บราซิลเลี่ยนแว็กซ์ (Brazilian Wax) คืออะไร? เจ็บไหม? ทำแล้วดีจริงไหม

เวลาไปเที่ยวทะเล การใส่บิกินี่ถ่ายรูป หรือใส่บิกินี่เดินเล่นชายหาดเพื่ออวดหุ่นสวยๆ ก็เป็นอีกหนึ่งความสุขของสาวๆ แต่ว่าความสุขนั้นกลับต้องสะดุดลงเพราะความกังวลว่าขนน้องสาวจะโผล่พ้นขอบบิกินี่ออกมา เนื่องจากยังมีสาวๆหลายคนที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับการกำจัดขนในบริเวณนี้สักเท่าไหร่ จนทำให้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก วันนี้เราจะมาแนะนำการกำจัดขนในที่ลับของสาวๆด้วยการแว็กซ์บราซิลเลี่ยน (Brazilian Wax) ซึ่งมีข้อควรรู้ทั้งก่อนและหลังทำอะไรบ้างมาติดตามกันเลย

การแว็กซ์บราซิลเลี่ยน คืออะไร?

การแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยน คือการใช้แว็กซ์หรือขี้ผึ้งกำจัดขนบริเวณใกล้เคียงกับอวัยวะเพศ ในส่วนของด้านหน้า ตรงกลาง และด้านหลัง โดยจะเหลือเส้นขนไว้ตรงบริเวณด้านหน้าเพียงเล็กน้อย เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและการเสียดสี

แว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยน ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?

1. ช่วยให้ทำความสะอาดในบริเวณอวัยวะเพศง่ายขึ้น
2. ช่วยลดปัญหาคันยุบยิบที่กวนใจให้หมดไป
3. ช่วยลดกลิ่นอับและความชื้นน้องสาว โดยเฉพาะในช่วงประจำเดือน
4. ช่วยลดแหล่งสะสมของแบคทีเรียและเชื้อรา ซึ่งเป็นที่มาของอาการตกขาว และโรคติดต่อทางเพศ
5. ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการสวมใส่ชุดเซ็กซี่ต่างๆ

ใครบ้างที่เหมาะกับการแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยน

1. เหมาะกับทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่ต้องการให้บริเวณอวัยวะเพศมีความเกลี้ยงเกลา
2. เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความเซ็กซี่ ในการสวมใส่ชุดว่ายน้ำ
3. ผู้ที่ต้องการให้บริเวณอวัยวะเพศมีผิวที่เรียบเนียนเหมือนผิวเด็ก
4. ผู้ที่มีปัญหาขนน้องสาวดก ต้อการเพิ่มความเป็นระเบียบให้กับเส้นขน
5. ผู้ที่มีอาชีพถ่ายแบบที่ต้องมีการใส่เสื้อผ้าหลากหลาย

การแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยน เจ็บไหม?

การแว็กซ์ขน คือการกำจัดขนด้วยการดึงกระชากเพื่อให้เส้นขนหลุดออกมาได้ในจำนวนมากที่สุด ดังนั้นการแว็กซ์ขนจึงเป็นการกำจัดขนที่ทำให้รู้สึกความเจ็บปวดโดยเฉพาะการแว็กซ์ขนครั้งแรก แต่หากทำบ่อยๆหลายครั้งก็อาจจะเกิดความเคยชินจนสามารถทนความเจ็บนั้นได้เอง

การแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยน มีกี่แบบ?

แบบร้อน

การแว็กซ์แบบร้อน เป็นการใช้แว็กซ์กำจัดขนประเภทที่ต้องมีการอุ่นก่อนนำมาทาลงบนผิว เพื่อทำให้เนื้อแว็กซ์ละลายตัวลง สามารถยึดติดกับผิวหนังได้มากที่สุด นิยมสำหรับตรงบริเวณบอบบางของร่างกาย เช่นการแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยน ซึ่งการแว็กซ์แบบร้อนจะให้ความซับซ้อนกว่าการแว็กซ์ขนแบบเย็น

แบบเย็น

แว็กซ์แบบเย็น เป็นการใช้แว็กซ์ที่มีส่วนประกอบหลักจากธรรมชาติมาใช้ เช่น น้ำตาล ซึ่งสามารถทาลงบนผิวจากนั้นปล่อยไว้ให้แห้งแล้วลอกออกได้ทันที เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเคยทำการแว็กซ์ขนเป็นครั้งแรกหรือผู้ที่มีผิวที่ค่อนข้างแพ้ง่าย แต่อาจทำให้เส้นขนขาดออกจากรากได้ง่ายกว่าแว็กซ์แบบร้อน

การแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยน มีข้อดี-ข้อเสีย อย่างไร?

การแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยนแว็กซ์เป็นการกำจัดขนตรงบริเวณจุดซ่อนเร้น ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะให้ความสะดวก และสามารถกำจัดขนได้จำนวนมากในครั้งเดียว แต่ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ทุกคนจะต้องทราบดังนี้

ข้อดีของการแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยน

• ได้ผิวที่เรียบเนียนไม่เป็นตอแข็งเหมือนกับการโกน
• เนื้อแว็กซ์มีส่วนประกอบจากธรรมชาติจึงให้ความปลอดภัยไม่เป็นอันตรายกับน้อง ๆ ของเราอย่างแน่นอน
• ช่วยกำจัดขนให้หลุดออกไปได้เกือบหมดในครั้งเดียว
• ช่วยลดอาการคันเมื่อมีขนขึ้นใหม่
• ช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น เป็นการเพิ่มสุขอนามัยที่ดี

ข้อเสียของการแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยน

• หากแว็กซ์ขนบ่อยครั้งอาจเกิดการอักเสบของรูขุมขนและผิวหนังได้
• มีขั้นตอนในการแว็กซ์ขนที่ไม่สะอาด สามารถเกิดการติดเชื้อตามมาได้
• อาจทำให้เกิดการงอกของเซลล์ผิวใหม่ เป็นสาเหตุทำให้รูขุมขนอุดตันได้
• การแว็กซ์ขนให้ความรู้สึกเจ็บในขณะทำ โดยเฉพาะบริเวณที่ผิวหนังบอบบาง

การแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยน ปลอดภัยไหม?

เนื่องจากในตัวแว็กซ์มีส่วนประกอบจากธรรมชาติ จึงค่อนข้างให้ความปลอดภัยสูงไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนังด้านบน แต่สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางหรือผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ มีโรคผิวหนัง หรือเคยแพ้ส่วนประกอบในแว็กซ์ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการกำจัดขนด้วยวิธีนี้ เพราะอาจทำให้มีข้างเคียงที่รุนแรงได้

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยน

• หากต้องการแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยน จะต้องมีขนยาวมีความยาวของขนประมาณ 1/8 ถึง 1/4 นิ้ว เพื่อให้แว็กซ์สามารถจับกับเส้นขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และดึงขนออกจากรากโดยไม่ให้เส้นขนขาด
• ในวันที่จะทำการแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยน ห้ามสครับทำความสะอาดผิว เพราะจะทำให้ขนของคุณขาดเมื่อทำการแว็กซ์ ดังนั้นหากต้องการแว็กซ์ได้มีประสิทธิภาพ ควรทำการสครับผิวก่อน 1 วัน
• การแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยน อาจทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบ และทำให้รู้สึกเจ็บปวดได้ ดังนั้น หากกังวลสามารถขอแปะยาชาเพื่อลดความรู้สึกได้
• หลีกเลี่ยงการแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยนในช่วงใกล้ประจำเดือน โดยเว้นระยะ 5 วันก่อนและ 5 วันหลังการเป็นประจำเดือน เพราะในช่วงเวลานี้ร่างกายมีความไวต่อความรู้สึกมาก อาจทำให้รู้สึกเจ็บมากกว่าเดิม
• การแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยน จำเป็นจะต้องทำในร้านที่มีความน่าเชื่อถือ เพราะเป็นจุดที่อ่อนโยนมาก ดังนั้นจะต้องมั่นใจก่อนว่าทางร้านจะมีความเป็นมืออาชีพ
• การแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยนเป็นการกำจัดขนแบบชั่วคราวเท่านั้น ไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ถาวร

การแว็กซ์บราซิลเลี่ยนมีกี่ทรง

ทรงขนที่ได้รับความนิยมที่มีคนทำมากที่สุด สำหรับการแว็กซ์บราซิลเลี่ยน มีด้วยกันทั้งหมด 4 ทรงดังนี้

• ทรง Landing Strip เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบคลาสสิค เหมาะต้องการให้น้องสาวเรียบร้อย สามารถใส่บิกินนี่ที่มีเส้นเล็กได้โดยไม่ต้องกังวลว่าขนจะโผล่
• ทรง Bermuda Triangle รูปทรงสามเหลี่ยมกลับหัวลง เป็นทรงยอดฮิตสำหรับสาวๆ ที่ชอบไปทะเล เพื่อเสริมความมั่นใจเวลาใส่ชุดบิกินี่ หรือชุดชั้นในแบบเอวต่ำ และเว้าโคนขาสูงค่ะ
• ทรง Desert Island รูปทรงสามเหลี่ยมที่เล็กกว่าทรง Bermuda Triangle เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเกลี้ยงเกลาเรียบเนียนมากขึ้น แต่ก็ยังคงอยากเก็บขนไว้บางส่วน
• ทรง Love Heart รูปทรงหัวใจที่เหมาะสำหรับคนที่มีความโรแมนติกหรือคนที่กำลังมีความรัก ซึ่งคุณสามารถเลือกขนาดหัวใจได้ตามที่ต้องการ แต่ทรงนี้อาจทำให้เกิดขนคุดได้ เนื่องจากอาจจะต้องมีการแว็กซ์ไปในทิศทางตรงกันข้ามเส้นขน เพื่อให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ

การเตรียมตัวก่อนแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยนมีอะไรบ้าง

• ควรศึกษาข้อมูลจากร้านแว็กซ์ขนที่มีความเชี่ยวชาญน่าเชื่อถือด้วยตัวเอง
• เตรียมผิวให้สะอาดด้วยการสครับผิวอย่างน้อย 1 วัน
• ห้ามเล็ม โกน ถอนขนโดยเด็ดขาด เพื่อให้เส้นขนมีความยาวที่สามารถดึงออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• งดการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ผสมอยู่ อย่างน้อย 3 วัน เพราะอาจทำให้ผิวมีอาการบวมได้ง่าย

ขั้นตอนการแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยน

1. ทำความสะอาดหรือเช็ดผิวตรงบริเวณที่ต้องการกำจัดขน เพื่อป้องกันเชื้อโรค
2. เตรียมอุปกรณ์และผสมเนื้อครีมของแว็กซ์ให้พร้อม
3. ทาผลิตภัณฑ์ลงไปตรงบริเวณที่ต้องการกำจัดขนให้ทั่ว และปล่อยให้เนื้อครีมแห้งสนิท
4. ดึงเนื้อครีมไปในทิศทางเดียวกับเส้นขนเพื่อป้องกันไม่ใช้เส้นขนขาด และช่วยลดความเจ็บปวดลงได้
5. ควรเช็ดทำความสะอาดผิวอีกครั้งให้หมดจด เพื่อลดการติดเชื้อ ถือเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยน

การดูแลตัวเองหลังการแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยน?

• สครับทำความสะอาดผิวหลังจากการแว็กซ์ขนประมาณ 2-3 วัน
• งดการออกกำลังกายหลังแว็กซ์ขน อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้เหงื่อออกมากจนทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง
• งดการอาบน้ำร้อน หรือกิจกรรมทางแจ้งทุกชนิด
• ไม่ควรสวมใส่กางเกงหรือชั้นใจที่รัดรูปจนเกินไป
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่แว็กซ์ เพราะการสัมผัสบ่อยๆ อาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง และเกิดขนคุดได้
• หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำ การลงแช่ในอ่างอาบน้ำ หรือการลงเล่นน้ำทะเล เพราะอาจทำให้ผิวอักเสบและระคายเคืองได้

ผลข้างเคียงของการแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยน

หลังการแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยนอาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง ปวดแสบ หรือมีผื่นแพ้แดง ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะไม่เป็นอันตรายและจะค่อยๆดีขึ้นเองภายใน 24 ชั่วโมง แต่สำหรับใครที่กังวลสามารถประคบเย็นเพื่อช่วยลดอาการให้หายได้เร็วขึ้น

การแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยนต้องทำกี่ครั้งเห็นผล

การแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยนเพื่อให้มีเส้นใหม่ขึ้นน้อยลง ควรทำอย่างน้อย 5 ครั้งขึ้นไป โดยมีการเว้นระยะ 3-4 สัปดาห์/ต่อครั้ง ซึ่งหลังจากที่ทำอย่างต่อเนื่องอาจจะเห็นได้ว่าเส้นขนมีการขึ้นช้าลง

นอกจากการแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยนแล้วสามารถกำจัดขนด้วยวิธีไหนได้อีกบ้าง

• โกน เป็นการกำจัดขนแบบชั่วคราว ใช้ใบมีดโกนกำจัดเส้นขนซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่สะดวกให้ความรวดเร็วที่สุดเป็นวิธีที่นิยมใช้กันเป็นอย่างมากทั้งผู้ชายและผู้หญิง
• ถอน เป็นวิธีการกำจัดขนแบบดั้งเดิมที่ยังมีหลายๆ คนเลือกใช้อยู่เป็นประจำเพราะง่ายสะดวก ประหยัดค่าใช้จ่ายสามารถกำจัดเส้นขนออกไปได้หมด แต่ต้องแลกกับความเจ็บปวด และค่อนข้างใช้เวลาในการกำจัดขนที่นาน เพราะต้องถอนออกทีละเส้น
• ครีมกำจัดขน เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กำจัดขนที่มีส่วนประกอบของสารเคมีชนิดต่างๆ ออกฤทธิ์เป็นด่างสูงที่สามารถเข้าไปทำลายเคลาตินบนเส้นขน ทำให้เส้นขนหลุดออกได้ง่าย แต่บางคนอาจเกิดอาการแพ้ตามมาได้
• การทำเลเซอร์ขนบราซิลเลี่ยน เป็นการกำจัดขนด้วยแสงเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นสูง Long Pulse ND Yag ซึ่งเป็นเลเซอร์ที่ดีที่สุดในไทย ที่มีความยาวคลื่นในระดับ 1,064 นาโนเมตร สามารถผ่านไปได้ถึงผิวหนังชั้นหนังแท้ (Dermis) เพื่อทำลายเม็ดสีหรือเซลล์สร้างสี ที่ชื่อว่า เมลาโนไซต์ (Melanocyte) จึงทำให้หลังการทำเลเซอร์เส้นขนมีการหลุดร่วงออกไปได้ทั้งราก ทำให้เส้นขนบางลงและสีอ่อนลงตั้งแต่ครั้งแรก โดยไม่มีผลข้างเคียงต่อผิวบริเวณรอบข้าง และเมื่อทำอย่างต่อเนื่องจะได้ผลลัพธ์ที่ถาวร

บทความแนะนำ : 7 วิธีกำจัดขนน้องสาว ไม่คัน เจ็บน้อย วิธีไหนให้ผลลัพธ์แบบธรรมชาติ

นอกจากนี้ Long Pulse ND Yag ยังมีประสิทธิภาพในช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Collagen) เพื่อให้ผิวบริเวณที่ทำเลเซอร์มีความเรียบเนียนกระจ่างใสขึ้นในขณะที่กำจัดขนอีกด้วย

เปรียบเทียบการแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยน VS เลเซอร์ขนบราซิลเลี่ยน

การแว็กซ์ขนบราซิลเลี่ยน เป็นการใช้สารสกัดจากธรรมชาติทางลงบนเส้นขน เพื่อดึงให้เส้นขนหลุดออกพร้อมกับราก แต่ไม่ใช่การกับจัดที่รากขนโดยตรง จึงไม่ได้ผลลัพธ์อย่างถาวร ให้ความเจ็บปวดมากในขณะทำ และเสี่ยงต่อการเกิดขนคุดทำให้รูขุมขนอักเสบได้อีกด้วย

การทำเลเซอร์บราซิลเลี่ยน เป็นการใช้พลังงานความร้อนลงสู่รากขน เพื่อทำลายเซลล์เม็ดสีที่เป็นต้นกำเนิดของเส้นขน เมื่อเซลล์เม็ดถูกกำจัดออกไปรากขนจึงอ่อนแอและหลุดร่วงออกไปอย่างง่ายดาย โดยไม่ทำให้รู้สึกเจ็บและเมื่อทำต่อเนื่อง 5 ครั้งขึ้นไป จะเห็นได้ว่าแทบไม่มีเส้นขนกลับขึ้นมาให้เห็นอีกเลย จึงสามารถให้ผลลัพธ์ที่ถาวร

อ่านบทความเพิ่มเติม : เจาะลึก เลเซอร์บราซิลเลี่ยน คืออะไร? เหมาะกับกำจัดขนส่วนไหนบ้าง ดีจริงไหม?

เลือกกำจัดขนบราซิลเลี่ยนแบบไหนดี?

• เลือกกำจัดขนกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข มีการแสดงใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลอยู่ชัดเจน มีป้ายชื่อสถานพยาบาล และเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก
• สถานที่จะต้องไม่อับทึบ มีความสะอาด โปร่ง สว่าง มีอุปกรณ์ เครื่องมือ ยาและเวชภัณฑ์อย่างครบถ้วน พร้อมใช้ และควรมีห้องหัตถการและพื้นที่กว้างขวาง
• เลือกทำกับคลินิกที่สามารถตรวจสอบได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นของแท้ และเช็คกับบริษัทนำเข้าได้
• เลือกกำจัดขนบราซิลเลี่ยนกับผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์ สามารถการันตีความปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการได้
• เลือกทำสถานให้บริการที่มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง สามารถไว้ใจได้ และมีขั้นตอนการทำที่ถูกต้องตามสุขอนามัย

รีวิวเลเซอร์ขนบราซิลเลี่ยน

สรุป

การแว็กซ์ขนสามารถทำด้วยตัวเองได้ง่ายๆที่บ้าน แต่ไม่สามารถกำจัดขนทุกเส้นให้ออกหมดจดได้ ดังนั้นควรเข้ารับบริการจากมืออาชีพเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการตั้งแต่ครั้งแรก Long Pulse ND Yag เป็นเครื่องเลเซอร์ที่นำเข้าจากประเทศอิตาลี ซึ่งผ่านการรับรองความปลอดภัยจากทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ Long Pulse ND Yag ยังมี Dynamic Cooling Device ที่ปล่อยก๊าซความเย็นเพื่อเพิ่มความปลอดภัย และลดความเสี่ยงของการเบิร์นที่ผิว