • เกิดจากการขยี้ตาบ่อยๆ
    การขยี้ตาเป็นสาเหตุที่ส่งผลให้ผิวหนังรอบดวงตามีการยืดหยุ่นและเสียสภาพ จนเกิดการอักเสบหรือระคายเคือง ซึ่งอาจส่งผลให้เส้นเลือดใต้ผิวหนังบริเวณขอบตาเกิดการขยายตัวและทำให้เกิดเม็ดสีเมลานินเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้เห็นขอบตาดำได้อย่างชัดเจน อีกทั้ง การขยี้ตาบ่อยๆ ยังทำให้เกิดริ้วรอยใต้ตาได้อีกด้วย
  • เกิดจากสภาพอากาศ
    ในบางครั้งสภาพอากาศก็ส่งผลต่อผิวใต้ดวงตาของคุณได้ โดยเฉพาะสภาวะที่มีความชื้นต่ำหรืออากาศแห้งมากอย่างการอยู่ในห้องแอร์ ซึ่งจะทำให้เส้นเลือดบริเวณดวงตาขยายตัวจึงเห็นเป็นรอยดำใต้ตาได้ชัดเจนมากขึ้น
  • เกิดจากแสงแดด มีรังสี UV
    แสงแดดและแสง UV ถือเป็นตัวกระตุ้น การทำงานของเม็ดสีเมลานินให้มีความผิดปกติ โดยเฉพาะที่บนิเวณใบหน้า ที่ต้องมีการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง ดังนั้นหากออกแดดบ่อยๆโดยขาดการป้องกันก็อาจจะทำให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ และรอยหมองคล้ำรอบดวงตาได้
  • เกิดจากร่างกายขาดน้ำ
    การดื่มน้ำไม่เพียงพออาจมีผลต่อสภาวะของร่างกายและผิวหนัง ทำให้ผิวแห้ง ไม่กระจ่างใสเสื่อมโทรม โดยเฉพาะบริเวณใต้ ที่สามารถมองเห็นของตาดำได้ชัด เนื่องจากเซลล์ไม่สามารถฟื้นฟูสภาพผิวได้อย่างเต็มที่
  • เกิดจากการตั้งครรภ์
    การตั้งครรภ์เป็นสภาวะที่ทำให้ฮอร์โมนร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจส่งผลต่อการขยายตัวของเส้นเลือดใต้ผิว และส่งผลทำให้ผิวบางลง ซึ่งจะทำให้เห็นรอยคล้ำใต้ได้อย่างชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม
  • เกิดจากการสูบหรี่และการดื่มแอลกฮอล์
    การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์มีส่วนในการสร้างออกซิเดชันสูงจนเกินไปในร่างกาย ทำให้เส้นเลือดเกิดการขยายตัว และผิวบางลงจนเห็นขอบตาดำได้ชัดเจน
  • เกิดจากความเครียดและพักผ่อนไม่เพียงพอ
    ความเครียดก็เป็นอีกสาเหตุที่อาจทำให้เกิดปัญหาขอบตาดำได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีความเครียดสะสมส่งผลต่อการนอนหลับ ทำให้ผิวซีดจางและดวงตาเกิดเป็นรอยคล้ำที่สังเกตเห็นได้ชัด

วิธีแก้ขอบตาดำด้วยตนเอง

การแก้ขอบตาดำสามารถทำได้หลายวิธี สำหรับผู้ที่มีปัญหาไม่มาก หรือไม่ต้องการแก้ไขแบบเร่งด่วน สามารถแก้ไขเบื้อต้นด้วยตัวเองได้ดังนี้

ทาอายครีม

การทาอายครีม

อายครีมเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสกินแคร์ แก้ไขปัญหารอบดวงตาโดยเฉพาะ ซึ่งมักมีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid, Neuropeptides, Retinol และวิตามมินC ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดรอยขอบตาดำ ช่วยเพิ่มความสดชื่น และช่วยลดริ้วรอยให้กับผิวบริเวณรอบดวงตา แต่การทาอายครีมเพียงอย่างเดียวอาจต้องใช้ระยะเวลานาน และไม่สามารถแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มาสก์ใต้ตา

การมาสก์ใต้ตา

มาส์กใต้ตา หรือ อายมาส์ก ออกแบบมาเพื่อช่วยบำรุงลึกระดับเซลล์ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ชะลอริ้วรอย ขจัดความหมองคล้ำ ไปจนถึงช่วยลดอาการบวมบริเวณใต้ตา นอกจากนี้การมาสก์ใต้ตายังช่วยบำรุงผิวใต้ตาที่อ่อนล้าจากการใช้สายตาและนอนดึกให้กลับมาสดใสขึ้น

การนวดใต้ตา

การนวดใต้ตาเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดรอยขอบตาดำได้ โดยเริ่มจากกาาประคบอุ่นที่บริเวณใต้ตา จากนั้นหลับตาแล้วใช้นิ้วนางกดเบา ๆ ที่บริเวณใต้ตาจากซ้ายไปขวา นวดขอบเบ้าตาด้านบน เริ่มจากหัวตาออกไปทางหางตาซ้ำไปมา 10 ครั้ง เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ไม่ให้กระจุกอยู่บริเวณใต้ตา ทำให้รอยดำดูจางจง

การแต่งหน้า

การแต่งหน้าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถลบขอบตาดำได้ภายในไม่กี่นาที ด้วยการใช้เครื่องสำอางเพื่อปกปิดรอยดำ แต่วิธีนี้เป็นวิธีที่สามารถลบขอบตาดำได้แบบชั่วคราวเท่านั้น เพราะเมื่อมีการล้างเครื่องสำอางออกไปก็จะทำให้เห็นรอยดำเหมือนเดิม

แก้ขอบตาดำด้วยผลไม้

การใช้ผลไม้ที่อุดมไปด้วยด้วยวิตามินเค วิตามินซีวิตามินเอและวิตามินอี เบต้าแคโรทีน ไลโคปีน มาทำการมาร์คบริเวณใต้ตา ก็จะช่วยทำให้ผิวใต้ตามีความกระจ่างใสยิ่งขึ้น นอกจากนี้การรับประทานผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ ที่มีสารสกัดจากแบล็คเคอร์แร้นท์มีแอนโทไซยานินที่ให้ออกซิเจนแก่เนื้อเยื่อผิวหนัง ก็จะช่วยปรับปรุงการไหลเวียนของโลหิตบริเวณรอบดวงตา ทำให้รอยขอบตาดำดูจางลง

ทาวิตามินแก้ขอบตาดำ

การทาวิตามินเป็นการใช้สารสกัดจาก vitamin K vitamin C, vitamin A และ vitamin E ทาลงไปที่บริเวณใต้ตาเป็นประจำทุกวันเช้า-เย็น ก็จะช่วยลดความหมองคล่ำของใต้ตาลงได้ แต่ไม่สามารถใช้ในการรักษาปัญหาขอบตาดำได้โดยตรง

ใช้ช้อนประคบใต้ตา

เป็นวิธีที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินผ่านๆมาแล้วบ้าง ซึ่งทำโดยการเอาช้อนที่เป็นโลหะไปแช่ไว้ในตู้เย็นสัก 10-15 นาที จากนั้นนำมาประคบบริเวณใต้ตาเพื่อให้ความเย็นถูกส่งลงไปยังใต้ชั้นผิว เพื่อช่วยชะลอการไหลเวียนของเลือดบริเวณใต้ตา ส่งผลให้ขอบตาดำ และความบวมดูลดลง ผิวใต้ตาดูกระชับขึ้น

วิธีแก้ขอบตาดำ แบบเร่งด่วน

ในกรณีที่คุณต้องการแก้ไขปัญหาขอบตาดำแบบเร่งด่วน เพื่อให้เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหรือเห็นผลการเปลี่ยนแปลงภายใน 7-14 วัน สามารถรักษาได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

ฉีด Filorga ใต้ตา

การฉีดเมโสใต้ตา เป็นการฉีดวิตามินบำรุงที่มีส่วนประกอบของมี HA เข้าไปที่บริเวณใต้ตา ซึ่งสาร HA นี้จะมีคุณสมบัติสามารถช่วยแก้ปัญหาขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ ริ้วรอยใต้ตา ผิวแห้ง ให้กลับมาชุ่มชื้น และมีความอิ่มฟูช่วยทำให้บริเวณใต้ตาดูเต็มขึ้น และเมโสใต้ตาที่กังนัมคลินิกเลือกใช้คือ Filorga เนื่องจากศูนย์การวิจัยของประเทศฝรั่งเศส (French Research Center) ได้มีการพิสูจน์แล้วว่าช่วยฟื้นฟูผิวใต้ตาให้กลับมาเปล่งปลั่งได้อีกครั้งใน 14 วัน

เติมฟิลเลอร์ใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการแก้ปัญหาใต้ตาที่ตรงจุดมากที่สุด โดยการฉีดสารไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งที่สร้างขึ้นเพื่อเลียนแบบสารธรรมชาติในร่างกายจึงมีความปลอดภัยสูง เข้าไปเติมเต็มบริเวณใต้ตาในบริเวณที่มีปัญหา เช่น ริ้วรอย มีถุงใต้ตา ขอบตาดำ เบ้าตาลึก โดยฟิลเลอร์จะมีคุณสมบัติอุ้มน้ำ และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว จึงทำให้หลังการฉีดผิวใต้ตาดูเต็มขึ้น สิวรอยดูจางลง ขอบตาดำดูกระจ่างใสเป็นธรรมชาติขึ้นทันที ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสำหรับฉีดใต้ตาได้แก่ Restylane, Juvederm และ Belotero

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี มีรุ่นอะไรบ้าง เลือกยังไงให้ได้ผลและเป็นธรรมชาติ

เลเซอร์ขอบตาดำ

การเลเซอร์รักษารอยคล้ำใต้ตา เป็นการกำจัดเม็ดสีผิดปกติหรือเม็ดสีส่วนเกินออกจากผิวหนัง โดยเลเซอร์ที่ใช้จะต้องเป็นเลเซอร์ที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่ทำร้ายผิวชั้นนอกและเนื้อเยื่ออื่นๆ ซึ่งเลเซอร์ที่นิยมในปัจจุบันคือ Picosecond Laser ให้ผลลัพธ์ทำให้ใต้ตาสว่างและมีความกระชับเรียบเนียนขึ้นทันที

ทำทรีตเมนต์ใต้ดวงตา

การทำทรีตเมนต์บำรุงใต้ตา เป็นการใช้สารสกัดเข้มข้นที่มีส่วนผสมของ สารบำรุงวิตามินต่างๆ และ Whitening โดยการผ่านเครื่องมือที่มีนวัตกรรมสำหรับการผลักวิตามินและสารบำรุงเพื่อให้ลงไปสู่ใต้ชั้นผิวได้อย่างล้ำลึก ทำให้เกิดการฟื้นฟูและปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสขึ้น รอยดำคล้ำใต้ตาจางลง

การป้องกันปัญหาขอบตาดำ

การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันปัญหาขอบตาดำ

รอยหมองคล้ำหรือรอยดำใต้ตาสามารป้องกันได้ ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ช่วยได้ 100% แต่ก็ช่วยไม่ทำให้ขอบตามีปัญหาแย่ลงกว่าเดิมได้ เช่น

  • ใช้ครีมกันแดด ที่มี SPF 30 PA+++ ซึ่งจะมาคุณสมบัติป้องกันรังสี UVA และ UVB ให้ทั่วหน้าและตำแหน่งรอบตา
  • ใช้อายครีม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับใต้ตาโดยเฉพาะ
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
  • การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น
  • ไม่ขยี้ตา การขี้ตาจะทำให้ผิดใต้ตาเสียหายจนเกิดความริ้วร้อย และปัญหาขอบตาดำได้
  • ระวังไม่ให้เกิดภูมิแพ้ เนื่องจากภูมิแพ้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ขอบตาดำ
  • ลดการใช้สายตา การใช้สายตามากๆจากการดูโทรทัศน์ หรือจ้องหน้ามือถือเป็นเวลานานๆก็อาจทำให้ขอบตาดำได้
  • งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เนื่องจากอาจทำให้เส้นเลือดใต้ผิวหนังขยายตัวจนเห็นเป็นรอยคล้ำใต้ดวงตา

คำถามอื่นๆ ที่พบบ่อย

แค่ทาอายครีมแก้ขอบตาดำได้จริงไหม

อายครีมเป็นสกินแคร์ที่มักมีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยรักษาความชุ่มชื้น ช่วยป้องกันริ้วรอยให้แก่ผิวใต้ตา ช่วยลดอาการบวม และช่วยลดรอยคล้ำรอบดวงตาได้หากมีการใช้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน และอาจต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 เดือนขึ้นไปจึงจะเห็นผล แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหามีปัญหาขอบตาดำมากๆ จากโรคภูมิแพ้ หรือการยุบตัวเนื่องจากเนื้อเยื่อเสื่อมสภาพ การทาอายครีมเพียงอย่างเดียวก็อาจไม่ได้ช่วยมากเท่าที่ควร

สรุป

เนื่องจากปัญหาขอบตาดำเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และในบางสาเหตุการทาอายครีมเพียงอย่างเดียวก็ไม่สามารถเห็นผลลัพธ์การรักษาขอบตาดำได้ ดังนั้นจึง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้ใช้ทำการวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่แท้จริง เพื่อให้ได้รับการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด ซึ่งอาจจะต้องใช้การทาอายครีมร่วมกับการรักษาขอบตาดำด้วยวิธีอื่นจึงจะเห็นผลที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

เอกสารอ้างอิง
1. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/17760701/
2. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/24719068/
3. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4756872/

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง