ฉีด Filorga ใต้ตา คืออะไร อยู่ได้นานไหม ต่างจากฉีดฟิลเลอร์อย่างไร?

ฉีด Filorga ใต้ตา คืออะไร

เชื่อว่าคงเป็นคำถามคาใจของใครหลายๆ คนกันอยางมากว่า Filorga VS ฟิลเลอร์ใต้ตาต่างกันอย่างไร? คำตอบก็คือ Filorga (ฟิลอก้า) เป็นการฉีดเมโสหน้าใสประเภทหนึ่งที่มีส่วนผสมของ ไฮยาลูรอนิค แอซิด ประเภทโมเลกุลเดี่ยว (Non Cross -Linked) จะที่ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ปรับผิวใต้ตาให้กลับมากระจ่างใสอีกครั้ง ส่วนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็คือการฉีดฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มประเภท HA (Hyaluronic acid) ประเภทโมเลกุลที่มีการเชื่อมเกาะกัน (Cross-Linked) เข้าไปช่วยแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ เติมร่องใต้ตา แก้ปัญหาริ้วรอย

Filorga (ฟิลอก้า) คืออะไร

อธิบายเชิงเปรียบเทียบแบบง่ายๆ เลยก็ คือ การฉีด Filorga (ฟิลอก้า) เสมือนการฉีดตัวยาบำรุงผิวเพื่อไปช่วยปรับให้ผิวส่วนนั้นเกิดความกระจ่างใสขึ้นเหมาะกับคนตาคล้ำเล็กน้อย ส่วนการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) เสมือนการฉีดสารเข้าไปเติมเต็มชั้นผิวบริเวณร่องใต้ตาให้ดูตื้นขึ้น ให้ริ้วรอยต่างๆ จางลงนั่นเอง เหมาะกับคนที่ใต้ตาคล้ำมากๆ มีร่องตาลึก มีถุงใต้ตา

ระยะเวลาการเห็นผลของ Filorga VS ฟิลเลอร์ใต้ตา

ต้องบอกเลยว่าถึงแม้ทั้งคู่จะมีขั้นตอนการทำที่คล้ายคลึงกัน แต่ต่างก็มีระยะเวลาการเห็นผลที่แตกต่างกันมากๆ ดังนี้

  • ระยะเวลาการเห็นผลของ Filorga
    สามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ แนะนำให้ฉีดประมาณ 3-5 ครั้งโดยเว้นระยะ 2 สัปดาห์ต่อครั้งเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และหลังจากนั้นสามารถทำเดือนละ 1 ครั้งเพื่อคงผลลัพธ์ห้ยาวนานยิ่งขึ้น
  • ระยะเวลาการเห็นผลของ ฟิลเลอร์ใต้ตา
    สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังทำ โดยจะมีระยะเวลาเห็นผลประมาณ 6-12 เดือนขึ้นอยู่กับยี่ห้อรวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังฉีด ซึ่งหลังครบระยะเวลาแล้วสามารถไปฉีดเติมฟิลเลอร์ได้

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ลดปัญหาใต้ตาดำคล้ำ ปลอดภัยได้ผลจริง

ผลข้างเคียงของ Filorga VS ฟิลเลอร์ใต้ตา

เนื่องจากทั้ง Filorga และฟิลเลอร์ใต้ตาต่างมีวิธีขั้นตอนการรักษาที่เหมือนกัน จึงทำให้มีผลค้างเขียงที่คล้ายคลึงกันเช่น มีรอยแดง รอยเข็มหรืออาการบวมของตัวยา ซึ่งอาการดังกล่าวจะหายไปเองภายใน 3-4 ชั่วโมง

การดูแลตัวเองหลังทำ

  • งดแต่งหน้า ทาครีมบำรุงผิวบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 12 ชั่วโมงเพื่อป้องกันการติดเชื้อจากแผลรอยเข็ม
  • งดออกกำลังกายอย่างหนักและอยู่ในที่มีอากาศร้อนเป็นเวลา 48 ชั่วโมง
  • งดทำเลเซอร์หรือทรีตเมนต์หน้าที่ต้องใช้ความร้อนเป็นเวลา 1 เดือน
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดการสูบบุหรี่ รวมถึงงดทานอาหารหมักดอง

วิธีเลือกคลินิกสำหรับทำ Filorga กับ ฟิลเลอร์ใต้ตา

การเลือกคลินิกถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการทำหัตถการทางความงามเป็นอย่างมาก ซึ่งก่อนจะตัดสินใจเลือกทำนั้นจะต้องตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ทั้งหมด 5 อย่างหลักๆ ดังนี้

  • คลินิกเปิดบริการอย่างถูกต้องตามกฎหมายไหม?
    เพราะจะมีแค่คลินิกที่เปิดให้บริการอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้นที่จะสามารถสั่งซื้อตัวยา Filorga และฟิลเลอร์ใต้ตาได้ เนื่องจากบางยี่ห้อจะต้องมีการใช้เลขใบอนุญาต 11 หลักในการสั่งซื้อ และตัวเลขดังกล่าวสามารถนำเลข 11 หลักไปตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ checkmd.tmc.or.th
  • แพทย์ผู้ทำการรักษาเก่งไหม?
    เพราะการฉีด Filorga และฟิลเลอร์ใต้ตานั้นต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูงมาก เนื่องจากเป็นบริเวณใกล้ดวงตาซึ่งหากไม่ชำนาญมากพอก็อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงขึ้นได้ โดยคนไข้สามารถตรวจสอบข้อมูลว่าเป็นแพทย์จริงหรือไม่ได้ที่ เว็บไซต์ แพทยสภาด้วยการนำชื่อแพทย์ไปค้นหาได้เลย
  • คลินิกต้องมีบริการดูแลหลังทำดีไหม?
    คลินิกควรมีการติดตามผลคนไข้หลังทำ ว่ามีอาการผิดปกติอะไรไหม มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง และหากมีก็ควรมีการแสดงความรับผิดชอบต่อคนไข้ด้วย
  • มีราคาที่สมเหตุสมผลไหม?
    ก่อนทำทางคลินิกต้องมีการแจ้งราคาให้ครบถ้วนและชัดเจน เพื่อป้องกันการบวกเพิ่มหลังรับบริการ และไม่ควรมีการเก็บค่าบริการเพิ่มเติมที่นอกเหนือจากการรักษา
  • มีรีวิวจากลูกค้าจริงไหม?
    การเช็กรีวิวก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะทำให้เราสามารถรู้ได้เลยว่า ฝีมือของคุณหมอเก่งไหม คลินิกดูแลและให้บริการดีมากน้อยแค่ไหน

คำถามที่ทุกคนสงสัยเกี่ยวกับ Filorga

Filorga และ ฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม

การทำ Filorga และ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นต่างเป็นหัตถการความงามที่มีความปลอดภัยมากๆ หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้มีการรับรองความปลอดภัยจากอย. และใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ทำการรักษา

Filorga เจ็บไหม

ถือเป็นอีกหนึ่งความกังวลเป็นอย่างมาก ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าความรู้สึกตอนทำจะไม่เจ็บเลยเพราะ การฉีด Filorga ก่อนทำจะมีการแปะยาชาหรือประคบเย็นเข้าช่วย ส่วนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในตัวสารฟิลเลอร์จะมียาชาผสมอยู่แล้ว จึงทำให้ความรู้สึกเจ็บน้อยมากถึงไม่เจ็บเลย

Filorga ทำให้เสี่ยงตาบอดจริงไหม

ผลข้างเคียงนี้อาจเกิดขึ้นได้ หากใช้ตัว Filorga หรือ ฟิลเลอร์ของปลอม หรือฉีดกับแพทย์ที่ไม่ได้ความเชี่ยวชาญอย่าง “หมอกระเป๋า” เป็นต้น แต่หากเข้ารับบริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเป็นคนฉีดก็สามารถมั่นใจได้เลยว่าไม่เสี่ยงอันตรายหรือทำให้ตาบอดอย่างแน่นอน เพราะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่จะมีการอบรมและเทรนด์วิธีการฉีดให้ปลอดภัยมาก่อนแล้วทุกคน

สรุป

Filorga และ ฟิลเลอร์ใต้ตานั้นมีความแตกต่างกันอย่างมาก ซึ่งหากใครที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำเล็กน้อย และไม่มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึกต่างๆ สามารถฉีด Filorga ได้ แต่หากมีแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะตอบโจทย์ปัญหาได้อย่างครอบคลุมมากกว่า ซึ่งหากหนุ่มๆ สาวๆ คนไหนที่กำลังมองหาคลินิกในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาขอแนะนำที่กังนัมคลินิก คลินิกที่ได้มาตรฐานมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลและให้บริการอย่างใกล้ชิดทุกเคส นอกจากนั้นยังมียี่ห้อฟิลเลอร์ของแท้ให้เลือกหลายยี่ห้อในราคาที่เหมาะสมอีกด้วย ทำกับกังนัมคลินิกปลอดภัย เพิ่มความมั่นใจได้อย่างแน่นอน หากที่สนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบบถามรายละเอียดการรักษาและค่าใช้จ่ายก่อนได้ที่ Line: @gangnamclinic

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง